กองปราบรวบสาวแสบตุ๋นเหยื่อขายโทรศัพท์ออนไลน์เป็นอาชีพ แสบจัดบัญชีถูกอายัดยืมบัญชีคนอื่นหลอกเหยื่อต่อ

เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ที่กองปราบปราม พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ สว.กก.2 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.2 บก.ป. ได้ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.จิราพร จิตรฤทธิ์ หรือฟอง หรือเบียร์ หรือฟองเบียร์ อายุ 23 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 1029/2562 ลง 15 กรกฎาคม 2562 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชนและนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์” (สน.ดุสิต), หมายจับของศาลอาญาธนบุรี ที่ 318/2562 ลง 10 มิถุนายน 2562 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และฉ้อโกงประชาชน” (สน.บางขุนเทียน),และหมายจับของศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ 24/2562 ลง 14 มกราคม 2562 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์, จำเลยไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขคุมประพฤติ โดยจับกุมได้ที่ ซ.พหลโยธิน 52 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพฯ

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ที่ผ่านมา ได้มีผู้เสียหายเข้ามาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ป. เพื่อขอความช่วยเหลือ แจ้งว่าเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ได้ถูก น.ส.จิราพร ผู้ต้องหา ซึ่งรู้จักกันเพียงไม่กี่เดือน โดยรู้จักกันในฐานะลูกค้าซึ่งตนมีอาชีพขับรถจักรยานยนต์ส่งสินค้า โดย น.ส.จิราพร ได้ขอยืมเลขบัญชีธนาคารของผู้เสียหายไปบอกว่าบัตรเอทีเอ็มของ น.ส.จิราพรหายไป จะมีญาติโอนเงินค่าห้องมาให้ หลังจากนั้นมีเงินโอนมาให้จำนวนหลายครั้งรวมแล้วเกือบ 5 หมื่นบาท ต่อมาทาง น.ส.จิราพร ได้บอกให้ผู้เสียหายไปที่ตู้เอทีเอ็มแล้วกดเงินสด จากนั้นให้ฝากเงินสดเข้าไปที่ตู้ โอนไปบัญชีของคนอื่นซึ่งตนไม่รู้จัก ทางผู้เสียหายสงสัยจึงได้บอกกับผู้ปกครอง ต่อมาได้ไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจ

จากการตรวจสอบประวัติของ น.ส.จิราพร พบว่ามีประวัติที่กองปราบปราบ ต้องการตัว (MOST WANTED) โดยมีพฤติกรรมหลอกซื้อขาย หรือมีการประมูลโทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟนบนเฟซบุ๊ก ชื่อว่า “รักมาก มากรัก” โดยใช้รูปผู้หญิงคนอื่นซึ่งไม่ใช่ น.ส.จิราพร โดยโพสต์ขายโทรศัพท์ราคาต่ำกว่าท้องตลาด 50 เปอร์เซ็นต์ ทำให้มีผู้เสียหายหลายราย หลงเชื่อโอนเงินจำนวนมาก ครั้งละ 5,000-10,000 บาท เมื่อผู้เสียหายรายใดหลงเชื่อ จะโอนเงินเข้าไปยังบัญชีของ น.ส.จิราพร หรือบัญชีอื่นๆ ที่ น.ส.จิราพรบอกให้เหยื่อโอนเงิน แต่เมื่อเหยื่อไม่ได้รับสินค้าจึงรู้ว่าถูกหลอก หลังจากนั้นจะทำการบล็อกเฟซบุ๊กของเหยื่อ และได้หลอกลวงมาเป็นเวลานาน และเคยถูกจับกุมไปเมื่อปลายปี 2561 ประกันตัวออกมา ยังมีพฤติกรรมเดิมอยู่

ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบสวนของ กก.2 บก.ป. ทราบว่า น.ส.จิราพรหลบมาเปิดร้านอาหารอยู่ภายใน ซ.พหลโยธิน 52 แขวงคลองถนน เขตสายไหม จึงนำกำลังไปจับกุม

