“สราวุธ”เลขาศาลยุติธรรม สตรีมมิ่งศาลทั่วประเทศย้ำเรื่องความปลอดภัย เผย ก.ศ.อนุมัติขยายคอร์ทมาแชลเพิ่ม ให้มีประจำทุกศาล พร้อมติดกล้องในห้องพิจารณาทุกศาลทั่วประเทศให้ครบภายใน ม.ค.63 “สุริยัณห์”โฆษกศาล เน้น เหตุด่วนเหตุร้ายรายงานรวดเร็วบริหารความเสี่ยงให้น้อยลง “ปุณณพัฒน์” เตรียมพร้อมรับโอนเจ้าหน้าที่ศาลหากเข้าหลักเกณฑ์
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 19 พฤศจิกายน ที่ห้องประชุมสำนักงานศาลยุติธรรม ชั้น 12 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เป็นประธานการประชุมผ่านสตรีมมิ่งกับผู้อำนวยการประจำศาลเเละสำนักงานประจำศาลทั่วประเทศ โดยมี นายปุณณพัฒน์ มหาลี้ตระกูล ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นประจําสํานักประธานศาลฎีกา ในฐานะประธานคณะกรรมการวางระบบรักษาความปลอดภัย สำนักงานศาลยุติธรรมนายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม เข้าร่วมครั้งนี้ด้วย ซึ่งมีวาระการประชุมเรื่องประเด็นต่างๆที่ได้มากจากการประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม(ก.ต.) ครั้งที่16/2562
โดย นายสราวุธ กล่าวในที่ประชุมผ่านสตรีมมิ่งว่า ตั้งแต่เหตุการณ์ที่ศาลจังหวัดยะลาจนถึงศาลจังหวัดจันทบุรีตนได้ส่งคอร์ทมาแชลลงตรวจในพื้นที่พร้อมให้ทำรายงานส่ง จากนั้นตนได้นำรายงานดังกล่าวไปเข้าที่ประชุม ก.ต. และที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการศาลยุติธรรม (กศ.) แล้ว ซึ่งในวันที่ 25 พ.ย. จะนำเรื่องนี้รายงานต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม (ก.บ.ศ.) โดยเรื่องมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยตนได้กำชับพร้อมออกมาตรการและหนังสือเวียนไปยังศาลทั่วประเทศ เกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัยจำนวน 30 กว่าข้อ เพื่อที่จะใช้เป็นแนวทางทำงานร่วมกัน ระหว่างกรมราชทัณฑ์และตำรวจ โดยจะอัพเดต มาตรการดูแลรักษาความปลอดภัย ส่วนที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมผู้ต้องหาหรือจำเลย โดยในส่วนกรุงเทพฯทั้ง 16 ศาล จะมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ดูแลทั้งหมด ส่วนศาลต่างจังหวัดจะมีตำรวจในพื้นที่สังกัด สตช. ควบคุมผู้ต้องหาหรือจำเลยที่มาศาล ทำให้ที่ผ่านมาบางครั้งมาตรการอาจจะหย่อนยานหรือเกิดปัญหาขัดข้อง เราจึงต้องมีการประสานงานและเข้มงวดมากขึ้น ในส่วน รปภ. ที่มาจากองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (อผศ.) จะต้องมีการกำชับให้มีความกระตือรือร้นมากขึ้น ทั้งนี้ในวันเสาร์ที่ 30 พ.ย. ตนจะจัดอบรมโดยเชิญ พล.ต.อ.สุเทพ เดชรักษา อดีตรอง ผบ.ตร. ซึ่งเป็นกรรมการข้าราชการศาลยุติธรรม มาอบรมบทบาทหน้าที่ การรักษาความปลอดภัย อาคารสถานที่ รวมทั้งเจ้าหน้าที่จาก การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย มาอบรมเรื่องการตรวจค้นวัตถุอันตราย ที่จะใช้มาตรฐานเดียวกับสนามบิน มาอบรมด้วย
อย่างไรก็ตามก่อนที่จะมีการสตรีมมิ่งในครั้งนี้ ตนได้เรียกประชุมพนักงานตำรวจศาลถึงบทบาทตามพระราชบัญญัติเจ้าพนักงานตำรวจศาล ฯ ว่า มาตรา 5 (1) ได้บัญญัติให้ตำรวจศาลมีหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยบุคคลและทรัพย์สินในบริเวณศาลซึ่งถือเป็นภารกิจที่สำคัญและเร่งด่วน ที่ต้องดำเนินการก่อนเรื่องอื่น หลังจากที่เกิดเหตุหลายครั้ง ตนได้ให้แต่ละศาลไปสำรวจข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลความปลอดภัยทั้งอุปกรณ์ สถานที่ และบุคคล รวมถึงระบบในการบริหารจัดการ ซึ่งยังมีอีกบางศาลที่ยังไม่ส่งแบบสอบถามกลับมา จึงขอให้ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการประจำศาลทั่วประเทศ ขอให้รีบตอบแบบสอบถามกลับมาในวันนี้ เพราะจะต้องประมวลสถานการณ์เกี่ยวกับเรื่องเครื่องมืออุปกรณ์และปัญหาเชิงกายภาพว่าจะต้องแก้ไขอะไรบ้าง
นายสราวุธ กล่าวต่อว่า ที่ประชุม กศ. ได้มีมติอนุมัติให้มีเจ้าพนักงานตำรวจศาลประจำทุกศาลทั่วประเทศ โดยกำหนดกรอบอัตรากำลังจำนวน 1,180 คน ซึ่งเพิ่มขยายจาก 309 นาย โดยให้ดำเนินการในปีงบประมาณ 2563 ให้ครบตามกำหนด ซึ่งตนจะดำเนินการเพิ่มอัตรากำลังคอร์ทมาแชลจำนวน 100 อัตราก่อนให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 1 เม.ย. 63 ส่วนอื่นต้องเริ่มดำเนินการทันทีเช่นกันเพื่อให้เป็นไปตามกรอบที่วางไว้ โดยทางสำนักงานศาลจะขอแปรญัตติเรื่องงบประมาณที่เคยขอสำหรับตำรวจศาล 309 อัตรา แล้วไม่ได้รับการจัดสรร โดยสำนักงานศาลฯจะของบประมาณจากรัฐบาลจำนวน 540 ล้านบาท ภายในพรุ่งนี้ (20 พ.ย.)
