เกษตรฯ-พาณิชย์ปลื้ม!! เจรจาขายยางจีน-ฮ่องกง 2.6 แสนตัน มูลค่ากว่า 1.3 หมื่นล้านบาท
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายในการรักษาเสถียรภาพและผลักดันราคายางให้สูงขึ้น นอกจากนโยบายประกันรายได้เกษตรกรแล้ว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ยังได้มีการเจรจาขายสินค้ายางพาราเพื่อเพิ่มศักยภาพในการส่งออก และให้บูรณาการร่วมกับกระทรวงพาณิชย์เดินหน้าทำงานเชิงรุกตามนโยบายอย่างเข้มข้น โดยปัจจุบันกระทรวงเกษตรฯ สามารถเจรจาซื้อขายยางพาราระหว่างประเทศกับผู้ซื้อเบื้องต้นจำนวน 2 ราย คือ 1.บริษัทเอกชนจากจีน ซึ่งมีการลงนามบันทึกความร่วมมือ (เอ็มโอยู) รองรับ เพื่อซื้อยาง STR 20 ปริมาณ 60,480 ตัน
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า และ 2.บริษัทเอกชนจากฮ่องกง ซึ่งมีการลงนามเอ็มโอยูรองรับ เพื่อซื้อยาง STR 20 ปริมาณ 100,000 ตัน และยางแผ่นรมควันชั้น 3 อัดก้อน 100,000 ตัน รวมเป็นล็อตนี้ 200,000 ตัน รวมปริมาณการซื้อขายรอบนี้ ทั้งสิ้น 260,480 ตัน มูลค่ากว่า 1.3 หมื่นล้านบาท โดยยางที่นำมาขายเป็นยางที่รับซื้อผลผลิตยางจากเกษตรกร สถาบันเกษตรกรมาแปรรูป และบางส่วนเป็นยางแปรรูปจากเกษตรกร สถาบันเกษตรกรชาวสวนยางที่มีมาตรฐานการผลิต เช่น มาตรฐานการผลิตผลิตภัณฑ์ (จีเอ็มพี) หรือ มาตรฐานระบบบริหารงานคุณภาพ(ไอเอสโอ) เป็นต้น
“การดำเนินการดังกล่าว ถือเป็นการขยายช่องทางการจำหน่ายไปต่างประเทศ เพิ่มศักยภาพการแข่งขันด้านการตลาดของ กยท. และเพิ่มอำนาจการต่อรองในเวทีโลก เกิดการส่งออกภายใต้แบรนด์ กยท. ซึ่งเป็นที่ยอมรับในกลุ่มธุรกิจยางทั่วโลก นอกจากนี้ ยังเป็นการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนยาง สถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง และผู้ประกอบกิจการยางพารา ที่กำลังประสบปัญหาราคายางตกต่ำ ช่วยให้มีช่องทางในการขยายตลาดจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ยางพารามากยิ่งขึ้น”นายจุรินทร์กล่าว
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า สำหรับโครงการการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยางพารา ระยะที่ 1 กำลังอยู่ในภาคปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง โดย กยท. กับ ธ.ก.ส. ทำหน้าที่โอนเงินให้กับเกษตรกรหลังจากตรวจสอบบัญชีและการปลูกยางจริงในพื้นที่ เป็นการช่วยสร้างหลักประกันให้เกษตรกรชาวสวนยาง ทั้งเจ้าของสวน ผู้เช่า ผู้ทำ และคนกรีดยาง ให้มีรายได้ที่แน่นอนมั่นคงและมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ซึ่งขณะนี้มีเกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนและแจ้งข้อมูลพื้นที่ปลูกยางกับ กยท. จำนวน 1,711,252 ราย เป็นยางแผ่นดิบ 150,803 ราย น้ำยางสด 470,767 ราย และยางก้อนถ้วย 790,447 ราย โครงการนี้ คิกออฟจ่ายเงินงวดแรกพร้อมกันทั่วประเทศไปแล้วเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และจะมีการทยอยจ่ายตามระยะเวลาที่กำหนดต่อไป