แบรดลีย์ ไฮนส์ รองประธานฝ่ายภูมิภาค เอเชียแปซิฟิค Siteminder.com เผยว่า การใช้เทคโนโลยีเข้ามาจัดการหลังบ้านของธุรกิจโรงแรม จะช่วยเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจได้สะดวกรวดเร็วและตอบโจทย์ พร้อมชี้ ลูกค้าจีนยังเติบโตในไทยได้อีก 5-10 ปีข้างหน้า แต่ต้องเข้าใจไลฟ์สไตล์
“ผมมองว่าธุรกิจโรงแรม เป็นธุรกิจที่ต้องพัฒนาให้ได้ทั้งระบบ ผมจะไม่พัฒนาผลิตภัณฑ์เฉพาะโรงแรมขนาดใหญ่เพียงแย่างเดียว แต่ต้องให้ระบบเข้าถึง โรงแรมขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ เพราะแต่ละโรงแรมความต้องการแตกต่างกัน บริษัทของเรามีผลิตภัณฑ์หลักคือ channel manager”
“เรามีลูกค้า 35,000 แห่งทั่วโลก ในปี2018 ช่วยสร้างรายได้จากยอดจองห้องพักให้กับโรงแรมกว่า 28,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ช่วยการจองห้อง 87 ล้านห้องจากทั่วโลก มีพันธมิตร กว่า 700 บริษัท มีพนักงานทั่วโลก 800 คน โดยเฉพาะซิดนีย์ มีทีมสนับสนุนที่ยอดเยี่ยม โดยมีเป้าหมาย คือ ช่วยผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมให้มีการบริหารจัดการได้อย่างยอดเยี่ยม”
ทั้งนี้ แบรดลีย์ เผยถึงสัดส่วนลูกค้าในตลาดสหรัฐ บริษัท มีลูกค้า 15 เปอร์เซนต์ ยุโรป 40 เปอร์เซนต์ เอเชีย 25 เปอร์เซนต์ และ ออสเตรเลีย20 เปอร์เซนต์ ถ้ารวมเอเชียและออสเตรเลียเข้าด้วยกัน ถือเป็นลูกค้ากลุ่มใหญ่ที่สุด 45 เปอร์เซนต์ ที่ต้องดูแล
อย่างไรก็ตาม รองประธานภาคพื้นเอเชีย แปซิฟิค ของ SiteMinder ยังมองว่าการพัฒนาระบบหลังบ้านเป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้า ที่ต้องการทำทุกอย่างให้จบบนโลกออนไลน์ โดยใช้เทคโนโลยี เข้ามาช่วย ในเรื่องของการปรับจำนวนห้องและราคาทุกอย่างต้อง”Real Time”เพื่อไม่ให้เกิดoverbooking นอกจากนี้ยังเป็นการทำตลาดbrand awareness อีกด้วย สำหรับการจองห้องพักเเละโรงเเรมต่างๆ หลายท่านคงเคยใช้บริการของ SiteMinder เเบบไม่รู้ตัว เรามี พาร์ทเนอร์ อย่าง Agoda ที่ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นเอเชีย booking.com ลูกค้าก็มาจากฝั่งยุโรป และ Expedia ทำให้แทรเวล เอเย่นต์ หลังบ้านก็มาคอนเนคกันเอง ”
ปัจจุบันจีนยังเป็นตลาดท่องเที่ยวที่ใหญ่มาก โดยนักท่องเที่ยวจีนส่วนใหญ่นิยมจองห้องพักผ่าน Ctrip มีนักเดินทางสูงถึง150 ล้านคน ที่เดินทางทั่วโลก มีเงินหมุนเวียนในระบบ 250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทว่านักท่องเที่ยวชาวจีน มักมีพฤติกรรม ชอบจองนาทีสุดท้าย ชอบจองหน้าโรงแรม หน้าเคาเตอร์ ก็เป็นโจทย์ที่ท้าทายสำหรับธุรกิจโรงแรมว่าจะสามารถปรับเปลี่ยนหรือรับมืออย่างไร โดยคุณแบรดลีย์ มองว่า ตลาดจีนยังสามารถโตได้อีกในประเทศไทย แม้ อีก5-10ปี แต่เจ้าขงกิจการต้องรู้และเข้าใจไลฟ์สไตล์ของพวกเขา เพื่อแก้ให้ตรงจุด
