“สสว.”โชว์ 6 โมเดลต้นแบบแก้ปัญหาความยากจนแม่ฮ่องสอน รับนโยบาย “บิ๊กตู่” ทำงานแบบบูรณาการ รัฐ-เอกชน

วันที่ 26 กันยายน ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ได้จัดพิธีปิดโครงการต้นแบบ การแก้ไขปัญหาความยากจน จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยนายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล รองปลัดกระทรวงการคลัง กลุ่มภารกิจด้านรายได้ กล่าวว่า โครงการนี้มีจุดเริ่มจากคราวที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้แก้ไขปัญหาความยากจนของจังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อคราวเดินทางไปตรวจราชการที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนเมื่อต้นปี 2561 โดยเน้นให้หน่วยงานภาครัฐบูรณาการความร่วมมือเรื่องการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีเพื่อความอยู่ดีมีสุขถ้วนหน้า รวมทั้งช่วยส่งเสริมอาชีพหรือผลิตภัณฑ์ของชาวบ้านโดยใช้เทคโนโลยีเพื่อเป้าหมายยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของชาวแม่ฮ่องสอน ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีของรัฐบาล ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนประเทศไทย 4.0

นายจารึก เหล่าประเสริฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า โครงการต้นแบบการแก้ไขปัญหาความยากจนฯ เป็นโครงการที่รัฐบาลให้ความสําคัญและได้มอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เป็นหน่วยงานหลักในการบริหารโครงการและสนับสนุนงบประมาณ เป็นการทำงานแบบบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนทั้งส่วนกลางและในพื้นที่ เพื่อดําเนินโครงการให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และความมั่นคง ตามแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศที่ได้ตั้งเอาไว้

Advertisement

นายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าว ว่า สสว.ได้จัดทําโครงการต้นแบบการแก้ไขปัญหาความยากจนในพื้นที่ ผ่าน 6 โมเดลต้นแบบ 7 กิจกรรม 10 กลุ่มวิสาหกิจ ได้แก่ 1. ต้นแบบการส่งเสริมการรวมกลุ่มวิสาหกิจพร้อมนํางานวิจัยมาใช้แบบครบวงจร กิจกรรมส่งเสริมต้นแบบการรวมกลุ่มวิสาหกิจเพื่อการปลูกบุกผสมผสานพืชอื่นโดยการนํางานวิจัยมาใช้ แบบครบวงจร แก่สมาชิกโครงการสร้างป่าสร้างรายได้ ตามพระราชดําริฯ รวม 300 ครัวเรือน ซึ่งสามารถเพิ่มรายได้เฉลี่ยครัวเรือนละไม่น้อยกว่า 28,500 บาท/ปี ในปีแรก และปีต่อไปเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 32,000 บาท/ปี และภาพรวมสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในพื้นที่ประมาณ 8.55 ล้านบาท

2.ต้นแบบการพัฒนายกระดับการผลิตเพื่อเพิ่มมูลค่า กิจกรรมพัฒนายกระดับการผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่ากลุ่มโครงการสร้างป่าสร้างรายได้ ตามพระราชดําริฯ ณ ศูนย์บริการและพัฒนาลุ่มน้ำปายตามพระราชดําริ จำนวน 15 ครัวเรือน และเครือข่ายผลผลิต จำนวน 200 ครัวเรือน สามารถเพิ่มรายได้แก่ครัวเรือนในกลุ่มผลิตสินค้าผ่านการจ้างงานเฉลี่ยครัวเรือนละไม่น้อยกว่า 79,000 บาท/ปี สร้างรายได้ให้เครือข่ายที่ขายผลผลิตครัวเรือนละ 4,200 บาท/ปี ในส่วนของการผลิตสินค้าจะมีรายได้ประมาณ 2.7 ล้านบาท/ปี จากการขายสินค้า ซึ่งสามารถใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการขยายการรับซื้อผลผลิตหรือจ้างงานเพิ่มในปีต่อๆ ไป และภาพรวมสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในพื้นที่ประมาณ 4.98 ล้านบาท

3. ต้นแบบการเพิ่มศักยภาพในการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร กิจกรรมเพิ่มศักยภาพในการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ ได้แก่ กลุ่มกาแฟบ้านแม่เหาะ อ.แม่สะเรียง จำนวน 25 ครัวเรือน และเครือข่าย 11 ครัวเรือน ยกระดับรายได้เพิ่มขึ้นจาก 150,00 บาท/ปี เป็น 172,500 บาท/ปี กลุ่มกาแฟบ้านสบป่อง อ.ปางมะผ้า จำนวน 25 ครัวเรือน ยกระดับรายได้เพิ่มขึ้นจาก 200,00 บาท/ปี เป็น 230,000 บาท/ปี กลุ่มกระเทียมบ้านนาปลาจาด อ.เมือง จำนวน 25 ครัวเรือน ยกระดับรายได้เพิ่มขึ้นจาก 220,000 บาท/ปี เป็น 253,000 บาท/ปี กลุ่มข้าวบ้านปางหมู อ.เมือง จำนวน 128 ครัวเรือน ยกระดับราคาข้าวจากเดิมประมารณ 7,500 บาท / ตัน เป็น 8,250 บาท/ตัน ซึ่ง 4 กลุ่มจะมุ่งเน้นให้ความสำคัญในการผลักดันให้นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ คุณภาพในการผลิต พร้อมด้วยการผ่านมาตรฐานที่จำเป็น เช่น อย. รวมถึงการใช้สื่อดิจิตอลมาเป็นช่องทางการค้า โดยภาพรวมสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในพื้นที่ประมาณ 4.18 ล้านบาท

Advertisement

4. ต้นแบบการนําผลผลิตจากวนเกษตรมาแปรรูปเพิ่มมูลค่าเป็นผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ กิจกรรมยกระดับการนําผลผลิตจากวนเกษตร คือไผ่ มาแปรรูปเพิ่มมูลค่าเป็นผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ สมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดแม่ฮ่องสอน บ้านแม่สะกึด บ้านห้วยเดื่อ บ้านป่าปุ๊ และบ้านผาบ่อง ต. ผาบ่อง อ.เมือง รวม 11 ครัวเรือน และเครือข่าย 14 ครัวเรือน มุ่งเน้นการถ่ายทอดทักษะในการผลิต ตลอดจนกรรมวิธีการผลิตและรูปแบบการผลิตใหม่ๆ ให้ได้ผลิตภัณฑ์ทันสมัย กว่า 11 ผลิตภัณฑ์ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ยกระดับรายได้ของกลุ่มเพิ่มขึ้นอีก จำนวน 196,174 บาท/ปี และภาพรวมสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในพื้นที่ประมาณ 2.35 ล้านบาท

5. ต้นแบบการเพิ่มศักยภาพผู้เลี้ยงไก่และผู้ผลิตผลิตภัณฑ์จากแกะ กิจกรรมเพิ่มศักยภาพกลุ่มผลิตภัณฑ์จากแกะ แก่สมาชิกศูนย์บริการและพัฒนาที่สูงปางตองตามพระราชดําริ จำนวน 20 ครัวเรือน มุ่งเน้นในการนำเครื่องมือเครื่องใช้สมัยใหม่มาใช้ยกระดับการผลิตให้มีคุณภาพและมาตรฐาน ถ่ายทอดเทคโนโลยีในการผลิตในมิติต่างๆ โดยสามารถเพิ่มรายได้จากเดิมเฉลี่ยครัวเรือนละ 84,350 บาท/ปี เป็นมีรายได้เฉลี่ยเป็น 97,200 บาท / ปี และภาพรวมสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในพื้นที่ประมาณ 1.16 ล้านบาท กิจกรรมเพิ่มศักยภาพกลุ่มผู้เลี้ยงไก่แม่ฮ่องสอน ตามแนวพระราชดําริ บ้านต่อแพ อ.ขุนยวม จำนวน 39 ครัวเรือน มุ่งเน้นการนำมาตรฐาน GFM (Good Farming Management) มาใช้เพื่อเพิ่มมูลค่า สร้างรายได้เพิ่มให้ครัวเรือน 33,600 บาท /ปี พร้อมผลักดันให้มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการลดต้นทุนประกอบด้วยการสร้างเครือข่ายผลิตอาหารไก่ต้นทุนต่ำ และเครือข่ายจำหน่ายผลผลิตไก่ รวมถึงสร้างช่องทางการค้าใหม่ ภาพรวมสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในพื้นที่ประมาณ 3.18 ล้านบาท

6.ต้นแบบการส่งเสริมและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่า พร้อมพัฒนาช่องทางตลาด กิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่า กลุ่มสมาชิกศูนย์ศิลปาชีพ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ใน พระบรมราชูปถัมภ์ รวม 350 ราย พร้อมจัดทําสื่อมัลติมีเดียออนไลน์เพื่อการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ครอบคลุม 7 อําเภอ มุ่งเน้นการยกระดับฝีมือและทักษะในการผลิตสินค้า รวมทั้งเสริมสร้างแนวคิดใหม่ๆ ในการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ จำนวน 15 ผลิตภัณฑ์ ที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด รวมถึงการนำเทคโนโลยีดิจิตอลมาใช้ในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์พร้อมสร้างช่องทางตลาดไปในตัว โดยมีผู้เข้าไปเยี่ยมชมแล้วกว่า 1,440 ราย ภาพรวมสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในพื้นที่ประมาณ 4.81 ล้านบาท

นายสุวรรณชัย กล่าวว่า โครงการนี้ นอกจากจะเป็นการส่งเสริมอาชีพแล้ว สิ่งสำคัญคือ วิสาหกิจชุมชนยังได้รับความรู้และเข้าใจเกี่ยวกับการพัฒนาสินค้าของตนเอง เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าและพัฒนาสินค้าให้มีมาตรฐานตามหลักสากล พร้อมทั้งเพิ่มช่องทางการจัดจําหน่ายสินค้าผ่าน ทางเว็บไซต์ทําให้สินค้าเป็นที่รู้จักมากขึ้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image