ส.ส.ประจวบฯยื่น “สมคิด “ค้านนำเข้ามะพร้าวนอก 7.2 หมื่นตันหวั่นทุบราคาผลผลิตในประเทศ
วันที่ 9 ตุลาคม นายประมวล พงศ์ถาวราเดช ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ ประธานอนุกรรมาธิการแก้ไขปัญหาราครามะพร้าว สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ภาพรวมการแก้ไขปัญหาราคามะพร้าวในประเทศ ขณะนี้ได้ทำหนังสือถึงนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และ ส่งถึงประธานอนุกรรมการบริหารจัดการสินค้ามะพร้าว หลังจากอนุกรรมการฯมีมติเห็นชอบให้นำเข้ามะพร้าวนอกในเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม 2562 ปริมาณ 72,280 ตัน หรือ 60 ล้านผลในกรอบเสรีการค้าอาเซียนหรือ อาฟต้า อัตราภาษี 0% ตามที่ 15 ผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมผลิตกะทิส่งออกนำเสนอ ยืนยันว่าผู้เกี่ยวข้องในรัฐบาลควรทบทวนเรื่องนี้ จนกว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนแปลง เพราะการนำเข้าจะส่งผลกระทบกับกลไกลราคาวัตถุดิบภายในประเทศที่ขณะนี้มีราคาเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ผลผลิตในประเทศยังมีเพียงพอ ทั้งนี้การนำเข้าจะต้องพิจารณาจากความเห็นของทุกภาคส่วนโดยอยู่บนพื้นฐานของผู้ประกอบการแปรรูปกับเกษตรกรชาวสวนเพื่อให้เกิดความสมดุลทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ส่งผลกระทบกับปัจจัยการผลิตของภาคอุตสาหกรรมและไม่กระทบกับรายได้ของเกษตรกรชาวสวนต้องขายมะพร้าวให้คุ้มกับต้นทุนการผลิตไม่ต่ำกว่าผลละ 10 – 12 บาท
นายประมวล กล่าวว่า สำหรับการทำโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันปี 2562/2563 เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ โดยกำหนดรายได้ที่เหมาะสมที่เกษตรกรควรได้รับจากการขายผลปาล์มทะลาย คุณภาพน้ำมัน 18 เปอร์เซ็นต์ ที่กิโลกรัม( กก.)ละ 4 บาท เกษตรกรที่มีสิทธิ์ร่วมโครงการต้องขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร มีสิทธิ์ได้รับเงินชดเชยตามพื้นที่ปลูกจริงไม่เกินครัวเรือนละ 25 ไร่ และ ต้องเป็นพื้นที่ปลูกปาล์มที่ให้ผลผลิตแล้วมีอายุไม่น้อยกว่า 3 ปี ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่เดือนกันยายน 2562 – กันยายน 2563 สำหรับ จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีเกษตรกรได้รับการจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างราคางวดแรก 5,638 ราย ได้รับเงินชดเชย กก.ละ 1.32 บาท รวมเป็นเงินกว่า 34 ล้านบาท โดยธนาคาร ธกส.ได้โอนเข้าบัญชีเงินฝากของเกษตรกร และจะทำการโอนเงินค่าชดเชยส่วนต่างราคาเข้าบัญชีของเกษตรกรเป็นงวด งวดละไม่น้อยกว่า 45 วันโดยคำนวณตามราคาตลาดอ้างอิงในแต่ละช่วงเวลา หากชาวสวนเห็นว่าการดำเนินการจะมีปัญหาให้แจ้งเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐทราบทันที
