เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน โต้ไม่ใช่ ‘เน็ตฟลิกซ์’ แต่เป็น ‘โรงหนัง’ ที่กำลังฆ่าภาพยนตร์

(เครดิตภาพจาก เอเอฟพี)

ในโอกาสกำลังมีผลงานภาพยนตร์เรื่องใหม่ ที่ทั้งกำกับการแสดงเอง เล่นเอง ชื่อเรื่อง “Motherless Brooklyn” ที่มีกำหนดลงโรงฉายปลายเดือนตุลาคมนี้ “เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน” นักแสดงเจ้าบทบาทวัย 50 ปี ให้สัมภาษณ์กับ “เดอะ เดลี บีสต์” ว่า “สตีเวน สปีลเบิร์ก” ผู้กำกับดังคิดผิดที่โทษว่า “เน็ตฟลิกซ์” กำลังทำลายภาพยนตร์ เพราะตามความเห็นของเขา โรงภาพยนตร์ในเครือต่างๆ ต่างหากที่กำลังบ่อนทำลาย กำลังฆ่าวงการภาพยนตร์ ด้วยการฉายหนังด้วยระบบแสง สี เสียงที่ด้อยคุณภาพ ทำให้ผู้ชมภาพยนตร์ไม่ได้เสพอรรถรสในการรับชมอย่างสมบูรณ์แบบ ตามที่ได้รับการถ่ายทำมา

 

(เครดิตภาพจาก เอเอฟพี)

“มันคือโรงภาพยนตร์ในเครือต่างๆ ต่างหากที่กำลังทำลายประสบการณ์ อรรถรสในการรับชมภาพยนตร์” นอร์ตันกล่าว ทั้งยังเรียกร้องให้แฟนภาพยนตร์ช่วยกันเป็นปากเสียง เรียกร้องให้โรงภาพยนตร์จัดฉายภาพยนตร์ด้วยระบบภาพ แสง สี เสียงที่มีคุณภาพ เนื่องจากทุกวันนี้โรงภาพยนตร์ส่วนใหญ่ในสหรัฐอเมริกายังฉายด้วยระบบที่ไม่ได้มาตรฐานดังกล่าว

“ตอนนี้มีผู้สร้างภาพยนตร์และตากล้องจำนวนมากที่ผมรู้จักที่กำลังดูปัญหานี้อยู่ และบอกเลยว่า มีโรงภาพยนตร์กว่า 60% ที่ฉายภาพยนตร์ด้วยระบบที่ต่ำกว่ามาตรฐานตามที่ได้เซ็นสัญญากันไว้ โดยฉายด้วยระบบเสียงที่แตกพร่า ภาพที่ปรากฏบนจอภาพยนตร์ก็ดูมัวๆ แต่ไม่มีใครที่บอกให้โรงภาพยนตร์รู้ถึงปัญหานี้กันเลย”

Advertisement

 

(เครดิตภาพจาก เอเอฟพี)

“ถ้าโรงภาพยนตร์ฉายหนังด้วยระบบที่มีคุณภาพอย่างที่ควรจะเป็น เมื่อคนดูได้ดูก็จะรู้สึก ว้าว… มันดีจริงๆ อย่างนี้ฉันก็ไม่อยากนั่งดูหนังที่บ้าน สิ่งที่ผมอยากเห็นก็คือ อยากให้แฟนหนังกล้าเดินไปบอกผู้จัดการโรงภาพยนตร์ให้รู้ว่าหนังของคุณภาพมันดูมืดๆ คุณต้องคืนเงินค่าตั๋วให้ฉัน เพราะฉันจ่ายเงินค่าตั๋วแพง เพื่อต้องการได้รับประสบการณ์การนั่งดูหนังที่คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป”

ทั้งนี้ เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน นักแสดงเจ้าบทบาท ยังพูดว่า เขาไม่เห็นด้วยกับสตีเวน สปีลเบิร์ก ผู้กำกับระดับปรมาจารย์ของฮอลลีวู้ดวัย 72 ปี ที่เคยออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเน็ตฟลิกซ์ ว่าเป็นอันตรายต่อวงการภาพยนตร์ และเห็นว่า ภาพยนตร์ที่ฉายทางเน็ตฟลิกซ์ไม่ควรได้รับพิจารณาเข้าชิงออสการ์ แต่ควรมีคุณสมบัติได้เข้าชิงรางวัลเอ็มมี่ ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้ผลงานทางทีวี โดยสปีลเบิร์กออกมาให้ความเห็นนี้ หลังจาก “โรมา” หนังของเน็ตฟลิกซ์ ได้รับเสนอชื่อชิงออสการ์หลายรางวัล รวมทั้งรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม เมื่องานประกาศรางวัลออสการ์เมื่อต้นปี

Advertisement

“ถ้าผมจะไม่เห็นด้วยกับใครบางคน ด้วยความเคารพ นั่นก็คือ สปีลเบิร์ก ผมคิดว่าเน็ตฟลิกซ์ลงทุนกับโรมาในเชิงภาพยนตร์มากกว่าค่ายหนังเล็กๆ อื่นๆ อีก เน็ตฟลิกซ์นำโรมา หนังขาวดำที่พูดภาษาสเปน ลงโรงฉายตามโรงภาพยนตร์ทั่วโลก หลายร้อยโรงภาพยนตร์เหมือนที่ค่ายโซนี่ทำ และทุ่มเงินสร้างทั้งด้านโปรดักชั่นมากกว่าที่ใครจะทำ มีหลายอย่างเกิดขึ้นเพราะเน็ตฟลิกซ์ ที่เป็นแนวหน้าที่นำเสนอประสบการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อน เรื่องราวที่หลากหลายให้ได้ดู ได้ชมกัน” นอร์ตันกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image