เมื่อวันที่ 29 กันยายน ที่กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป.,พ.ต.ท.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ สว.กก.3 บก.ป. นำกำลังจับกุมนายพงศ์สันต์ ยะวาโนภาส หรือ “กำนันปุ๊” อายุ 43 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดร้อยเอ็ดที่ 58/2561 และ 59/2561 ลง 6 มีนาคม 2561 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกง และ นายประสิทธิ์ ฉิมมาลี อายุ 30 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนงที่ 315/2561 ลงวันที่ 1 มิ.ย. 2561 ข้อหา“ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” จับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คนได้ที่ ภายในตลาดอู่ฟู่ ถ.มิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น
สืบเนื่องจากนายพงศ์สันต์ หรือ กำนันปุ๊ ได้ร่วมกับพวกอ้างว่า ตนเองเป็นกำนันในพื้นที่ต่างจังหวัดเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือก่อนจะอ้างว่ารู้จักนายทุนเงินกู้จากเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สามารถจัดหาเงินทุนให้กู้ยืมได้หลายร้อยล้านบาท หากใครสนใจกู้เงินในวงเงินจำนวนมากเหล่านี้สามารถดำเนินการผ่านนายพงศ์สันต์ได้ แต่มีข้อแม้ว่าผู้ที่สนใจจะต้องยอมจ่ายดอกค่าดำเนินการให้กับนายพงศ์สันต์ คิดเป็น 2 เปอร์เซนต์ของเงินกู้ หากใครจ่ายมาก ก็จะได้เงินกู้มาก ทำให้เหยื่อหลงเชื่อ ยอมจ่ายเงินไปหลายแสนบาท แต่สุดท้ายไม่มีเงินให้กู้ยืมตามที่กล่าวอ้าง
โดยนายพงศ์สันต์ ยังร่วมกับพวกหลอกประชาชนทั่วไปให้นำเงินมาลงทุนซื้อเงินดิจิตอลต่างๆ สกุลเงิน วันคอยน์, บิตคอยน์, ริปเปิล และอีเทอเรียม โดยอ้างว่ากำไรดี ลงทุนเพียง 100 วัน จะได้กำไร 4-5 เท่า อีกทั้งช่วงที่เข้าพูดคุยกับเหยื่อนายพงศ์สันต์ ยังมักอ้างตัวว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญเงินดิจิตอล เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ แต่เมื่อเหยื่อหลงเชื่อโยมโอนเงินให้ นายพงศ์สันต์และพวกกลับเชิดเงินหนีไปซ่อนตัวในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้าน รอจนเรื่องเงียบจึงกลับมาก่อเหตุกับเหยื่อรายใหม่ มูลค่าความเสียหายในกรณีนี้รวมกว่า 100 ล้านบาท จนมีการออกหมายจับในความผิดจากทั้ง 2 กรณี รวมเกือบ 10 หมายจับ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่านายพงศ์สันต์ กำลังมาจะมากดเงินจากตู้เอทีเอ็มที่ตลาดอู่ฟู่ จ.ขอนแก่น หลังกำลังก่อเหตุหลอกลวงหญิงชรารายหนึ่งซึ่งเป็นเหยื่อรายใหม่ จึงนำกำลังไปเฝ้าสังเกตุการณ์ กระทั่งพบตัวนายพงศ์สันต์ เดินทางมาตลาดดังกล่าวพร้อมกับนายประสิทธิ์ คนขับรถ จึงแสดงตัวเข้าจับกุม อย่างไรก็ตามระหว่างที่กำลังนำตัวนายพงศ์สันต์มาทำการสอบสวนนั้น เจ้าหน้าที่พบเห็นนายประสิทธิ์ คนขับรถของนายพงศ์สันต์ มีพิรุธ จึงทำการตรวจสอบประวัติกระทั่งพบว่านายปนะสิทธิ์ เองนั้นก็มีหมายจับในคดีละกษณะดังกล่าวติดตัวด้วยเช่นกันเนื่องจากถือเป็นผู้ร่วมขบวนการเดียวกันกับนายพงศ์สันต์ จึงจับกุมตัวพร้อมกับนำตัวไปสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 คนให้การรับสารภาพ ก่อนแจ้งข้อกล่าวหาและนำตัวนายพงศ์สันต์ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ร้อยเอ็ด ส่วนนายประสิทธิ์ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ และเตรียมขยายผลติดตามจับกุมตัวผู้ร่วมขบวนการรายอื่นต่อไป
