เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ที่ จ.กระบี่ ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี นายดี นามสมมุติ อายุ 42 ปี พ่อของเด็กหญิงอายุ 16 ปี ที่พาตัวออกจากบ้านไปเช่าบ้านอยู่กินกับลูกสาวแท้ๆ ฉันสามีภรรยา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา พรากผู้เยาว์อายุไม่เกิน 15 ปี หลังจาก นางเอ นามสมมุติ อายุ 36 ปี เข้าแจ้งว่า น.ส.บี นามสมมุติ อายุ 16 ปี ลูกสาวของตน ถูกนายดีอดีตสามีนัดเจอ และลักพาออกจากบ้านที่อาศัย เข้าเช่าบ้านในพื้นที่ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ จนนางเอได้เข้าแจ้งต่อเจ้าหน้าที่เพื่อช่วยเหลือ น.ส.บีออกจากที่พักดังกล่าวนั้น ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพังงา ได้กักตัวเพื่อสอบปากคำในข้อหาพรากผู้เยาว์ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมแก่นายดี ขณะที่นายดียังปฏิเสธในเรื่องของการอาศัยอยู่กับลูกสาวในฐานะสามีภรรยา โดยอ้างว่าเคยถูกลูกสาวลักหลับโดยไม่รู้ตัวเพียงครั้งเดียว
แหล่งข่าวคนหนึ่งกล่าวว่า น.ส.บียังค่อนข้างสับสน ยอมรับว่าอยู่กิน และร่วมหลับนอนกับนายดี ตามประสาคนรักเหมือนสามีภรรยา และยอมรับว่ามีเพศสัมพันธ์กับนายดีเกินกว่า 10 ครั้ง ในระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่อายุ 14-16 ปี โดยปัจจุบัน น.ส.บีอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กจังหวัดพังงา สภาพที่อาศัยอยู่กับเจ้าหน้าที่ มีอาการร้องไห้เสียใจ พร้อมพูดกับคนรอบข้างว่า “กฎหมายคือส่วนเกิน กฎหมายทำให้ชีวิตรักพัง พ่อทำถูกแล้ว” และเสียใจที่นายดีต้องมาถูกจับกุม และถูกดำเนินคดีในครั้งนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพังงา ที่ก่อนหน้านี้เตรียมส่งตัวนายดีเข้ารับทราบข้อกล่าวหากระทำชำเราเด็ก ที่ สภ.อ่าวลึก จ.กระบี่ เมื่อสอบปากคำนายดี พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานได้ส่วนหนึ่ง จึงประชุมเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย มีมติให้เปลี่ยนแผนจากเดิม โดยได้แจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าวที่ สภ.เมืองพังงา ต่อนายดี โดยแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ว่ากระทำชำเราเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี โดยเด็กยินยอมหรือไม่ก็ตาม นำพาเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี จากบิดา มารดา หรือผู้ปกครอง เบื้องต้นนายดีรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาดังกล่าว หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่จะนำตัวเข้าฝากขังที่ศาลจังหวัดพังงา พร้อมสอบปากคำเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจมั่นใจในพยานหลักฐานที่รวบรวมทำสำนวนในคดีนี้ส่งพนักงานอัยการ เพื่อเข้าสู่การฟ้องร้องต่อศาลต่อไป
