กกพ.ชงกบง.เลื่อนซีโอดีโรงไฟฟ้าติดปัญหาอีไอเออืด300เมก

กกพ.เตรียมชง กบง.เคาะเกณฑ์เลื่อนจ่ายไฟเชิงพาณิชย์โรงไฟฟ้าติดปัญหาจัดทำอีไอเอล่าช้าเข้าระบบไม่ทันปี 63-64 รวมกว่า 300 เมกะวัตต์ ก่อนเสนอกพช.เคาะ 16 ธ.ค.นี้

นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงาน(กบง.)วันที่ 4 ธันวาคมนี้ กกพ.จะเสนอหลักเกณฑ์และเงื่อนไขขยายเวลากำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์(ซีโอดี) โครงการโรงไฟฟ้าที่ไม่สามารถซีโอดีได้ตามแผนในช่วงปี 2563-64 กำลังผลิตรวมประมาณ 300 เมกะวัตต์ จากนั้นจะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานวันที่ 16 ธันวาคมนี้ต่อไป

“โรงไฟฟ้าส่วนใหญ่ได้รับการอนุมัติให้ดำเนินโครงการตั้งแต่ช่วงปี 2558-60 ตามมติ กพช. ในอดีต ทั้งโรงไฟฟ้าขยะชุมชน ชีวมวล ฯลฯ แต่ติดปัญหาแนวทางปฏิบัติ อาทิ เรื่องการลงพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจกับชุมชนในพื้นที่จัดตั้งโรงไฟฟ้า ส่งผลให้กระบวนการจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม หรือ อีไอเอ ล่าช้าออกไป ดังนั้นกกพ.จะเสนอหลักเกณฑ์ขอเลื่อนซีโอดีอย่างเหมาะสม โดยไม่ปรับเงินโรงไฟฟ้า เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการจัดหาไฟฟ้าในภาพรวม”นายเสมอใจกล่าว

นายเสมอใจกล่าวว่า กกพ.ยังเตรียมรายงาน กพช.ถึงความคืบหน้าแผนการจัดหาและนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว(แอลเอ็นจี) ในรูปแบบตลาดจร(สปอต) ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) จำนวน 2 ลำ ลำละ 6.5 หมื่นตัน คาดว่าจะเริ่มนำเข้าลำแรกมาป้อนโรงไฟฟ้ากลางในเดือนธันวาคมนี้ เพื่อทดสอบระบบโครงสร้างพื้นฐานตามข้อกำหนดของรัฐบาลที่เปิดให้บุคคลที่ 3 เข้ามาใช้คลังและท่อก๊าซ(ทีพีเอ)ของ บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) และเพื่อผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางซื้อขายแอลเอ็นจีในภูมิภาค(แอลเอ็นจี ฮับ) โดยเร็วๆนี้เตรียมเชิญ ปตท.หารือถึงแนวทางการดำเนินงาน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image