นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า มาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวที่ออกมา ทั้ง 16 มาตรการ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นมาตรการอำนวยความสะดวก เพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น รวมถึง 2 มาตรการหลักคือ ร้อยเดียวเที่ยวทั่วไทย และเที่ยววันธรรมดาราคาช็อกโลก ที่จะเริ่มใช้ในวันที่ 1 พฤศจิกายน ถึง 31 ธันวาคม 2562 โดยประเมินว่า มาตรการที่ออกมาทั้งหมด ไม่ได้เป็นมาตรการในเชิงแจกเงิน จึงอาจจะไม่ได้ส่งผลเชิงบวกกับตลาดหุ้นไทยมากนัก ไม่เหมือนกับตอนออกมาตรการชิมช้อปใช้ ที่กระจายประโยชน์ไปในหุ้นหลายกลุ่ม ทั้งหุ้นกลุ่มอุปโภคบริโภค กลุ่มท่องเที่ยว และกลุ่มโรงแรม
“ถึงแม้มาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวที่ออกมา อาจจะไม่ได้สร้างอานิสงส์เชิงบวกให้กับตลาดหุ้นไทยมากนัก แต่ก็เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและเป็นผลดีกับเศรษฐกิจในประเทศได้ โดยผลจากการที่รัฐบาลใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการลงทุนต่างๆ ที่เก็บสะสมมาตั้งแต่ต้นปี 2562 จะมีผลในช่วงไตรมาสที่ 4 หมายความว่าน่าจะเห็นตัวเลขในไตรมาส 4 ดีขึ้น หรือไม่ก็เลยจุดต่ำสุดไปแล้ว ทำให้น่าจะเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นได้ ถึงแม้จะไม่ได้พุ่งกระฉูดมากนัก แต่ก็ถือว่าเลยจุดต่ำสุดในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งอาจจะเป็นโอกาสทำให้นักลงทุนเข้าลงทุนในตลาดหุ้นไทยได้มากขึ้น รวมถึงประเมินว่าจีดีพีรวมของปีนี้ มีโอกาสโตไม่ถึง 3% สูงมาก และเชื่อว่าไม่น่าจะโตเกิน 3% ได้แน่นอน” นายมงคลกล่าว
นายมงคลกล่าวว่า ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ยังมีปัจจัยเชิงบวกที่คาดว่าจะช่วยหนุนตลาดหุ้นไทย ให้เคลื่อนไหวปรับขึ้นได้ โดยปัจจัยหลักเป็นเรื่องของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ที่ภาพรวมออกมาดูดีและมีความผ่อนคลายค่อนข้างมาก รวมถึงมีการเปิดเผยถึงแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะกลับมาใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) หรือ การนำเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ในรูปแบบที่รัฐบาลเข้าไปซื้อสินทรัพย์ของสถาบันการเงิน และจะให้สถาบันทางการเงิน ปล่อยกู้ให้ภาคเอกชนต่อไปมาด้วย โดยหากสหรัฐใช้มาตรการคิวอีจริง จะสร้างผลดีกับระบบเศรษฐกิจ เพราะจะเพิ่มสภาพคล่องในเศรษฐกิจโลกได้ ในส่วนของปัจจัยในประเทศ เป็นเรื่องกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (แอลทีเอฟ) ชุดสุดท้าย ที่จะมีการซื้อในไตรมาส 4 จำนวนมาก คาดว่าจะเป็นส่วนช่วยหนุนให้ดัชนีวิ่งในแดนบวกได้ โดยให้กรอบเคลื่อนไหวในช่วงสิ้นปี อยู่ที่ระดับ 1,600-1,700 จุด ขึ้นอยู่กับผลสำเร็จของการเจรจาการค้า ว่าจะออกมาดูดีได้มากน้อยอย่างไร
เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว
