สกู๊ป น.1 : 23 ตุลาฯ ระทึก โฟกัส ‘เขต5’ นครปฐม ‘รบ.-ค้าน’ชิงดำ

สนามเลือกตั้งซ่อม ส.ส.นครปฐม เขตเลือกตั้งที่ 5 แทนเก้าอี้ของนางจุมพิตา จันทรขจร อดีต ส.ส.นครปฐม เขต 5 พรรคอนาคตใหม่ ที่ประกาศลาออกด้วยปัญหาด้านสุขภาพ พุ่งเข้าโค้งสุดท้าย วันเข้าคูหากาบัตร 23 ตุลาคม รออยู่ใกล้ๆ

การเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้สมัคร 7 คน จาก 7 พรรคการเมือง คือ นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ พรรคชาติไทยพัฒนา หมายเลข 1 น.ส.สิริขวัญ แย้มมูล พรรคพลังสังคม หมายเลข 2 นายสุรชัย อนุตธโต พรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 3 นางลาวัลย์ สิงห์สถิต พรรคเสรีรวมไทย หมายเลข 4 น.ส.ปริมปรางค์ แสงสว่าง พรรคไทยศรีวิไลย์ หมายเลข 5 นายไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร พรรคอนาคตใหม่ หมายเลข 6 และ นายเพชร จันทร์ดา พรรคเพื่อชีวิตใหม่ หมายเลข 7

หากมาดูฐานตัวเลขในพื้นที่ครั้งนี้มีแง่มุมที่น่าสนใจอย่างยิ่ง สนามเลือกตั้งเขต 5 นครปฐม อำเภอสามพราน มีประชากรผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 143,221 คน โดยการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม มีผู้มาแสดงตน 109,038 คน (76.13%) เป็นบัตรดี 101,879 บัตร (93.44%) บัตรเสีย 4,770 บัตร (4.37%) และไม่เลือกผู้ใด 2,387 บัตร (2.19%)

ผู้สมัครที่โดดเด่นขณะนี้หนีไม่พ้น 3 คนจาก 3 พรรคการเมือง ที่กำลังขับเคี่ยว ระหว่างซีกรัฐบาลกับซีกฝ่ายค้าน ซีกฝ่ายรัฐบาลไม่สามารถตกลงกันได้จึงมีผู้สมัคร 2 พรรค คือประชาธิปัตย์ กับชาติไทยพัฒนา ห้ำหั่นกันเอง

Advertisement

ส่วนซีกฝ่ายค้านมีเพียงพรรคอนาคตใหม่ เจ้าของเก้าอี้เดิมที่ได้คะแนนนำโด่งกว่าทั้งสองพรรคในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา

รอบนี้เสมือนสองรุมหนึ่ง หรือพรรครัฐบาลต้องตัดคะแนนกันเอง เมื่อนำมาเปรียบเทียบฟอร์มคู่ต่อสู้นั้นน่าสนใจอย่างยิ่ง

Advertisement

เบอร์ 1 นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ประกาศจุดยืนชัดเจนว่า สะสมทรัพย์อยู่กับทุกคนมานาน มีผลงานมามากมาย เราจะพัฒนาต่อไป เรามีประสบการณ์ บ้านเราจะทั้งแข็งแรงและก้าวหน้า เราทำการเมืองแบบสร้างสรรค์ หลีกเลี่ยงความขัดแย้ง และนโยบายของพรรคชาติไทยพัฒนาไม่ได้มาขายฝัน แต่เรามาแก้ไขปัญหาที่มันมีอยู่จริง เพื่อรองรับความเจริญในภายภาคหน้า เราจะเน้นแก้ปัญหาปัจจุบันมากกว่าการสร้างฝันในอนาคต และคนที่รู้จัก ‘เผดิมชัย’ž จะรู้ว่าผมเป็นคนที่พูดจริง ทำจริง และบอกเลยว่าอายุมากไม่ใช่ปัญหา ไม่ใช่จุดอ่อน แต่เป็นจุดแข็ง เพราะเผชิญมาทุกปัญหา และพร้อมแก้ไขปัญหาเหล่านั้นด้วยปัญญาŽ

เป็นส่วนหนึ่งจากเผดิมชัย ที่เดินลุยหลังได้หมายเลข 1 เพื่อแก้มือคว้าแชมป์สนามนี้กลับมาอีกคำรบด้วยความเก๋า

ขณะที่ เบอร์ 3 นายสุรชัย อนุตธโต พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ชูความเป็นตัวตนคนสามพรานโดยกำเนิด ประกาศรู้ปัญหา ชูความเป็น ส.จ.มากว่า 10 ปี เป็นนักการเมืองท้องถิ่นที่รู้ปัญหาใกล้ชิดประชาชน
ด้วยแคมเปญโครงการสะพานยกระดับข้ามแยกเทียนดัด และแยกโรมัน ถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) แก้ไขปัญหาการจราจรให้คนสามพรานและอื่นๆ ด้วยผลงานท้องถิ่นนิยมที่ผ่านมา เมื่อรวมกับความศรัทธาของคนที่รักพรรคประชาธิปัตย์ รวมถึงบรรดาแกนนำพรรคระดับบิ๊กและ ส.ส.มาช่วยหาเสียงทุกวัน เหมือน ”ลมใต้ปีก”Ž วัดจากกระแสวันที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค มาช่วยเดินหาเสียงในวัดทรงคนอง เป็นวันที่คนสามพรานคึกคักเป็นพิเศษ เพราะอภิสิทธิ์ยังมีคนรักเยอะ คนรักอภิสิทธิ์เพราะประกาศจุดยืนไม่เอาเผด็จการ ต่อมาอีกไม่กี่วัน นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯกทม. ควง นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รองผู้ว่าฯกทม.ด้านการจราจร มาตอกย้ำแคมเปญแก้ไขจราจรให้คนสามพรานอีก เชื่อว่าคะแนนของ ปชป.กระเตื้องขึ้นเด่นชัด

