สาวเจ้าของเต็นท์ร้องสื่อโดนโกง คู่กรณีอ้างเป็นญาตินักการเมือง

สาวเจ้าของเต็นท์ให้เช่าที่ร้อยเอ็ดร้องสื่อไปถูกโกงที่อุบล จากคนที่อ้างว่าเป็นญาตินักการเมือง ยักยอกทรัพย์ ติดต่อตนไปตั้งเต๊นท์ 80 หลัง ให้ผู้เข้าร่วมงานประกวดโคระดับประเทศเช่าเต๊นท์ แต่หลังงานเลิกผู้เข้าร่วมงานบอกว่าผู้จัดงานเก็บค่าเช่าเต๊นท์ไปหมดแล้ว พอไปทวงถามแล้วไม่จ่ายเงินที่เก็บไป 80,000 บาท จึงแจ้งตำรวจแต่ไม่คืบหน้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ดารณี พลศรี อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 110 หมู่ 3 ต.หนองฮี อ.หนองฮี จ.ร้อยเอ็ด ได้เข้าร้องทุกข์ว่า มีความประสงค์จะร้องทุกข์กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพราะไม่ได้รับความสนใจและให้ความเป็นธรรม สืบเนื่องมาจากว่าเมื่อปีที่แล้ว ได้รับการประสานงานจาก นางสุพัตรา เฮงสวัสดิ์ เจ้าของชิณสวัสดิ์ฟาร์ม ซึ่งตั้งอยู่ ต.หนองขอน อ.เมือง จ.อุบลฯ ว่าจะมีการจัดงานประกวดโคฮินดูบราซิล แห่งประเทศไทย ขึ้นในวันที่ 22-23ธันวาคม 2561 เพื่อให้งานดูเป็นระเบียบและสวยงาม จึงได้โทรศัพท์ไปหา น.ส.ดารณี ขอให้นำเต้นท์ไปร่วมงานโดยการนำเต้นท์ไปกางให้กับผู้มาร่วมงานทำการใช้ เพื่อเอาวัวที่นำไปประกวดพักในเต้นท์แล้วให้เก็บค่าเต้นท์เอาเอง ตลอดงานมีผู้เข้ามาขอเช่าเต้นท์เต็มทุกหลัง

ซึ่งการนำเต้นท์ไปงานดังกล่าว น.ส.ดารณี ได้นำเต็นท์ไปกาง 80 หลัง เดินระบบไฟฟ้าและตกแต่งเต็นท์ ผูกผ้าให้สวยงาม คิดราคาจากผู้มาร่วมงานให้เช่าเต๊นท์หลังละ 1,000 บาท โดยจะต้องจ่ายให้กับเจ้าของเต็นท์ 80,000 บาท แต่พอไปเก็บเงินค่าเช่าเต้นท์ ก็ได้รับคำตอบจากผู้เช่าว่า นางสุพัตรา ได้อ้างว่าเป็นเจ้าของจัดงาน จึงขอเก็บเงินจากผู้เช่าไปก่อน ซึ่ง น.ส.ดารณี ก็ได้ไปทวงถามกับนางสุพัตราก็ได้รับคำตอบบ่ายเบี่ยงว่าไม่ได้เป็นผู้จัดงานเป็นเพียงเจ้าของสถานทีจัดงาน จากนั้นตนและผู้เสียหายอีกหลายคน ได้พากันไปทวงถามมาตลอดแต่ก็ได้รับการปฎิเสธจากนางสุพัตราและยังอ้างว่าเป็นญาติกับนักการเมืองท้องถิ่นในระดับประเทศ และไม่ยอมเจรจาไม่ยอมให้พบ

น.ส.ดารณีและผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการจัดงานได้นำเรื่องราวและหลักฐานต่างๆของการจัดงาน ทั้งภาพนิ่ง คลิปวีดีโอการจัดงาน เปิดงาน และการติดต่อทวงถามไปขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆตั้งแต่ต้นปี 2562จนถึงบัดนี้เป็นเวลาล่วงเลยมานานก็ไม่ได้รับความชัดเจนจากหน่วยงานใดเลย ต่างโยนเรื่องไปมา เช่น การเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับคู่กรณีที่ สภ.เมืองอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2562 แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจปฎิเสธการรับแจ้งความและลงประจำวันบิดเบือนไม่ตรงความจริง หลังจากนั้นได้ไปที่แรงงานจังหวัดอุบลฯ ก็บอกให้ไป ยุติธรรมจังหวัดอุบลฯ /บอกต่อให้ไปศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุบลฯ แล้วจึงไปต่อที่สำนักงานอัยการจังหวัดอุบลฯแต่ก็ไม่มีความคืบหน้าและตำรวจไม่ดำเนินการเรียกตัวคู่กรณีมาดำเนินคดีแม้แต่ครั้งเดียว ทั้งๆที่ได้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษไว้แล้ว

Advertisement

ดังนั้น เมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2562 จึงได้กลับมาที่ สภ.เมืองอุบลราชธานีอีกครั้งหนึ่ง ตามคำแนะนำของอัยการท่านหนึ่ง และได้แจ้งความดำเนินคดีไว้กับคู่กรณีในข้อหาฉ้อโกงหรือยักยอกทรัพย์ แต่จนถึงบัดนี้คดีดังกล่าวยังไม่มีความคืบหน้าใดๆเลย ดังนั้นจึงขอร้องผ่านสื่อมวลชนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เข้ามาช่วยเหลือให้ได้รับความเป็นธรรมในเรื่องนี้ เพราะหลายคนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมและค่าจ้างจากงานเดียวกันนั้น เริ่มแรกก็ไปร้องเรียนด้วยกัน แต่เห็นว่าเรื่องไม่คืบหน้าและไม่ได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐเท่าที่ควร จึงไม่อยากเดินเรื่องต่อเพราะเสียเวลาทำมาหากินและเสียเงินในการเดินทาง ประกอบกับรู้ว่าเป็นญาติของนักการเมืองระดับชาติ ซึ่งทำใจแล้วว่าทำอย่างไรก็สู้ไม่ได้จึงพากันถอยไม่เดินเรื่องต่อ

ส่วนนางดารณีบอกว่า หลังจากเดินเรื่องมานานรู้สึกท้อแต่ไม่ยอมถอย วันนี้ไม่ได้เดินหน้าเพื่อจะเอาเงินคืน แต่จะเดินหน้าเพื่อทวงคืนเอาความยุติธรรมกลับมาและฝากบอกคนที่ได้รับความเสียหายด้วยกันในครั้งนี้หรือใครเคยถูกผู้หญิงคนดังกล่าวหลอก ก็ขอให้ออกมาสู้เดินหน้าหาความยุติธรรมด้วยกัน แต่ยังมีตำรวจระดับสารวัตรนายหนึ่งส่งไลน์มาว่า ขอร้องอย่าให้ร้องเรียน เพราะตนจะถูกกักยาม เงินเดือนไม่ขึ้น ขอให้ใจเย็นๆไว้ก่อน กำลังปรึกษานายอยู่ แต่รอมาจนถึงวันนี้ ก็ยังไม่คืบหน้า เชื่อว่า ตร.ไม่กล้าเพราะกลัวนักการเมือง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image