นายทรงวิทย์ ฐิติปุญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASAP ผู้ประกอบธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะยาวแบบครบวงจรสำหรับลูกค้านิติบุคคล รถยนต์ให้เช่าระยะสั้นและรถยนต์ให้เช่าพร้อมคนขับภายใต้แบรนด์ asap (เอแซ็ป) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ บริษัทฯ ได้เร่งขยายฟลีทรถยนต์ให้เช่าระยะสั้นอีก 100 คัน จากเดิมที่มีมากกว่า 600 คัน รองรับช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวในปีนี้ จากการที่รัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในประเทศออกมาอย่างต่อเนื่อง (100 เดียวเที่ยวทั่วไทย, วันธรรมดาราคาช็อกโลก, ชิม ช้อป ใช้) รวมถึงการขยายธุรกิจ asap GO ไปยังกลุ่มลูกค้าองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ และเพิ่มให้บริการรถยนต์ลีมูนซีนให้เช่าพร้อมคนขับที่ให้ลูกค้าองค์กรสามารถจองใช้บริการผ่านแอพพลิเคชั่น asap ซึ่งจะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้แก่กลุ่มธุรกิจดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น
นายทรงวิทย์ กล่าวว่า ทั้งนี้ ธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะสั้น ถือเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในอนาคต ที่จะเข้ามาช่วยเสริมด้านผลการดำเนินงานของ ASAP ให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น หลังจากผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-กันยายน 2562) บริษัทฯ มีอัตราการเติบโตที่ดี โดยมีรายได้รวม 2,282.90 ล้านบาท เติบโต 19% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนในไตรมาส 3/62 (กรกฎาคม-กันยายน 2562) บริษัทฯ มีรายได้รวม 797.51 ล้านบาท โดยมีปัจจัยความสำเร็จมาจากความเชื่อมั่นของลูกค้าในการใช้บริการรถยนต์ให้เช่าระยะยาวที่ต่อสัญญาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ช่วยสร้างรายได้ประจำและสม่ำเสมอ (Recurring Income) ที่มีความมั่นคงให้แก่บริษัทฯ
“สำหรับผลงานในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้และไตรมาส 3/62 นั้น เรายังรักษาอัตราการเติบโตที่ดี ในแง่ของรายได้ จากความเชื่อมั่นของลูกค้าที่ยังใช้บริการรถยนต์ให้เช่ารถยนต์ระยะยาวและระยะสั้น และจากการวางแผนบริหารจัดการด้านต้นทุนทางการเงินที่เหมาะสม จากการบันทึกค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยและค่าเสื่อมราคาตามมาตรฐานทางบัญชีได้ดีขึ้น ทำให้ภาพรวมผลการดำเนินงานได้ตามเป้าหมายที่วางไว้” นายทรงวิทย์ กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ASAP กล่าวถึงความคืบหน้าแฟรนไชส์ asap Select ในเฟส 2 ว่า ได้รับความสนใจจากนักลงทุนติดต่อของซื้อแฟรนไชส์เปิดให้บริการรถยนต์ให้เช่าและเป็นจุดจำหน่ายรถยนต์มือสองที่ครบสัญญา เป็นจำนวนมากจึงคาดว่าในสิ้นปีนี้มีผู้ซื้อแฟรนไชส์เพิ่มอีก 5 ราย พร้อมเปิดให้บริการได้ภายในกลางปี 2563 เพิ่มเติมจากเฟสแรกที่เปิดให้บริการ 3 แห่ง ที่จังหวัดนครราชสีมา นนทบุรี และอุบลราชธานี และเตรียมจะเปิดบริการได้อีก 1 สาขาภายในปีนี้ที่จังหวัดเชียงใหม่