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรค ผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศว่า ในช่วงโค้งสุดท้าย พรรคใช้กลยุทธ์ดาวกระจาย 13 สาย 13 ตำบล เพื่อขอโอกาสคนสามพรานเลือกผู้สมัครของพรรค เน้นนโยบายแก้ไขปัญหาพัฒนาสามพรานยั่งยืนภายใต้ “ปชป.ยุคใหม่ ทำได้ไว ทำได้จริง”Ž เช่น ปัญหาจราจร ปัญหาหมู่บ้านจัดสรรและชุมชน ปัญหาสิ่งแวดล้อมคลองเน่าเสีย ปัญหาธุรกิจการค้า ปัญหายาเสพติด เป็นต้น

ไม่กล้าฟันธงว่าจะชนะ แต่เชื่อว่าจะได้คะแนนเพิ่มขึ้นจากการที่ผู้บริหารและสมาชิกพรรคจากทุกภาคช่วยกันลงพื้นที่เดินเคาะประตูบ้าน เดินตลาด ปราศรัยย่อยอย่างต่อเนื่อง มุ่งเสนอนโยบายแก้ปัญหาพัฒนาสามพรานยั่งยืน ซึ่งเป็นความต้องการของคนในพื้นที่ที่จะมี ส.ส.เขตมาดูแล


“นายสุรชัยเป็นคนสามพรานโดยกำเนิด เป็นอดีต ส.จ.มีผลงานและรู้ปัญหาในพื้นที่ มีความมุ่งมั่นในการทำงานรับใช้ประชาชน”Ž นายอลงกรณ์กล่าว

ด้าน เบอร์ 6 นายไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ชัดเจนตั้งแต่พรรคจนถึงบุคคล ประกาศเดินหน้าสู้อำนาจไม่ชอบธรรม มอตโตแรก “เบื่อลุง เลือกเรา อนาคตใหม่”Ž ตอบโจทย์คอการเมืองและประชาชนในพื้นที่ได้ระดับหนึ่ง ต่อมา “หนึ่งเสียง เปลี่ยนรัฐบาล”Ž ย้ำลงไปอีกถึงกลุ่มที่อยากเปลี่ยนรัฐบาลบริหารประเทศ เพราะเชื่อว่าหากพรรคชนะสนามเลือกตั้งเขต 5 นครปฐมนี้ จะเป็นโดมิโนตัวแรกไปจังหวัดอื่นๆ อีก เพราะเป็นชัยชนะแรกของฝ่ายประชาธิปไตย เพื่อขยับตัวเลขแซงฝ่ายรัฐบาล หวังเปลี่ยนขั้วการเมืองจากตัวเลข ส.ส.ในสภา เท่านี้ยังไม่พอ ยังตอกย้ำหมุดอันแหลมคมว่า “มีชาวบ้านกระซิบ มีการซื้อสิทธิ”Ž ปลุกกระแสพลังบริสุทธิ์ขึ้นมาเทคะแนน

ไม่เว้นแม้แต่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ออกมายืนยันว่า ”หากพรรคในฝ่ายประชาธิปไตยชนะในเขตเลือกตั้งซ่อมทั้งหมด อาจจะทำให้เปลี่ยนสมการ เปลี่ยนสมดุลทางการเมืองได้ เขต 5 นครปฐม จึงเปรียบเหมือนเป็นโดมิโนตัวแรก ถ้าที่นี่แสดงให้เห็นได้ ถ้าประชาชนไม่ให้การสนับสนุนรัฐบาลชุดนี้ ก็อาจจะเกิดโดมิโนที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล”Ž

โฟกัสโค้งสุดท้าย สิ่งที่น่าจับตาคือกระแสพรรคกับความศรัทธาตัวบุคคล หลายคนมองว่าพรรคอนาคตใหม่ได้กระแสของการเป็นฝ่ายค้านที่ต่อต้านรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จาก 34,164 คะแนน ที่เคยเทให้อนาคตใหม่เขต 5 ชนะเลือกตั้งยืนยันถึงคะแนนของคนที่ต้องการประชาธิปไตย ขณะที่ฐานคะแนนของบ้านใหญ่ “สะสมทรัพย์”Ž ก็ไม่ธรรมดา มีศักยภาพในการล้างตา ทวงบัลลังก์คืน ส่วนประชาธิปัตย์ที่ระดมพลแกนนำและ ส.ส.รุกพื้นที่อย่างหนักหวังฟื้นศรัทธาพรรคเก่าแก่ให้กลับคืนมา

จับตาวันที่ 23 ตุลาคม ประชาชนชาวนครปฐม เขต 5 กว่า 143,221 จะให้คำตอบต่อข้อสงสัยของกระแสนิยม
”ฝ่ายค้าน-รัฐบาล”Ž

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image