มทภ.1ร่วมปธ.บอร์ดพอช.จัด จัด“รื้อบ้านเดิม สร้างบ้านใหม่ คืนน้ำใสให้คลองเปรมประชากร”

เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พลโท ธรรมนูญ วิถี แม่ทัพภาคที่ 1 และนายไมตรี อินทุสุต ประธานกรรมการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือพอช.กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายอาฤทธิ์ ศรีทอง ผู้อำนวยการเขตจตุจักร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกัน จัดกิจกรรม “รื้อบ้านเดิม สร้างบ้านใหม่ คืนน้ำใสให้คลองเปรมประชากร” ณ ชุมชนประชาร่วมใจ 2 เขตจตุจักร กรุงเทพฯ โดยมีรองแม่ทัพภาคที่ 1 ผบ.กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนกรมธนารักษ์ ผู้แทนการประปานครหลวง และชาวชุมชนริมคลองเปรมประชากร และภาคีเครือข่ายคลองลาดพร้าวเข้าร่วมงานกว่า 200 คน

การพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองเปรมประชากร เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาตามแผนแม่บทโครงสร้างพื้นฐานระบบคลอง และการพัฒนาชุมชนริมคลองเปรมประชากร ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2562 โดยมีกรอบแนวคิดในการดำเนินงาน 4 ด้าน คือ 1) ด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งแวดล้อมของเมือง อาทิเช่น การสร้างเขื่อนริมคลองและระบบรวบรวมน้ำเสีย 2) ด้านการพัฒนาชุมชนริมคลอง ซึ่งมีเป้าหมายที่การพัฒนาที่อยู่อาศัยของทุกครัวเรือนที่อยู่ริมคลอง 3) ด้านการสร้างความเข้าใจให้กับประชาชน และ 4) ด้านกฏหมายและการขับเคลื่อนงาน โดยในด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองเปรมประชากรมีกลุ่มเป้าหมายในเขตกรุงเทพมหานคร 3 เขต คือ ดอนเมือง หลักสี่ และจตุจักร จำนวน 32 ชุมชน และพื้นที่เทศบาลตำบลหลักหก อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี 6 หมู่บ้าน ระยะความยาวคลองประมาณ 17 กิโลเมตร จากความยาวทั้งหมด 50.8 กิโลเมตร จำนวนกลุ่มเป้าหมายทั้งสิ้น 6,386 ครัวเรือน
พอช. ได้กำหนดแผนดำเนินการ 3 ปี ตั้งแต่ปี 2562 – 2564 โดยใช้รูปแบบการพัฒนาที่อยู่อาศัยตามแนวทางโครงการบ้านมั่นคง ลักษณะเดียวกันกับการดำเนินโครงการที่คลองลาดพร้าว ซึ่งให้ชุมชนเป็นแกนหลักในการดำเนินโครงการ เริ่มจากการจัดตั้งเป็นกลุ่มออมทรัพย์และจดทะเบียนเป็นสหกรณ์เพื่อเช่าที่ดินจากกรมธนารักษ์ มีการออกแบบและวางผังร่วมกันทั้งชุมชนเพื่อขออนุญาตปลูกสร้างบ้านใหม่จากกรมธนารักษ์และท้องถิ่น เพื่อให้บ้านใหม่ที่จะสร้างขึ้นมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการอยู่อาศัย เปลี่ยนแปลงจากผู้บุกรุกมาเป็นผู้อยู่อาศัยที่ถูกต้องตามกฎหมาย และช่วยให้การดูแลรักษาสภาพแวดล้อมของคลองเปรมประชากรคลองเป็นไปได้อย่างยั่งยืนที่ผ่านมาทางกองทัพภาคที่ 1 และพอช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เปิดเวทีชี้แจงสร้างความเข้าใจการพัฒนาที่อยู่อาศัยริมคลองเปรมประชากรครบแล้วทุกชุมชน และขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการจัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์และตั้งสหกรณ์ของชุมชนเพื่อบริหารโครงการและงบประมาณ โดยตั้งกลุ่มออมทรัพย์แล้ว 34 กลุ่ม ตั้งเป็นสหกรณ์เคหสถานแล้ว 7 สหกรณ์ จาก 13 ชุมชน การรังวัดเนื้อที่ดินของกรมธนารักษ์เพื่อจัดให้ชุมชนเช่าอยู่อาศัยต่อไป

พลโทธรรมนูญ กล่าวว่า แสดงความยินดีกับพี่น้องชุมชนประชาร่วมใจ 2 เขตจตุจักร เป็นอย่างยิ่ง ที่สามารถกล่าวได้ว่าวันนี้เป็นวันสำคัญที่เราจะก้าวไปด้วยกันในเรื่องของ การพัฒนาชุมชนริมคลองเปรมประชากรให้มีความสุขมีสภาพแวดล้อมที่น่าอยู่อาศัย โครงการนี้จะสำเร็จได้นอกจากการสนับสนุนของรัฐแล้ว ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจของพี่น้องเป็นประการสำคัญ และความเข้มแข็งของชุมชนจะเป็นกำลังหลักในขับเคลื่อนโครงการนี้ให้สำเร็จ