“เราพยายามร่วมมือกับเว็บไซต์ท่องถิ่นต่าง ๆ ที่ให้บริการกับคนจีนโดยเฉพาะ โรงเเรมที่ใช้ของเราก็จะสามารถเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ท้องถิ่นในจีนได้ ไม่เฉพาะตลาดจีน เรายังมีตลาดอินเดีย และมาเลเซีย แต่แนวโน้มนักท่องเที่ยวจีน ในอีก 5-10 ปี ก็ยังคงอันดับหนึ่ง เนื่องจากตลาดยุโรป และ อเมริกา ก็มีข้อจำกัดทำให้นักท่องเที่ยวเข้าไปยากขึ้น คนจีนจึงเลือกมาท่องเที่ยวในแถบเอเชียมากกว่า โดยเฉพาะกรุงเทพ ยังได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่ง แม้จะ มีภูเก็ตและ พัทยา เป็นอีกจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว โดยปี2018 มีนักท่องเที่ยวมามากถึง 22.8 ล้านคน ผมมองว่ากรุงเทพมีทำเลที่ตั้งที่เหมาะสม เป็นศูนย์กลางของภุมิภาค เพราะมีวัฒนธรรมที่หลากหลายรวมถึงเป็นจุดแวะเพื่อท่องเที่ยวไปในประเทศอื่นอีกด้วย”รองประธานSiteminderฝ่ายภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค กล่าว
ทั้งนี้ เมื่อปีที่ผ่านมา SiteMinder ได้ร่วมมือกับ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ตั้งศูนย์ศูนย์ให้คำปรึกษาผู้ประกอบการโรงแรม รายเล็ก โดยให้ความรู้ว่าเจ้าของธุรกิจต้องมีความรู้ด้านใดบ้างเพื่อต่อยอดให้ธุรกิจของตัวเอง เนื่องจากธุรกิจโรงแรม เป็นอุตสาหกรรมที่มีโอกาสเติบโตสูง เพราะการท่องเที่ยวยังคงเป็นแหล่งรายได้หลักของประเทศไทย ขณะเดียวกัน ยังถือเป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยวในชุมชนท้องถิ่น (Go Locals) อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากแนวโน้มนักท่องเที่ยวในปัจจุบันไม่ได้มองหาแค่โรงแรมขนาดใหญ่ภายใต้เชนต่างประเทศ แต่ยังให้ความสนใจกับโรงแรมหรือที่พักที่สามารถสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างในการท่องเที่ยวและทำให้พวกเขารู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของสถานที่เหล่านั้น จุดนี้ทำให้โรงแรมและที่พักขนาดกลางขนาดเล็กเกิดขึ้นอย่างมากในประเทศไทย
“วัตถุประสงค์ของ Siteminder คือต้องการเข้ามาช่วยผู้ประกอบการ พัฒนาเทคโนโลยี และสิ่งสำคัญ เราต้องเติบโตไปพร้อม ๆกัน เราต้องการทำความเข้าใจกับนักธุรกิจรุ่นเก่ากับรุ่นใหม่ ในเรื่องของการใช้เทคโนโลยีว่าทำให้เกิดรายได้มากขึ้นอย่างไร ช่วงแรกพวกเขาคิดว่าอาจไม่จำเป็น แต่เราต้องเข้าไปสร้างความเข้าใจ และต้งการให้เข้าถึงเจ้าขงกิจการรายเล็กที่ไม่สามารถไปซื้อแพลทฟอร์ มใหญ่ สำหรับ Channel manager ระบบบริหารเพิ่มช่องทางการขาย เป็นจุดศูนย์รวมบุ๊คกิ้งที่มีระบบข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ โรงเเรมสามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าเพื่อต่อยอดบริการของตัวเอง เช่น การจองห้องพักล่วงหน้า เฉลี่ยใช้จ่ายกี่บาท และ ใช้เวลากี่คืน โดยสามารถเพิ่มช่องทางการขาย มุ่งเจาะทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น แต่เพิ่มโอกาสในการมองเห็นและรับรู้ สถิติพบว่า ถ้าเขาไปเห็นเราในออนไลน์เอเยนซี่อื่น ๆ นักท่องเที่ยวราว 30% จะกลับมาเสิร์ชหาที่เว็บไซต์โรงแรมโดยตรง” มร.แบรดลีย์ กล่าวทิ้งท้าย
อย่างไรก็ตาม SiteMinder ให้บริการลูกค้าได้หลากหลายทั้งโรงแรมใหญ่ ขนาดกลางและขนาดเล็ก โดยมีการคิดค่าใช้จ่ายผ่านระบบเป็นรายปีและรายเดือน ขึ้นอยู่กับว่าต้องการใช้งานกี่ระบบและจำนวนห้องของผู้ประกอบการ
