ด่วน ศาลสั่งประหาร ‘นวัธ-ส.ส.ดังขอนแก่น’ จ้างวานฆ่าปลัดอบจ.

ด่วน ศาลสั่งประหาร ”นวัธ-ส.ส.ดังขอนแก่น” จ้างวานฆ่าปลัด อบจ.

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 24 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาล จ.ขอนแก่น ได้นัดอ่านคำพิพากษาในคดีเลขดำที่ อ.929/61 ระหว่างฝ่ายโจทก์คือพนักงานอัยการ จ.ขอนแก่น และฝ่ายจำเลย คือนายนวัธ เตาะเจริญสุข ส.ส.ขอนแก่น เขต 7 พรรคเพื่อไทย ในข้อหาฐานก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิด โดยทั้งฝ่ายจำเลย ฝ่ายโจทก์ รวมทั้งทนายความและพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ได้เดินทางมารายงานตัวต่อศาล เพื่อรับฟังคำพิพากษาที่ห้องพิจารณาคดีที่ 7 ของศาล จ.ขอนแก่น โดยศาลได้ใช้เวลาในการอ่านคำพิพากษาประมาณ 1 ชม. โดยมีคำพิพากษาประหารชีวิต นายนวัธ เตาะเจริญสุข ส.ส.ขอนแก่น เขต 7 พรรคเพื่อไทย และให้ชดใช้ค่าปลงศพเป็นเงิน 300,000 บาท

อนึ่ง คดีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงนายสุชาติ โคตรทุม อดีตปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น เสียชีวิตที่หน้าบ้านพัก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2556 สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุทั้งหมด 5 คน มี ด.ต.วีระศักดิ์ ชำนาญผล จำเลยที่ 1, พ.ต.ท.สมจิตร แก้วพรม รอง ผกก.(ป.) สภ.หนองเรือ จำเลยที่ 2, นายประพันธ์ ศรีพิลัย จำเลยที่ 3, นายบุญช่วย จูงกลาง จำเลยที่ 4 และนายปิยะพงษ์ มีกำบัง จำเลยที่ 5 ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และ พ.ร.บ.อาวุธปืน ซึ่งต่อมาศาล จ.ขอนแก่น ได้ออกหมายจับ นายนวัธ เตาะเจริญสุข ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 7 ขอนแก่น ในข้อหากระทำความผิดฐานจ้างวานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน หลังมีหลักฐานเชื่อมโยง เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2561

กระทั่งวันที่ 29 ต.ค.57 ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาในคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และ พ.ร.บ.อาวุธปืน โดยจำเลยทั้ง 5 คือ 1.ด.ต.วีระศักดิ์ ชำนาญพล 2.พ.ต.ท.สมจิตร แก้วพรม 3.นายประพันธ์ ศรีพิลัย 4.นายบุญช่วย จูงกลาง และ 5.นายปิยะพงษ์ มีกำบัง ส่วนผู้ตายคือนายสุชาติ โคตรทุม ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น โดยพิพากษาให้ พ.ต.ท.สมจิตร แก้วพรม จำเลยที่ 2 และนายประพันธ์ ศรีพิลัย จำเลยที่ 3 มีความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยมิได้ไตร่ตรองไว้ก่อน ด้วยเหตุแห่งพฤติกรรมมีการลงไปพูดคุยและผลักผู้ตายเข้าไปในรถ ประกอบกับรถที่จอดขวางผู้ตายมิใช่ลักษณะเตรียมพร้อมจะหลบหนี จึงไม่น่าจะเป็นการตั้งใจ เพราะถ้าเช่นนั้นต้องมีการลงมือทันที แต่ยังมีการพูดคุย มีการทำร้ายร่างกายก่อนลงมือยิง ดังนั้นจึงพิพากษาจำเลยที่ 2 มีความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น ให้จำคุกตลอดชีวิต ขณะที่จำเลยที่ 3 ให้การเป็นประโยชน์ เป็นเหตุให้บรรเทาโทษให้ 1 ใน 4 รวมกับความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน คงให้จำคุกจำเลยที่ 2 ตลอดชีวิตสถานเดียว ส่วนจำเลยที่ 3 รวมโทษจำคุก 37 ปี 14 เดือน 30 วัน ส่วนจำเลยที่ 1 ที่ 4 และ 5 ซึ่งให้การปฏิเสธตลอดว่าไม่เกี่ยวข้อง และพยานหลักฐานไม่สามารถนำสืบได้ว่ารู้มาก่อนว่าจำเลยที่ 2 และ 3 จะมาฆ่าผู้ตาย จึงให้ยกฟ้อง โดยให้ขังระหว่างอุทธรณ์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image