กองทัพภาคที่ 1 และ คณะทำงานการดำเนินการพัฒนาพื้นที่คลองเปรมประชากร กองทัพภาคที่ 1 จะมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนพี่น้องได้มีบ้านใหม่ที่สวยงาม มีสังคมที่น่าอยู่ต่อไป ตลอดสองฝั่งคลองเปรมประชากร ตั้งแต่ตำบลหลักหก จังหวัดปทุมธานี จนถึงชุมชนประชาร่วมใจ 2 เขตจตุจักรนั้น มีผู้อยู่อาศัยถึง 38 ชุมชน ชุมชนนี้เป็นชุมชนแรกที่ได้เริ่มขั้นตอนของการสร้างบ้านคือการรื้อบ้านเพื่อเตรียมการก่อสร้าง

Advertisement

ทางกองทัพยังคงเฝ้ารอที่จะดีใจกับชาวชุมชนทุกท่านอีกครั้ง ที่พี่น้องจะได้มีบ้านหลังใหม่ที่สวยงามและที่สำคัญ คือ สามารถเช่าที่ดินเพื่ออยู่อาศัยได้อย่างถูกต้องและสามารถถือกรรมสิทธิ์ในตัวบ้านได้ทางกองทัพได้สั่งการให้ ชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือน กองพลทหารม้าที่ 2รักษาพระองค์ ประสานงานและช่วยเหลือพี่น้องอย่างใกล้ชิด จนกว่าทุกท่านจะย้ายเข้าสู่บ้านหลังใหม่ อีกทั้งสามารถกล่าวได้ว่าชุมชนประชาร่วมใจ 2 เป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของชุมชนที่ประสบความสำเร็จในโครงการและชื่นชมในความร่วมมือร่วมใจความสมัครสมานสามัคคี ของพี่น้องชุมชนประชาร่วมใจ 2 ทุกท่านอีกครั้ง ด้วยความจริงใจยิ่งพลโทธรรมนูญ กล่าว

นายไมตรี อินทุสุต ประธานกรรมการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน กล่าวว่า เขตจตุจักรมีชุมชนริมคลองเปรมประชากร จำนวน 5 ชุมชน ซึ่งปัจจุบันได้เข้าร่วมโครงการแล้วทั้งหมด โดยจดทะเบียนเป็นสหกรณ์ 3 สหกรณ์ ซึ่ง พอช.ได้อนุมัติงบประมาณสนับสนุนจาก พอช. รวม 91.23 ล้านบาท โดยเริ่มรื้อย้ายและสร้างบ้านใหม่ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป เริ่มจากชุมชนประชาร่วมใจ 2 แห่งนี้ซึ่งมีเขื่อนเดิมของกรุงเทพมหานครอยู่แล้ว มีสมาชิกเข้าร่วมโครงการแล้วทั้งสิ้น 197 ครัวเรือน อยู่อาศัยในที่ดินราชพัสดุเนื้อที่10 ไร่ 3 งาน 9 ตารางวา ซึ่งกรมธนารักษ์จัดให้เช่าระยะเวลา 30 ปี ในการรื้อย้ายบ้านเดิม 17 หลังในวันนี้ ได้ชุมชนได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานเขตจตุจักร และกองทัพภาคที่ 1 คาดว่าจะใช้เวลารื้อย้าย 1 เดือน และจะเริ่มสร้างบ้านใหม่ 20 หลังได้ก่อนสิ้นปี 2562 ทั้งนี้ รูปแบบบ้านใหม่จะเป็นบ้านแถว 2 ชั้น ขนาด 4×7 เมตร และ 5×6 เมตร ซึ่งแต่ละครัวเรือนจะรับภาระการผ่อนประมาณ 2,579 บาทต่อเดือน ระยะเวลา 20 ปี
นายไมตรี กล่าวต่อว่า ถึงปัจจัยแห่งความสำเร็จ 3 ประการ ได้แก่ 1.ชาวในชุมชนเอง มีความร่วมมือร่วมใจตามชื่อของชุมชนนี้ ที่ว่า “ ประชาร่วมใจ” ถ้าผู้นำและชาวบ้านไม่ร่วมมือเข้มแข็งเช่นนี้ ความสำเร็จคงบังเกิดขึ้นยาก 2. ส่วนราชการร่วมมือ ทั้งหทาร กองทัพบก กทม พอช ธนารักษ์ กรมส่งเสริมสหกรณ์ ประปา ไฟฟ้านครหลวง รวม 12 หน่วยงาน 3. รัฐบาลเร่งรัด ติดตาม เพราะเป็นนโยบายที่สำคัญของรัฐบาล ได้ทุ่มเท ให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่อยู่อาศัยคลองเปรมประชากร และคลองลาดพร้าวอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่พี่น้องชาวชุมชนริมคลองได้รับโดยหลักๆ แล้วคือ 1. ได้คลองทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์ ทั้งระบายน้ำ ป้องกันน้ำท่วม รักษาคุณภาพน้ำ 2. ได้บ้านมากว่าบ้าน คือได้ชุมชนทำให้ลูกหลานมีบ้านมีอนาคต ได้ความสุข และความมั่นคงของมนุษย์ 3. ได้สิ่งแวดล้อม ภูมิทัศน์ริมคลอง น้ำใสสะอาดสัญจรไปมาสะดวก มีสาธารณูปโภค และ 4. ได้มีสถานะที่ถูกต้องตามกฏหมาย เป็นผู้เช่าที่ดินจากกรมธนารักษ์ และมีสหกรณ์มีการออมทรัพย์ที่ถูกต้อง

นายอาฤทธิ์ ศรีทอง ผู้อำนวยการเขตจตุจักร กล่าวว่า สำนักงานเขตจตุจักร มีความพร้อมในการสนับสนุนการทำงานในทุก ๆ ด้านให้กับชุมชน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามแผนแม่บทฯ โดยสำนักงานเขตจตุจักรได้ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน มุ่งเน้นการเสริมสร้างศักยภาพของผู้นำชุมชนและสมาชิก เริ่มตั้งแต่กระบวนการประชุมจัดตั้งคณะกรรมการชุมชน คณะกรรมการกลุ่มออมทรัพย์ นอกจากนี้ สำนักงานเขตยังพร้อมในการอำนวยความสะดวกและให้บริการกับชุมชนในด้านต่าง ๆ อาทิ การร่วมสร้างความเข้าใจกับชุมชน การอนุญาตก่อสร้างบ้านและดำเนินการเรื่องทะเบียนบ้านให้กับบ้านที่ก่อสร้างใหม่ นอกจากนี้ เมื่อชุมชนมีการก่อสร้างบ้านแล้ว สำนักงานเขตจะสนับสนุนให้เกิดระบบสาธารณูปโภคที่มีมาตรฐาน ส่งเสริมการฝึกอาชีพ การพัฒนาคุณภาพชีวิตในทุกด้าน รวมถึงดูแลผู้ด้อยโอกาส ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ในทุกชุมชนให้ได้รับโอกาสและได้รับการพัฒนาไปพร้อมๆกับทุกคนในชุมชนด้วย

นางสมร จันทร์ฉุน ประธานสหกรณ์เคหสถานประชาร่วมใจ 2 จำกัด ให้ข้อมูลว่า ชุมชนประชาร่วมใจ 2 อยู่กันมามากกว่า 80 ปี ดำเนินชีวิตแบบหาเช้ากินค่ำ ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป ลักษณะจะปลูกสร้างแบบพออยู่พอกินตามฐานะของแต่ละครอบครัว ซึ่งมีความทรุดโทรมไม่แข็งแรง ไม่มีความปลอดภัยในการอยู่อาศัย เมื่อมีโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองเข้ามา ชาวบ้านจึงยินดีที่จะเข้าร่วมโครงการพัฒนาไปพร้อมกัน ประกอบกับเป็นโครงการที่รัฐบาลให้การสนับสนุนทั้งเรื่องงบประมาณและการอำนวยความสะดวกในการรื้อย้าย ชาวบ้านจึงรวมตัวกันเพื่อเข้าร่วมโครงการบ้านมั่นคงชุมชนริมคลองของ พอช. โดยรวมตัวเป็นกลุ่มออมทรัพย์และจัดตั้งเป็นสหกรณ์แล้ว ในชื่อ สหกรณ์เคหสถานประชาร่วมใจ 2 จำกัด ปัจจุบันมีคนในชุมชนสมัครเป็นสมาชิกสหกรณ์แล้ว 197 ครัวเรือน ปัจจุบันอยู่ระหว่างการขออนุญาตเช่าที่ดินจากกรมธนารักษ์ การขออนุญาตก่อสร้างบ้านจากสำนักงานเขตจตุจักร และจะเริ่มก่อสร้างบ้านตั้งแต่เดือนธันวาคม 2562 และคาดว่าจะเสร็จทั้งชุมชนในปี 2563 โดยชาวบ้านเห็นว่าโครงการนี้จะเป็นการยกระดับความเป็นอยู่ของชุมชน ทั้งในด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น และชุมชนมั่นใจว่าโครงการจะสามารถพัฒนาได้สำเร็จ จนเป็นที่ยอมรับของชุมชนข้างเคียง และดีใจที่จะเป็นชุมชนแรกของคลองเปรมประชากรในการพัฒนาและคาดหวังว่าจะเป็นต้นแบบการพัฒนาให้กับชุมชนอื่น ๆ ริมคลองเปรมประชากรต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image