“จุรินทร์” นั่งหัวโต๊ะประชุมอาร์เซ็ปมาราธอน หวังกล่อมทุกประเทศเจรจาจบหมดในปีนี้

นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานการประชุมรัฐมนตรีความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป) ที่ประกอบด้วย 10 ชาติสมาชิกอาเซียน และ 6 ชาติคู่เจรจา ( จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์) หรืออาเซียนบวก 6 สมัยพิเศษ ครั้งที่ 9 ระหว่างวันที่ 11-12 ตุลาคม 2562 ที่โรงแรม ดิแอทธินี กรุงเทพฯ โดยได้เปิดการประชุมอย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากนั้นจึงใช้เวลาตั้งแต่บ่ายวานนี้ (11 ตุลาคม) จนถึงวันนี้ตลอดทั้งวัน ในการประชุมเจรจาแต่ละประเทศ รวมทั้งการหารือของรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน AEM (Asean Economic Ministers ) ในเรื่องเกี่ยวกับอาร์เซ็ปด้วย

นายจุรินทร์ กล่าวว่า การประชุมอาเซียนสมัยพิเศษครั้งที่ 9 เป็นการประชุมครั้งสำคัญ ที่จำเป็นต้องหารือกันอย่างตรงไปตรงมาให้มากที่สุด เพื่อให้ได้ข้อสรุปสำหรับประเด็นต่างๆ รวมทั้งดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมาย ที่ผู้นำของทุกประเทศได้ประกาศไว้ ตั้งแต่ปี 2561 ว่า ต้องการสรุปการเจรจาเสร็จสิ้นให้ได้ภายในปีนี้ โดยที่ผ่านมาจนถึงการประชุมครั้งล่าสุดที่ดานัง  ถือว่ามีความคืบหน้าค่อนข้างมาก เพราะสามารถสรุปได้จำนวน 14 ข้อบท จาก 20 ข้อบท โดยสามารถสรุปผลการเจรจาเปิดตลาดได้แล้ว 80.4% ใกล้จะจบ 16% เหลือการเจรจาเปิดตลาดที่จะต้องเร่งหารือกันต่ออีก 3.6% เท่านั้น และสามารถปิดข้อบทได้เพิ่มอีก 6 บท ได้แก่ บทบัญญัติพื้นฐานและคำนิยามทั่วไป บทการค้าสินค้าบททรัพย์สินทางปัญญา บทบัญญัติทั่วไปและข้อยกเว้น บทการระงับข้อพิพาท และบทบัญญัติสุดท้าย และในการประชุมรัฐมนตรีครั้งนี้สรุปเพิ่มอีก 1 บท คือ บทการเคลื่อนย้ายบุคคลธรรมดา ทำให้จนถึงตอนนี้สรุปได้แล้ว 14 บท และ 3 ภาคผนวก จากทั้งหมด 20 บท และ 3 ภาคผนวก สำหรับอีก 6 บทที่เหลือ ได้แก่ บทการเยียวยาทางการค้า บทการแข่งขัน บทการค้าบริการ บทกฎถิ่นกำเนิดสินค้า บทการลงทุน และบทพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นสิ่งที่สมาชิกอาร์เซ็ปต้องเร่งหาข้อสรุปในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ ก่อนนำเสนอผู้นำประกาศสรุปผลการเจรจาต่อไปในช่วงการประชุมสุดยอดอาร์เซ็ป อย่างไรก็ตาม การประชุมในครั้งนี้ จะขอความเห็นที่ประชุม เพื่อช่วยกันผลักดันให้การเจรจาที่เหลือ มีความคืบหน้าให้มากที่สุด เพื่อให้การประชุมผู้นำในเดือนพฤศจิกายนนี้ สามารถประกาศความสำเร็จได้ตามที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้

นายจุรินทร์ กล่าวว่า หากความตกลงอาร์เซ็ปมีผลบังคับใช้จะครอบคลุมตลาดขนาดใหญ่ที่มีประชากรรวมกันกว่า 3,500 ล้านคน หรือเกือบครึ่งของประชากรโลก และมีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวม หรือจีดีพีกว่า 27.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 32.3% ของจีดีพีโลก มีมูลค่าการค้ารวมกว่า 11.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็น 29.3% ของมูลค่าการค้าโลก นอกจากนี้ ความตกลงอาร์เซ็ปจะช่วยลดความซ้ำซ้อนเรื่องกฎถิ่นกำเนิดสินค้า ประสานกฎระเบียบและมาตรการทางการค้า ส่งผลให้มีการยอมรับกฎเกณฑ์ด้านมาตรฐานต่างๆ ระหว่างกัน  และสร้างความเชื่อมโยงห่วงโซ่การผลิตซึ่งจะนำไปสู่การขยายตัวทางการค้าและการลงทุนภายในภูมิภาค

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ที่โรงแรมดิแอทธินี กรุงเทพฯ ยังคงดำเนินการประชุมอาร์เซ็ป ซึ่งการเจรจาจะเกี่ยวข้องกับความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคนี้ และแผนความตกลงเกี่ยวกับเขตการค้าเสรี โดยการประชุมใช้เวลาตลอดทั้งวัน จนกระทั่งผ่านช่วงอาหารค่ำไปแล้ว ก็ยังคงดำเนินการประชุมอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ในระหว่างการประชุม นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมรัฐมนตรีประเทศสมาชิกอาร์เซ็ปทุกคน ได้จัดเซอร์ไพรส์วัดเกิดให้กับรัฐมนตรีเศรษฐกิจประจำประเทศอินโดนีเซียด้วย ทำให้บรรยากาศการเจรจาที่เข้มข้นมาตลอดทั้งวันผ่อนคลายลงไปได้มาก

Advertisement

เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว

Advertisement

เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image