สาวเจ้าของร้านเสริมสวยตรัง รุดศาลากลางร้องศูนย์ดำรงธรรมขอความช่วยเหลือถูกเพื่อนฉกทองคำ น้ำหนักกว่า 40 บาท พร้อมเงินสด 2 หมื่นจากตู้เซฟในบ้านหลบหนี วอนให้ทางตำรวจจับกุมคนร้ายและอายัดทองที่ร้านทองรับซื้อไปก่อนหน้านี้
เมื่อเวลา 11.00น. วันที่ 2 ตุลาคม ที่ศูนย์ดำรงธรรม ศาลากลางจังหวัดตรัง นางสาวสุภัทรา คงเพ็ชร อายุ 29 ปี เจ้าของร้านเสริมสวยภัทราซาลอน เลขที่ 39/42 ซ.ควนขนุน ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง เดินทางมาร้องขอความช่วยเหลือกรณีเพื่อนลักลอบเข้าห้องภายในบ้านหยิบกุญแจและไขตู้เซฟขโมยทอง สร้อยคอทองคำ กำไร และเงินสดจำนวน 20,000บาท จากนั้นได้หลบหนีไป หลังทราบเหตุได้เข้าแจ้งความกับทางตำรวจ สภ.เมืองตรัง เหตุเกิดเมื่อวนที่ 24 กันยายน 2562 โดยมี นายสมเกียรติ พรหมดวง เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวน สคบ.ตรัง กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรม เป็นผู้รับเรื่อง
นางสาวสุภัทรา กล่าวว่า กรณีที่ตนได้รับความเดือดร้อน เหตุเกิดเมื่อเวลา 11.00น. วันที่ 24 กันยายน 2562 ตนได้นำกุญแจสำรองมาเปิดตู้เซฟ พบว่าร้อยคอทองคำ กำไล และแหวนทองคำ รวมน้ำหนัก 44 บาท 3สลึง มูลค่าประมาณ 800,000บาท และเงินสดอีก 20,000บาท ได้หายไปจากตู้เซฟ หลังจากนั้นได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับทางตำรวจ สภ.เมืองตรัง เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับคนร้าย โดยมีพนักงานสอบสวนรับแจ้งความ และเรียกตัว คนร้ายซึ่งเป็นเพื่อนมาสอบปากคำและพิมพ์ลายนิ้วมือและพิสูจน์ DNA เพื่อเปรียบเทียบหลักฐานจากที่เกิดเหตุ ในชั้นสอบสวน คนร้าย ให้การรับสารภาพว่าได้นำทองคำไปจำนำและขาย ต่อมาทางตำรวจเชิญตัวมาเพื่อชี้จุดที่เกิดเหตุ แต่คนร้ายไม่มาและหลบหนี
“หลังเกิดเหตุปรากฏว่าคนร้ายปรากฎตัว ซึ่งตนได้โทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจ แต่ได้รับคำตอบว่าตรงกับวันหยุดขอพักผ่อน และยังบอกให้ตนประสานตำรวจสืบสวนไปเอาหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดมาให้ จนถึงวันนี้คดียังไม่คืบหน้าทั้งๆที่ทราบตัวคนร้ายและออกหมายจับไปแล้ว โดยขอให้ทางตำรวจจับกุมตัวคนร้าย มาดำเนินคดีตามกฎหมายและให้ อายัดทรัพย์สินทองคำจากร้านทองที่คนร้ายนำไปขายโดยให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนไปแล้ว”นางสาวสุภัทรากล่าว
ล่าสุดทางตำรวจได้ขออนุมัติศาลที่ 426/2562 ลงวันที่ 27 กันยายน 2562 จับกุมตัว นายธนะวัฒน์ พลพิชัย อายุ 33ปี อยู่บ้านเลขที่ 189/40 ถนนท่ากลาง ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง ความผิด ลักทรัพย์ทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปโดยประการใดๆโดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม
