ท่องเที่ยวเชียงใหม่คึกคักรับอากาศหนาว แห่จองห้องพัก 70% คาดเงินสะพัด 200-300 ล.ต่อวัน

เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ รายงานสภาพอากาศว่า บริเวณความกดอากาศสูงค่อนข้างแรงจากประเทศจีน แผ่ปกคลุมภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ อุณหภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศาเซลเซียส สูงสุด 33 องศาเซลเซียส บริเวณเทือกเขา และยอดยอด 8-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว10-25 กิโลเมตร/ชั่วโมง อุณหภูมิต่ำสุดที่ดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง วัดได้ 9 องศาเซลเซียส อ่างขาง อ.ฝาง 13.2 องศาเซลเซียส พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ 17.2 องศาเซลเซียส ตามลำดับ

นายสมหวัง เรืองนิวัติศัย ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 ซึ่งดูแลพื้นที่เชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ปีนี้บรรยากาศท่องเที่ยวในเขตอุทยานเริ่มคึกคัก โดยได้สนองนโยบายนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยาแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เตรียมพื้นที่อุทยานกว่า20 แห่ง ปรับปรุงภูมิทัศน์ เพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ บ้านพัก ห้องน้ำห้องอาบน้ำแร่แช่น้ำอุ่น ทางเดิน ลานจอดรถ แสงสว่าง ลานกางเต็นท์ และจุดชมวิว เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ในฤดูท่องเที่ยวหรือไฮซีซั่น ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ เป็นต้นไป

“ปีนี้ได้ปรับภูมิทัศน์ และสิ่งอำนวยความสะดวก ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย อ.เมืองเชียงใหม่ อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง อ.แม่แตง อุทยานแห่งชาติผ้าห่มปก อ.ฝาง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม โดยเพิ่มสวน หรือแปลงดอกไม้เมืองหนาว-พันธุ์ไม้ท้องถิ่น ซึ่งอุทยานฯ 4 แห่ง เป็นอุทยานที่จำกัดนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่มีนักท่องเที่ยวแออัด หรือล้นทะลักมากเกินไป จึงอยากให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยววันปกติ หรือวันธรรมดาแทน พร้อมกระจายไปยังแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง เพื่อลดความแออัด เพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชนโดยตรงมากขึ้น” นายสมหวัง กล่าว

นายสมหวังกล่าวอีกว่า นโยบายนายวราวุธ และนายธัญญา ได้เน้นย้ำมาตรการรักษาความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวเป็นอันดับแรก พร้อมจัดระบบการจราจรให้เกิดความคล่องตัวมากที่สุด จัดทีมกู้ภัยและกู้ชีพ กรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน หรืออุบัติเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ฝึกอบรม เพื่อเตรียมความพร้อมแล้ว ส่วนนักท่องเที่ยวควรตรวจเช็คสภาพรถ เตรียมเครื่องกันหนาว ยารักษาโรค และสิ่งของจำเป็น ก่อนออกเดินทาง พร้อมฟังคำแนะนำเจ้าหน้าที่ เพื่อความสะดวก และปลอดภัยเป็นหลัก

Advertisement

“ปีนี้อากาศหนาวมาเร็ว ได้รณรงค์ไม่เผาป่า ลดผลกระทบไฟป่าหมอกควันที่ส่งผลกระต่อสุขภาพ สิ่งแวดล้อม ท่องเที่ยว พร้อมจัดชุดเฝ้าระวังลาดตระเวนอย่างต่อเนื่อง พร้อมขอความร่วมมือผู้นำชุมชน และเครือข่ายสิ่งแวดล้อม ช่วยสอดส่องดูแล เพื่อฟื้นฟู และอนุรักษ์ป่าต้นน้ำ เนื่องจากฤดูหนาว อากาศแห้งแล้ง ส่งผลต่อป่าต้นน้ำ และพื้นที่ชุ่มชื้นได้ ที่สำคัญเกิดการสะสมเชื้อเพลิงมากขึ้น จึงห้ามจุดไฟหรือก่อกองไฟ เพื่อหาของป่า หรือล่าสัตว์อย่างเด็ดขาด หากฝ่าฝืนใช้มาตรการทางกฎหมายดำเนินคดีเท่านั้น” นายสมหวัง กล่าว

ด้านนายดำรงค์ องอาจ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า เริ่มเข้าสู่ฤดูท่องเที่ยวเชียงใหม่แล้ว ช่วงนี้ยอดจองห้องพักกว่า60-70% ถ้าเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ คาดจองห้องพักไม่ต่ำกว่า 90% จากห้องพัก 50,000 ห้อง บางส่วนไปท่องเที่ยวเขตอุทยานฯ โครงการหลวง หรือพื้นที่สูง เพื่อสัมผัสอากาศหนาว ชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้ันยามเช้า โดยเฉพาะอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อุทยานแห่ง
ชาติดอยผ้าห่มปก อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ส่งผลให้ที่พักชุมชน หรือโฮมสเตย์ที่อยู่ใกล้เคียงได้รับอนิสงฆ์ ถูกจองเพิ่ม 20-30% พร้อมจำหน่ายพืชผัก ผลไม้เมืองหนาว และอาหารแปรรูป ทำให้ชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้น ช่วงต้นฤดูกาลท่องเที่ยวเชียงใหม่คาดสร้างรายได้เฉลี่ยวันละ 200-300 ล้านบาท

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image