นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยระหว่างการประชุมคณะมนตรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC Council) ครั้งที่ 18 ว่า การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของอาเซียนในปัจจุบันเห็นได้ว่ามีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องอย่างมีความแข็งแกร่ง ทั้งนี้ ยังต้องรักษาบทบาทเป็นภูมิภาคที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของโลกท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างประเทศมหาอำนาจและการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า วัดได้จากขนาดเศรษฐกิจของอาเซียนที่เติบโตขึ้นกว่าเท่าตัวในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาและมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องกว่า 4% ในขณะที่เศรษฐกิจโลกเติบโตอยู่ที่ 3% รวมทั้งยังเป็นภูมิภาคที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจในปี 2561 ตัวเลขการลงทุนจากต่างประเทศในภูมิภาคอาเซียนขยายตัวถึง 5.3% ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นผลสำเร็จจากความมุ่งมั่นของทุกประเทศสมาชิกที่ร่วมกันดำเนินการมาโดยตลอด
ขณะที่ ในปีนี้ไทยรับหน้าที่เป็นประธานอาเซียน ภายใต้แนวคิด ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน ทั้งนี้ ได้มีการร่วมกันกับประเทศต่างๆ ในอาเซียนสนับสนุนประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนให้มีความสามารถในการแข่งขันพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในอนาคตอย่างยั่งยืน
สำหรับ การประชุมในครั้งนี้จะมีการหารือในวาระสำคัญ ได้แก่ การรับทราบความสำเร็จ และความคืบหน้ารวมถึงการให้ความเห็นชอบเอกสารผลลัพธ์ปัจจัยด้านเศรษฐกิจที่ไทยผลักดันในฐานะประธานอาเซียนพร้อมรับทราบความคืบหน้ามาตรการสำคัญที่อาเซียนจะต้องดำเนินการในปีนี้ และให้ความเห็นชอบเอกสารแนวคิดในการทบทวนแผนงานประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ภายในปี 2568 ในระยะกลาง การให้แนวทางการปรับปรุงกระบวนการทำงานภายใต้ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะรับทราบการดำเนินการของอาเซียนเพื่อรับมือกับการปฏิวัติอุตสาหกรรม ครั้งที่ 4 และเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
นายจุรินทร์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังได้มีการหารือการเตรียมการประชุมผู้นำอาเซียน (อาเซียน ซัมมิท) ครั้งที่ 35 ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 2 พฤศจิกายนนี้ โดยไทยจะต้องให้ความเห็นชอบข้อมูลสรุปความคืบหน้าการดำเนินการภายใต้ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ที่จะรายงานต่อผู้นำและรับทราบประเด็นด้านเศรษฐกิจที่จะปรากฏในร่างแถลงการของประธานการประชุมสุดยอดอาเซียนรวมทั้งรายชื่อเอกสารผลลัพธ์ทางด้านเศรษฐกิจที่จะเสนอต่อที่ประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งนี้