Advertisement

จากการสอบสวน น.ส.จิราพร ให้การรับสารภาพว่าได้ยืมเลขบัญชีธนาคารของผู้เสียหายจริงโดยรู้จักกันประมาณ 3 เดือน ซึ่งผู้เสียหายเป็นพนักงานส่งสินค้าติดต่อกันมา ต่อมาวันที่ 1 ตุลาคม 2562 ได้ขอยืมเลขที่บัญชีของผู้เสียหายบอกว่าจะมีญาติโอนเงินมาให้ แต่เป็นเงินที่ได้จากการที่ตนเองไปหลอกลวงให้เหยื่อที่หลงเชื่อซื้อโทรศัพท์ราคาถูกในเฟซบุ๊ก “รักมาก มากรัก” และเมื่อมีเงินโอนเข้ามาจึงให้ผู้เสียหายไปถอนเงินมาให้กับตน ซึ่งการหลอกลวงผู้เสียหายไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

น.ส.จิราพรให้การอีกว่าได้หลอกลวงขายโทรศัพท์มือถือเฟซบุ๊คมาตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบัน มีเหยื่อโอนเข้ามาหลายราย โดยโพสต์ขายในราคาต่ำกว่าท้องตลาด 50 เปอร์เซ็นต์ โดยรูปที่อยู่ในเฟซบุ๊ก จะเป็นรูปที่คัดลอกมาจากทางอินเตอร์เน็ต บางครั้งจะมีการไลฟ์ขายโทรศัพท์มือถือ แต่เป็นสินค้าที่โชว์จะเป็นแค่กล่องเปล่า เพื่อหลอกให้ดูน่าเชื่อถือ ว่ามีการขายโทรศัพท์จริง โดยแต่ละรายจะให้โอนมาบัญชีของตน แต่ภายหลังบัญชีของตนถูกอายัด และไม่สามารถไปเปิดบัญชีกับธนาคารไหนได้อีก จึงได้ออกอุบายขอยืมบัญชีธนาคารผู้อื่นหลายรายมาใช้ ส่วนตนติดการพนันออนไลน์ ได้เงินมาส่วนมากนำไปเล่นการพนันและใช้จ่ายส่วนตัว นอกจากนี้ น.ส.จิราพร ยังได้ยืมบัญชีของแฟนหนุ่มซึ่งคบกับมา 1 ปี บอกว่าแม่จะโอนเงินมาให้ เมื่อมีเงินโอนมาให้จะให้แฟนหนุ่มไปกดเงินมา ภายหลังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรศัพท์สอบถาม น.ส.จิราพร จึงได้พยายามคืนเงินกับผู้เสียหายที่ติดต่อเข้ามาเพื่อให้ถอนแจ้งความ ต่อมายังพบว่ายังได้ขอยืมบัญชีธนาคารของลูกจ้างภายในร้านอาหารซึ่งตนได้เปิดร้าน ภายใน ซ.พหลโยธิน 52 รวมถึงยังขอยืมบัญชีของผู้เสียหายอีกหลายรายด้วย จากการตรวจสอบประวัติเพิ่มเติมยังพบว่า น.ส.จิราพรมีหมายจับของ สน.ดุสิต, สน.บางขุนเทียน, ศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ยังไม่ถูกจับกุม และมีคดีเก่าที่ถูกจับกุมไปแล้ว ของ สภ.เมืองสุพรรณบุรี และ สภ.สระแก้ว จ.สุพรรณบุรี ในข้อหา “ฉ้อโกง และข้อหาฉ้อโกงประชาชน” และมีผู้เสียหายรายอื่นๆ ที่ยังไม่ได้แจ้งความอีกมากมาย หรือที่ผู้เสียหายไปแจ้งความแล้ว แต่แจ้งความกับคนที่ น.ส.จิราพรยืมเลขที่บัญชีธนาคารไป โดยที่เจ้าของบัญชีไม่ทราบเรื่อง โดยภายหลังจับกุมเจ้าหน้าที่ได้นำตัว น.ส.จิราพร ส่งพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image