‘พช.’เปิดท่องเที่ยวโอทอป นวัตวิถี ชุมชนลาวครั่ง จ.อุทัยธานี สร้างรายได้ชุมชน ลดเหลื่อมล้ำ

เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน(พช.) กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังเข้าสู่อากาศหนาวอย่างเป็นทางการ หลายพื้นที่ได้จัดเตรียมกิจกรรมเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้าไปเยี่ยมชม โดยเฉพาะการได้สูดกลิ่นไอของธรรมชาติที่มาพร้อมกับสายลมช่วงฤดูหนาว เป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวรอคอย หากมองหาสถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ที่ใช้เวลาเดินทางไม่มากนัก ขอแนะนำชุมชนลาวครั่ง บ้านสะนำ อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี สัมผัสเสน่ห์ศรัทธาแห่งแบบแผนวิถีชีวิตชุมชนชนชาติพันธุ์ลาวครั่ง 200 ปี ซึ่งคนในชุมชนแห่งนี้ เป็นคนที่มีอัธยาศัยดี ยิ้มแย้มแจ่มใส มีความสามัคคี ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันด้วยความจริงใจ ตลอดจนการมีกิจกรรมร่วมกันระหว่างคนในชุมชน ทั้งผู้สูงอายุ วัยทำงาน วัยเด็ก แม้จะต่างวัยในความหลากหลายแต่ก็ลงตัว

ชุมชนบ้านสะนำ ถือเป็นพื้นที่ที่ยังคงความสมบูรณ์ของธรรมชาติ เนื่องจากที่นี่มีต้นไม้ยักษ์ อายุ 300 กว่าปี ความอัศจรรย์อย่างงดงาม เป็นไม้ที่มีขนาดใหญ่ มีระบบรากที่แผ่กว้างค้ำยันต้นและรายล้อมไปด้วยต้นหมากจำนวนมาก ซึ่งต้นหมากเป็นพืชเศรษฐกิจ ที่ทำให้คนในชุมชนมีรายได้เสริม นอกเหนือจากรายได้ที่มาจากการทำไร่ทำนา ทำสวน อีกทั้ง การได้ชื่นชมศิลปะการแสดงพื้นบ้าน การทอผ้าพื้นเมืองลายโบราณทุนทางวัฒนธรรมการแต่งกาย ภาษา ภูมิปัญญาการจักสาน การละเล่น ที่สืบทอดและอนุรักษ์วัฒนธรรม มาสู่รุ่นลูกหลานจนถึงทุกวันนี้ เชิญมาร่วมค้นหาความภูมิใจของชาติพันธุ์ลาวครั่งบนแผ่นดินสยามแล้วท่านจะประทับใจไม่รู้ลืม ซึ่งที่นี่มีเมนูอาหารพื้นถิ่น อาทิ ข้าวต้มเล่ แจ่วร้อยสำรับ ที่เสิร์ฟร้อน รสชาติอร่อยโดดเด่นไม่เหมือนใคร อีกทั้งการบริการที่พักในรูปแบบโฮมสเตย์ รองรับนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในความเป็นวิถีชีวิตชุมชนอย่างแท้จริง

และอีกหนึ่งชุมชนสวรรค์บ้านไร่ของจังหวัดอุทัยธานี ที่จะขอแนะนำ นั่นคือ บ้านอีมาด อีทราย ตั้งอยู่ที่ตำบลแก่นมะกรูด อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี ชุมชนเผ่ากระเหรี่ยง บรรยากาศของชุมชนที่ใกล้ชิดธรรมชาติ ทำให้ผู้คนที่นี่มีวิถีชีวิตที่เงียบสงบเรียบง่าย มีความร่วมมือร่วมใจในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สร้างวินัยรักษ์ต้นไม้ รักษาความสะอาดในชุมชน เพื่อการอาศัยอยู่ร่วมกันระหว่างคนกับธรรมชาติอย่างสมดุล รวมถึงความเชื่อและความศรัทธาในต้นพระเจ้าห้าพระองค์ ที่เชื่อกันว่า มีพระ 5 รูปจำศีลอยู่ใต้ต้นไม้นี้และผลของต้นไม้ได้ร่วงลงมา จึงคิดว่า เทวดาประทานพรให้ ซึ่งผลของต้นไม้ จะมีลักษณะเป็นวงกลมมีร่องขรุขระ ผิวเปลือกนูน ลักษณะคล้ายองค์พระพุทธรูป เป็นผลไม้ที่มีดีทางธรรมชาติ มีเทวดาคุ้มครอง จึงเรียกว่า “พระเจ้าห้าพระองค์”ตามความเชื่อถือศรัทธาของชาวบ้านในชุมชน

อธิบดีพช. กล่าวอีกว่า นอกจากนี้การแสดงออกทางวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยบรรพชน อาทิ การรำต่ง เป็นการรำให้พรต้อนรับแก่ผู้มาเยือน รำอวยพรให้ผู้มาเยือนมีชีวิตที่เจริญรุ่งเรือง การสืบทอดภูมิปัญญาการทอผ้าที่มีลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ของชุมชน หาชมได้ยาก ที่นี่จึงมีถ่ายทอดภูมิปัญญาการทอผ้าให้ลูกหลานทำหน้าที่ในการอนุรักษ์ผ้าทอให้คงอยู่กับชุมชนต่อไป และการต้อนรับผู้มาเยือนด้วยอาหารที่มีรสชาติอร่อยขึ้นชื่อของชุมชน ข้าวเหนียวหัวหงอก ซึ่งใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติที่มีอยู่ในชุมชน หากท่านใดสนใจสามารถแวะชิม แวะชม แวะพักกันได้ใกล้กรุงเทพฯ มีบริการที่พักในรูปแบบโฮมสเตย์ อิงแอบแนบชิดธรรมชาติอย่างที่สุด

เมื่อเดินทางเที่ยวชมทั้ง 2 ชุมชนแล้ว ก็ยังสามารถมุ่งหน้าต่อไปได้ที่ “แก่นมะกรูด” สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมช่วงฤดูหนาวที่นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ แวะมาเที่ยวชมดอกไม้เมืองหนาวบานสะพรั่ง สูดกลิ่นไอลมหนาวกันอย่างคับคั่ง จนถูกขานนามว่า “หนาวสุดกลางสยาม” ห้ามพลาดนะครับ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก ให้นักท่องเที่ยวทุกท่าน กรมการพัฒนาชุมชน จึงได้มอบหมายให้ข้าราชการของกรมฯ อำนวยความสะดวกในด้านข้อมูลแก่นักท่องเที่ยวที่สนใจจะไปสัมผัสบรรยากาศหนาวสุดกลางสยาม จ.อุทัยธานี คือ คุณกิตติพงษ์ สิงห์คำ 08 2758 9307 หรือที่สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุทัยธานี 0 5651 1337 หรือสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอบ้านไร่ 0 5653 9126 มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการค้นหามนต์เสน่ห์ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ใกล้กรุงฯ เพื่อการกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากในเชิงสร้างสรรค์ ช่วยให้คนในชุมชนมีงานทำ มีอาชีพ สร้างรายได้ ให้แก่เกิดขึ้นได้อย่างมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image