หมอเตือนผู้ใหญ่เอ็นดูเด็ก อย่าจับมือ-หอมแก้ม ห่วงติดเชื้อโรค ชี้ร.ร.หลายแห่งห้ามครูหอมแก้มเด็กเล็ก

ขอบคุณภาพไอจีlukkanaaum รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์(ภาพขวา)

กรณี “อุ้ม ลักขณา” โพสต์แทนความรู้สึกของคนที่เป็นแม่กรณีมีผู้ใหญ่บางคนมักเอ็นดูความน่ารักของเด็กๆ ที่พบเห็นด้วยการสัมผัสร่างกาย ทั้งหอมแก้ม จับแก้ม จับมือ ซึ่งหวั่นเกรงว่าเด็กจะติดเชื้อได้ง่าย โดยบอกเล่าถึงเหตุการณ์ที่ตนเองและสามีพาลูกๆ ไปร่วมงานแต่งงานของ ใบเตย อาร์สยาม กับ ดีเจ แมน พัฒนพล และมีบรรดาแขกที่ไปร่วมงานเข้าไปเอ็นดูลูกสาวด้วยการหอม จับมือ จับแก้ม หลายครั้ง จนหวั่นเกรงว่าลูกอาจจะติดเชื้อโรคต่างๆ เนื่องจากเด็กยังไม่มีภูมิคุ้มกันมากพอ แต่ถ้าจะไปบอกคนเหล่านั้นที่เอ็นดูลูกๆ ว่าอาจทำก็กลัวจะเกิดความรู้สึกที่ไม่ดีต่อกัน บางคนเข้ามาขออนุญาตแม่ แต่ยังไม่ทันตอบมือก็ถึงแล้ว ต้องมาฉีดสเปรย์ฆ่าเชื้อใส่มือลูกนั้น

เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว และผู้อำนวยการวิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า การที่ผู้ใหญ่ไปสัมผัสร่างกายเด็กๆ ซึ่งกระทำไปด้วยความเอ็นดู เช่น หอมแก้ม จับมือ มีโอกาสที่เด็กเหล่านั้นจะได้รับเชื้อโรคสูงกว่าผู้ใหญ่ เพราะร่างกายเด็กยังไม่มีภูมิต้านทานมากพอกับเชื้อโรคบางชนิด เช่น ไวรัส ที่ทำให้อาจติดหวัด ไข้หวัดใหญ่ โรคมือเท้าปาก โรคท้องร่วง ตับอักเสบ เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเรื่องเหล่านี้ยังใหม่ในสังคมไทย จึงต้องจำเป็นต้องให้ความรู้ และสร้างความเข้าใจใหม่ที่ถูกต้อง เพราะที่ผ่านมาไม่ค่อยมีการนึกถึงปัญหาเหล่านี้

“อาจจะต้องมีการรณรงค์กันเหมือนกับการป้องกันการติดโรคระบายต่างๆ ด้วยการสวมใส่หน้ากากอนามัย ผมเข้าใจว่าผู้ใหญ่ที่ทำไปเพราะเห็นในความน่ารักของเด็ก และเกิดความเอ็นดู อยากสัมผัสมือ แก้มของเด็ก แต่ขณะเดียวกันก็น่าเป็นห่วงเรื่องการติดเชื้อโรค ดังนั้น อาจจต้องมีการให้ความรู้กันใหม่ว่า เรื่องเหล่านี้คุณสามารถทำได้ถ้าเป็นลูกหลานในครอบครัว ซึ่งหากเกิดอะไรขึ้นก็ต้องรับผิดชอบกันเอง แต่ถ้าไม่ต้องการให้เด็กติดเชื้อผู้ใหญ่คนนั้น ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ญาติๆ ก็ต้องรู้สภาพร่างกายของตนเอง เป็นหวัดหรือไม่ ป่วยเป็นโรคติดต่อหรือไม่ ล้างมือสะอาดหรือไม่ ก่อนที่จะไปสัมผัสกับตัวเด็ก ขณะที่หากไม่ใช่ลูกหลานของเรา ก็ต้องเคารพในสิทธิของเด็ก และคนที่เป็นพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กด้วย เช่น ต้องขออนุญาตกันก่อน ถ้าผู้ปกครองเด็กอนุญาตถึงจะสัมผัสตัวเด็กได้ตามความเหมาะสม แต่ต้องรู้ด้วยว่าสภาพร่างกายของตนเองพร้อมมากน้อยแค่ไหน” รศ.นพ.อดิศักดิ์ กล่าวและว่า ทางที่ดีที่สุด หากพบเห็นเด็กน่ารัก น่าเอ็นดู ให้ใช้วิธีพูดทักทาย ชูมือเป็นสัญลักษณ์ต่างๆ ส่งยิ้มให้เพื่อให้เด็กมีปฏิสัมพันธ์เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว

รศ.นพ.อดิศักดิ์ กล่าวและว่า ขณะนี้โรงเรียนที่ดูแลเด็กเล็กหลายแห่งก็เริ่มมีกฎระเบียบเพื่อคุ้มครองสิทธิของเด็กแล้ว เช่น ไม่อนุญาตให้ครูหอมแก้มเด็ก เป็นต้น ซึ่งนี้ไม่ใช่เพียงแค่การป้องกันเด็กถูกคุกคามทางเพศเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงการดูแลสุขภาพอนามัยของเด็กด้วย

Advertisement

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ไม่ว่าเด็กคนนั้นจะเป็นลูกหลาน หรือเด็กที่พบเห็นทั่วไป หากเอ็นดูอยากกอด หอมแก้ม จับมือก็ต้องรู้ตัวด้วยว่าได้ล้างมือสะอาดดีแล้ว ไม่ได้กำลังป่วยด้วยโรคติดเชื้อใดๆ เพราะทั้งน้ำลาย สารคัดหลั่ง ลมหายใจอาจมีเชื้อโรคปะปนออกมาด้วย และว่าแม้ในร่างกายของเด็กจะมีระบบภูมิคุ้มกันอยู่ระดับหนึ่ง แต่ไม่ได้หมายความว่าเด็กทุกคนจะมีภูมิคุ้มกันที่เหมือนๆ กัน อย่างไรก็ตาม ที่เกรงกลัวว่าเด็กจะติดเชื้อจากการที่ผู้ใหญ่นอกครอบครัวไปสัมผัสนั้น เป็นเพียงส่วนหนึ่ง เพราะจริงๆ แล้ว ที่น่ากลัวกว่าคือ ในโรงเรียน ในย่านชุมชน ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ โรงพยาบาล ก็ต้องระวังด้วยเช่นกัน

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image