นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยว่า มาตรการ ชิม ช้อป ใช้ ที่รัฐบาลแจก 1,000 บาท เพื่อใช้ในการเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งจะเป็นส่วนในการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวช่วงที่เหลือของปี 2562 เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มวลรวม หรือจีดีพี ของปีนี้เติบโตได้ถึง 3% ตามที่คาดการณ์ไว้ โดยภาคอีสานได้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมขึ้น ทำให้ขณะนี้จะเป็นช่วงการซ่อมแซมเยียวยาให้ภาคอีสานกลับมาเป็นปกติ โดยเฉพาะเหตุการณ์น้ำท่วมในจังหวัดอุบลราชธานี ที่มีประชาชนจำนวนมากได้รับความเดือดร้อน ทำให้หากประชาชนที่ได้รับสิทธิ์ใช้ 1,000 บาทเที่ยวในประเทศ สามารถลงทะเบียนใช้เงินในจังหวัดภาคอีสานได้ ก็จะมีส่วนในการช่วยสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศเพิ่มขึ้น เพราะหากดูเงินจำนวน 1,000 บาท อาจจะดูน้อย แต่หากไปจำนวนมากๆ อาทิ 40 ราย ก็ถือเป็นกลุ่มทัวร์กลุ่มหนึ่งได้แล้ว นอกจากนี้ ยังเป็นการท่องเที่ยวเชิงซีเอสอาร์ เพราะสามารถช่วยเหลือชาวบ้านได้อีกด้วย รวมถึงหากสามารถจองการเดินทางผ่านผู้ประกอบการทัวร์ท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ ก็จะยิ่งทำให้เม็ดเงินลงไปในหลายส่วนได้มากขึ้น
“ปัญหาค่าเงินบาทแข็งส่งผลกระทบหนักมาต่อธุรกิจท่องเที่ยว เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติใช้เงินน้อยลง รวมทั้งเปลี่ยนเป้าหมายไปประเทศอื่น โดยเฉพาะประเทสเพื่อบ้านแทนการมาไทย ประกอบกับปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนยังไม่รู้จะจบเมื่อใด และมีกรณีของบริษัททัวร์ยักษ์ใหญ่โทมัส คุก ล้มละลาย ส่งผลกระทบให้นักท่องเที่ยวที่ซื้อแพจเกจมาไทยไม่ได้เดินทางมาในไตรมาส 4 ซึ่งปกติเป็นฤดูท่องเที่ยวของไทย(ไฮซีซั่น) จึงอยากเสนอให้ภาครัฐร่วมมือกับภาคเอกชน เพื่อส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านมาตรการสิทธิประโยชน์ด้านต่างๆ อาทิ มาตรการทางภาษี และการส่งเสริมธุรกิจแพลตฟอร์มใหม่ อย่างการเรียกรถโดยสารสาธารณะให้ถูกกฎหมาย ครอบคลุมในทุกพื้นที่ โดยมีการกำกับดูแลการบริการและราคาให้มีมาตรฐาน อีกทั้งควรมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวในประเทศในช่วงวันหยุดเทศกาล เพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวไทยท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น”นายชัยรัตน์กล่าว
นายชัยรัตน์ กล่าวว่า การเติบโตของภาคการท่องเที่ยว ในไตรมาส 4 ของปีนี้ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทย จำนวน 10.41 ล้านคน เพิ่มขึ้น 7.21% จากปี 2561 ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมทั้งหมด 9.71 ล้านคน โดยภาพรวมในปี 2562 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเติบโตรวม 39.73 ล้านคน เพิ่มขึ้น 4.06% เทียบกับปี 2561 ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศ 38.18 ล้านคน และมีรายได้จากนักท่องเที่ยว 1.95 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.12% จากปี 2561 ที่มีรายได้รวม 1.87 ล้านล้านบาท สำหรับสถานการณ์นักท่องจีน ในเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา ไทยมีนักท่องเที่ยวจีนประมาณ 1 ล้านคน เพิ่มขึ้น 15.62% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คาดว่าไตรมาส 3 ปี 2562 จะมีนักท่องเที่ยวจีน ทั้งสิ้น 2.84 ล้านคนเพิ่มขึ้น 16.03% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนไตรมาส 4 ปีนี้ถ้าไม่มีปัจจัยลบเข้ามากระทบเพิ่มเติม คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนประมาณ 2.67 ล้านคน เพิ่มขึ้น 23.43%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยคาดว่าทั้งปี 2562 สถานการณ์นักท่องเที่ยวจีนจะโตได้ที่ 11.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.87% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
นายวัชรพงศ์ ถนอมเกียรติภูมิ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า สทท.ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้สำรวจดัชนีความเชื่อมั่น ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวในประเทศไทย พบดัชนีปรับตัวลดลงเกือบทุกตัว โดยดัชนีความเชื่อมั่นไตรมาส 3 เท่ากับ 91 ถือว่าความเชื่อมั่นต่ำกว่าปกติ ส่วนไตรมาส 4 ระดับความเชื่อมั่นอยู่ที่ 95 สะท้อนให้ถึงความกังวลและไม่มั่นใจในสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยว ส่งผลใหผู้ประกอบการเดินการท่องเที่ยว พิจารณาปรับลดแผนการลงทุนเพิ่มจากเดิม รวมถึงการพิจารณาปรับลดการจ้างงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่า กระทรวงฯได้มีการปรับตัวเลขจำนวนและรายได้จากการท่องเที่ยวและกีฬา ในปี 2561 ใหม่ หลังจากได้รับข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วนจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ซึ่งปรากฏว่ามีตัวเลขรายได้ลดลงจากที่เคยเปิดเผยในช่วงต้นปีว่า มีรายได้รวม 3 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทย จำนวน 38.27 ล้านคน สร้างรายได้ 2 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.63% และนักท่องเที่ยวไทยเที่ยวไทย 164.24 ล้านคนครั้ง สร้างรายได้ 1 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.94% โดยพบว่าตัวเลขที่ปรับใหม่ มีรายได้รวมลดลงเหลือ 2.94 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 4.49% จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 38.17 ล้านคน สร้างรายได้ 1.87 ล้านล้านบาท ยังเพิ่มขึ้น 2.46% จากปีก่อนหน้า ส่วนนักท่องเที่ยวไทย มีจำนวน 166.94 ล้านคนครั้ง สร้างรายได้ได้สูงกว่าที่แถลงไว้เดิม คือ 1.07 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.26%จากปีก่อนหน้า
“รายได้รวมของปี 2561 ที่มีการปรับใหม่ลดลง สาเหตุมาจาก ตม.ตรวจพบว่า วันพำนักของนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง ส่งผลให้รายได้รวมทั้งปีลดลง แม้ปี 2562 จะมีสถานการณ์ต่างๆที่กระทบโดยตรงต่อการท่องเที่ยว ทั้งเรื่องของค่าเงิน เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว โดยได้ปรับตัวเลขใหม่ในเดือน สิงหาคม ที่ผ่านมา”
เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว
