ตร.สระแก้ว ประสานตร.กัมพูชา ช่วยหญิงไทยถูกจับตัวเรียกค่าไถ่ในกัมพูชา

ตร.สระแก้ว ประสานตร.กัมพูชา ช่วยหญิงไทยถูกจับตัวเรียกค่าไถ่ในกัมพูชา

 

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 20 ตุลาคม พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต ผกก.สส.ภ.จังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา พล.ต.ต.ปราศรัย จิตตสนธิ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว พร้อม พ.ต.อ.เสกสรร วัฒนพงษ์ รอง.ผบก.จว.สระแก้ว พ.ต.อ.เรืองศักดิ์ บัวแดง ผกก.สภ.คลองลึก พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.สระแก้ว ได้ให้การต้อนรับ พล.ต.อ.วรรณวีระ สม รอง.ผบ.ตร.ของประเทศกัมพูชา และคณะในการส่งตัว น.ส.ชญาภา จะโรรัมย์ ผู้ถูกลักพาตัวเรียกค่าไถ่ในประเทศกัมพูชา กลับประเทศไทย ได้ด้วยความปลอดภัย โดยเกิดเหตุ ที่บ่อนการพนันสีหนุวิล กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา เวลาประมาณ 14.00 น.

ด้าน พ.ต.อ.เรืองศักดิ์กล่าวว่า นายชิตพล สมบูรณ์พงส์ อายุ 28 ปี บ้านเลขที่ 28 ม.1 ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก แจ้งว่าเมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา นายชิตผลได้โทรศัพท์มือถือจาก นส.ชญาภา จะโรรัมย์ อายุ 24 ปี บ้านเลขที่ 68 ม.1 ต.ป้าไร่ อ.อรัญ จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นกรรยา เข้าไปทำงานออนไลน์ให้กับบ่อนการพนันในประเทศกัมพูชา ว่าถูกกักตัวและจะทำร้ายร่างกายอยู่ในประเทศกัมพูชา โดยให้โอนเงิน จำนวน 150,000 บาท นำไปให้นายจ้างของ นส.ชญาภาเพื่อเป็น การชดใช้ไม่ทราบเป็นค่าอะไร ถ้าไม่โอนภายในวันนี้ ทางนายจ้างขู่ว่าจะทำร้ายร่างกายและจะฆ่าให้ตาย จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ

ส่วน พล.ต.ต.ปราศรัย กล่าวว่า นายชิตผลให้การว่า น.ส.ชญาภาเป็นภรรยาได้เข้าไปทำงานในบ่อนการพนันสีหนุวิล กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา จากการโทรพูดคุยทางแอพพลิเคชั่นไลน์ น.ส.ชญาภา บอกว่าทางนายจ้าง ซึ่งเป็นชาวต่างชาติคาดว่าน่าจะเป็นชาวจีนได้กล่าวหาว่า นส.ชญาภา ลักเอาเงินค่าเช่าบ้านไปแล้วให้นำเงิน จำนวน 150,000 บาท ไปชดใช้คืนให้ ทางนายจ้างก็จะปล่อยตัว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ดลองลึก และชุดสืบ กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว ได้มีการประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจของประเทศกัมพูชา เพื่อให้การช่วยเหลือ น.ส.ชญาภาและระหว่างทางนายชิตผล ก็ได้มีการติดต่อพูดคุยกับ น.ส.ชญาภาและมีการต่อรองเรื่องเงิน จำนวน 150,000 บาท ซึ่ง น.ส.ชญาภา แจ้งว่าให้โอนมาก่อน จำนวน 50,000 บาท เพื่อไม่ให้ทางผู้ควบคุมตัวทำร้ายตนเอง จนกระทั่งภายหลัง น.ส.ชญาภา บอกว่าให้นำเงินมาใช้ก่อน 40,000 บาท โดยให้โอนเงินมาในเบื้องต้นก่อน 10,000 บาท ส่วนที่เหลืออีก 30,000 บาท ให้โอนไปในรุ่งเช้าของวันที่ 16 ตุลาคม เพื่อให้ทางผู้ที่ควบคุมไม่ทำร้าย และปล่อยให้เข้าห้องน้ำได้ นายชิตผลจึงได้โอนเงิน จำนวน 10,000 บาท เข้าบัญชีของ น.ส.ชญาภา เพื่อให้นำไปชดใช้นายจ้างในเบื้องต้น เมื่อโอนเงินไปแล้วได้มีการโทรไปสอบถาม มีชายชาวต่างชาติซึ่งสามารถพูดและฟังภาษาไทยเข้าใจได้รับสายและบอกว่า นส.ชญาภา ได้ไปนอนแล้ววันที่ 16 ตุลาคมให้ติดต่อมาใหม่

Advertisement

ต่อมาได้รับแจ้งจาก นายชิตผล ว่าหลังจากช่วงเวลาประมาณ 02.00 น. ของวันที่ 16 ตุลาคม โทรศัพท์ของ น.ส.ชญาภาได้ปิดเครื่องไม่สามารถติดต่อได้ พนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.คลองลึก และชุดสืบ กก.สส.จว.สระแก้ว ได้สอบสวนพยานบุคคล และอยู่ระว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน การสืบสวนหาข้อเท็จจริง และรายละเอียดแห่งคดีเพิ่มเติม เพื่อจะได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

ทางด้าน พล.ต.อ.วรรณวีระ กล่าวว่า ได้รับประสานจาก พล.ต.ต.ปราศรัย จิตตสนธิ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว กรณีของ นายชิตพล จากนั้นได้จัดตำรวจกัมพูชาเข้าตรวจสอบจับกุมนายจ้างข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวขู่กรรโชกทรัพย์และช่วยเหลือ นส.น.ส.ชญาภา ออกมาด้วยความปลอดภัยในการช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชาจากนั้นได้ส่งมอบตัว น.ส.ชญาภาให้กับ พล.ต.ต.ปราศรัย จิตตสนธิ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว เพื่อดำเนินการต่อไป

ส่วน นายชิตพล กล่าวว่า ในเบื้องต้นตนได้หาเงินโอนไปให้ก่อน 16,900 บาท เพื่อความปลอดภัยของภรรยา จากนั้นทางตำรวจสระแก้วก็ประสานทางตำรวจเขมรได้ทำการช่วยเหลือภรรยาของตนออกมาจึงขอขอบคุณทางตำรวจสระแก้วและทางตำรวจเขมรที่ให้ความช่วยเหลือมา ณ โอกาสนี้ด้วย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image