‘น็อตลวงโลก’ โผล่เชียงราย โดนยูทูปจับผิด คนรุมแจ้งหลอกจัดอีเว้นต์

‘น็อตลวงโลก’ โผล่เชียงราย โดนยูทูปจับผิด คนรุมแจ้งหลอกจัดอีเว้นต์

เมื่อวันที่​ 1 ตุลาคม​ ร.ต.อ.ศรีเดช สุวรรณ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ได้รับแจ้งจากผู้มีอาชีพอิสระอายุตั้งแต่ 30-40 ปี จำนวนประมาณ 10 คน อ้างว่าได้รับความเดือดร้อนจากการถูกชายคนหนึ่งหลอกให้เสียทรัพย์ โดยระบุว่าช่วงต้นเดือน ก.ย.นี้ได้มีชายคนหนึ่งทราบชื่อว่า “น็อต” อ้างว่าตัวเองมีหน้าที่ในการรับจัดงาน ทำการตลาดและโฆษณาประชาสัมพันธ์หรืออีเวนต์ ซึ่งนายน็อตพักอยู่ ต่อมาได้มีการเปิดเฟซบุ๊กและไลน์เพื่อให้คนไปสมัครจัดทำแผนการตลาดทั้งถ่ายรูป ทำโปสเตอร์ ทำคลิป ฯลฯ จากนั้นนายน็อตได้ย้ายจากคอนโดดังกล่าวไปอยู่นโครงการหมู่บ้านจัดสรรชื่อดังแห่งหนึ่งที่ ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย และแจ้งเครือข่ายที่รับสมัครว่ากำลังจะจัดคอนเสิร์ตในเกษตรแฟร์ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเขต ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย ช่วงปลายเดือน ต.ค.นี้ ดังนั้นจึงเก็บค่ามัดจำแต่ละรายๆ ละ 3,000-10,000 บาท

นอกจากนี้ผู้เสียหายบางคนระบุว่านายน็อตได้อ้างว่ารู้จักกับค่ายโทรศัพท์มือถือชื่อดังโดยสามารถพาผู้สมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์สมาร์ตโฟนชื่อดังในพื้นที่เชียงรายได้อีกด้วย ยิ่งทำให้คนหลงเชื่อมากขึ้นอีก อย่างไรก็ตามต่อมาได้มีเหยื่อที่เป็นหญิงสาวคนหนึ่งได้เข้าไปดูยูทูปแล้วพบคำว่า “น็อตจอมลวงโลก” โดยหน้าตาบุคคลที่เป็นข่าวหลอกลวงเอาทรัพย์สินของผู้อื่นในยูทูปหน้าตาเหมือนนายน็อตคนที่เชิญชวนไปทำงานนี้มาก จึงได้ติดต่อกันแล้วไปแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ได้รับทราบดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ไปที่โครงการหมู่บ้านจัดสรรดังกล่าวพบนายสมชาติ ภู่เผือก หรือ “น็อต” อายุ 22 ปี บ้านเลขที่ 124 หมู่ 8 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ พักอยู่ที่ห้องพักจึงนำตัวไปสอบปากคำ

จากนั้นยังพบว่าได้มีนิติกรจากโครงการดีคอนโด ต.เวียง และหมู่บ้านจัดสรรสุวรรณรายามาแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ด้วยว่านายน็อตใช้เอกสารเป็นชื่อบุคคลอื่นเข้าพักโดยไม่ใช่ชื่อตัวเองและไม่ได้จ่ายค่าเข้าพักด้วย เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบทราบว่าในการทำนิติกรรมของนายน็อตมีการใช้ชื่อของหญิงสาวคนหนึ่งที่ถูกนายสมชาติเข้าไปคบหาจนเป็นแฟนและอยู่ในกลุ่มผู้เสียหายที่มาแจ้งความชุดแรกดังกล่าวใช้ชื่อในการทำนิติกรรมต่างๆ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาต่อนายสมชาติว่าปลอมแปลงเอกสาร,ยักยอกทรัพย์ และให้ผู้เสียหายอื่นๆ รวมทั้งผู้ที่หลวมตัวเป็นแฟนสาวได้นำหลักฐานไปแสดงเพิ่มเติมเพื่อพิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Advertisement

เบื้องต้นนายสมชาติให้การว่าที่ จ.นครศรีธรรมราช นั้นคิดจะจัดงานคอนเสิร์ตโดยพยายามระดมคนเพื่อจัดคอนเสิร์ตเพื่อขายบัตรละประมาณ 800 บาท ถ้าคนไปร่วมประมาณ 20,000 คนก็จะได้เงินนับล้านบาทแต่ใกล้จัดงานขายบัตรได้ไม่ถึง 10 ใบ รวมทั้งมีมีคนขุดคุ้ยเรื่องเก่าๆ ที่ตนเคยมีเรื่องราวทำให้คนไม่เชื่อถือทั้งๆ ที่ตนไม่ได้มีเจตนาจะไปหลอกลวงใคร จากนั้นตนจึงหนีไปตั้งหลักที่ จ.เชียงราย และเนื่องจากเคยเป็นพระและมีเรื่องเก่าๆ ทำให้หางานอื่นไม่ได้เมื่อถึงเชียงรายจึงจะจัดงานแบบเดิมเพื่อหารายได้อีกซึ่งตนก็ยอมรับผิดทุกประการโดยกรณีคดีเก่าที่ จ.นนทบุรี ก็นัดจะไปมอบตัวในวันพฤหัสบดีนี้แต่มาถูกดำเนินคดีครั้งนี้เสียก่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image