‘อุทยานแห่งชาติเขาหลวง’ เผย ร้านอาหารรุกน้ำตกท่าแพ อยู่นอกเขตอุทยานฯ มอบกรมเจ้าท่าแก้ปัญหา
กรณีเพจชื่อดังเผยแพร่คลิปพร้อมภาพและข้อความระบุว่า เทคอนกรีตลงคลองที่น้ำตกท่าแพ (อุทยานแห่งชาติเขาหลวง) ตำบลช้างกลาง อำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช ทำเป็นเพิงพัก กางร่ม ตั้งโต๊ะกินกันในน้ำรุกล้ำลำน้ำสาธารณะ พร้อมเรียกร้องให้มีการรื้อถอน ขอให้หน่วยงานตรวจสอบเร่งตรวจสอบแก้ไขด่วน
เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม นายวิกรานต์ ทั่วด้าว หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาหลวง เปิดเผยว่า อุทยานแห่งชาติเขาหลวง พร้อมเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาหลวง ร่วมกับนายอำเภอช้างกลาง เจ้าหน้าที่ป้องกันจังหวัดนครศรีธรรมราช กรมเจ้าท่า กำนันตำบลช้างกลาง และผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 14 ร่วมตรวจสอบบริเวณน้ำตกท่าแพ ตามที่มีการร้องเรียนว่ามีที่เพิงพัก กางร่ม ตั้งโต๊ะในน้ำรุกล้ำที่สาธารณะ ได้จับค่าพิกัดแล้ว ประกอบด้วย พิกัดที่ 1. 47P0576026 E 0923814 N, 2. 47P0575978 E 0923844 N, 3. 47P0576008 E 0923815 N ซึ่งผลการตรวจสอบปรากฎว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่นอกเขตอุทยานแห่งชาติเขาหลวง
“จากการตรวจสอบแผนที่อุทยานพบว่าร้านอาหารทั้ง 3 ร้าน ที่สร้างสิ่งปลุกสร้างรุกล้ำลำน้ำสาธารณะ น้ำตกท่าเพ ไม่ได้อยู่ในเขตอุทยานฯ แต่ตรวจสอบแล้วพบว่ามีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำลำน้ำสาธารณะจริง อย่างไรก็ตามการกระทำความผิดดังกล่าวนั้น เป็นอำนาจหน้าที่ของทางกรมเจ้าท่าจังหวัดนครศรีธรรมราช”นายวิกรานต์ กล่าว
นายวีรยุทธ ขนุนนิล นายอำเภอช้างกลาง กล่าวว่า ตรวจสอบแล้วพบว่ามี ร้านอาหารทั้ง 3 ร้าน มีการเทพื้นคอนกรีตเพื่อวางโต๊ะ เก้าอี้ ร่มกาง อำนวยความสะดวกลูกค้า กระจายทั่วบริเวณริมลำน้ำสาธารณะ รวมทั้งมีการสร้างสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำลำน้ำสาธารณะจริง ซึ่งที่ดังกล่าวเป็นที่ของ สกย. ซึ่งได้ให้ชาวบ้านในพื้นที่ดูแลต้นทาง พร้อมทั้งให้ใช้พื้นที่ดังกล่าวประกอบอาชีพได้ คิดว่าคงไม่มีใครคาดคิดว่า จะเป็นอย่างที่เราเห็นๆ ขณะนี้ได้สั่งการผู้ประกอบการร้านอาหารทั้งหมดรื้อสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำออกให้หมดแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงาน ภายหลังเจ้าหน้าที่ฯลงตรวจสอบ และได้แจ้งให้ผู้ประกอบการร้านอาหาร ร้านค้าทั้ง 3 ร้าน และขอให้ทำการรื้อถอนออกให้หมด จึงได้ทำการทุบรื้อคอนกรีตที่เทรุกล้ำลำน้ำสาธารณะ โดยมีการใช้กำลังประมาณ 5 – 6 คน พร้อมเครื่องมือช่าง เร่งรื้อทุบคอนกรีตและรื้อสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำลำน้ำสาธารณะให้กลับสู่ธรรมชาติอย่างเร็วที่สุด
แหล่งข่าวระบุ ขณะนี้เจ้าหน้าที่จากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ลงพื้นที่เป้าหมายตามน้ำตก ลำคลอง และสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อตรวจสอบ ลักษณะการรุกล้ำพื้นที่สาธารณะอย่างเร่งด่วน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