โดยหลังจากเกิดเหตุในศาลหลายจังหวัด ตนขอชมเชยศาลจังหวัดบึงกาฬ จังหวัดอ่างทอง จังหวัดเกาะสมุย ที่มีการตรวจค้นอาวุธอันตรายและมีการรายงานมา ตอนนี้ตนได้ตั้งไลน์กลุ่มของการรักษาความปลอดภัยเพื่อยกระดับมาตรฐาน โดยขอให้ผอ.ศาลทุกศาล กำชับและติดตามให้ดำเนินการตามหนังสือเวียน ถ้ามีปัญหาข้อขัดข้อง สามารถแจ้งมาที่ศูนย์รักษาความปลอดภัย สำนักงานศาลยุติธรรมได้ทันที
เลขาสำนักงานศาลยุติธรรม ยังได้กำชับการเผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งที่ประชุม ก.ต.ได้ให้ข้อสังเกตว่า มีการนำข้อมูลเหล่านั้นไปเผยแพร่ต่อสาธารณชนทำให้มีผลในการบังคับใช้กฎหมาย จึงขอให้มีการแจ้งไปยังหน่วยงานอื่นๆให้กำชับด้วยว่าการนำไปเผยแพร่ต่อสาธารณชนต้องรับผิดชอบด้วย นอกจากนี้ในเรื่องการรักษาความปลอดภัยทางสำนักงานศาลยุติธรรมได้จัดทำโครงการเฉลิมพระเกียรติ ฯ โดยจะติดตั้งกล้องซีซีทีวี ในห้องพิจารณา ทั้งสิ้นจำนวน 2,112 ห้อง ขณะนี้ได้เริ่มติดตั้งไปแล้วในศาลจังหวัดนนทบุรี ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนนทบุรี และศาลแขวงนนทบุรี และกำชับว่าต้องแล้วเสร็จภายในเดือนมกราคม 2563 อย่างช้าจะต้องไม่เกินเดือนมีนาคม 2563 ส่วนกล้องวงจรปิดหน้าห้องพิจารณาต้องตรวจสอบว่าใช้งานได้หรือไม่ หากกล้องมีปัญหาต้องรีบซ่อมแซม
ด้านนายสุริยัณห์ โฆษกศาลยุติธรรม ได้กล่าวถึงหลักการรายงานข้อมูลให้มาถึงส่วนกลางอย่างรวดเร็ว ว่า ปกตินอกจากการรายงานผ่านโปรแกรมภายในสำนักงานศาลยุติธรรม หรือการพิมพ์รายงานสถานการณ์ที่ทำเป็นรูปแบบ หากเป็นกรณีเร่งด่วนหรือฉุกเฉิน ขอให้ลดขั้นตอน โดยให้รีบรายงานมาทันทีทั้งทางไลน์ หรือโทรศัพท์มายังตนโดยตรง หลังจากนั้นจึงรายงานเป็นรูปแบบปกติมาทีหลังอีกครั้ง ที่ต้องเน้นความรวดเร็ว เนื่องจากต้องบริหารความเสี่ยงที่เกิดขึ้น รวมถึงทราบปัญหาและหาทางแก้ไขได้อย่างทันท่วงที
โดย นายปุณณพัฒน์ กล่าวว่า การจัดสรรเจ้าพนักงานตำรวจศาลเพิ่มเติม เราไม่ได้รับจากตำรวจหรือทหารเพียงอย่างเดียว แต่มีการให้ยื่นแบบโยกย้ายเพิ่มเติมโดยให้ข้าราชการศาลยุติธรรมที่มาดำรงตำแหน่งยื่นเข้ามาได้ แต่ต้องมีคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้ในระเบียบ ถ้าหากได้ย้ายมาก็จะมีการฝึกอบรมแบบเข้มข้นและได้ไปปฏิบัติหน้าที่ทุกศาลทั่วประเทศ
นายสราวุธให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมเกี่ยวกับการจับเหตุผู้พกพาอาวุธเข้าศาลเป็นจำนวนมาก ว่า เนื่องจากในขณะนี้เรามีมาตรการและความเอาใจใส่มากยิ่งขึ้น มีการตรวจเข้มงวด รวมถึงการรายงานข้อมูลเข้ามาส่วนกลางอย่างรวดเร็ว ถือเป็นการพัฒนาคุณภาพทั้ง 2 ส่วน โดยที่ผ่านมาเมื่อมีเหตุเกิดขึ้น ทางศาลต่างจังหวัดจะรายงานมาด้วยระบบกระดาษทำให้ไม่รวดเร็ว ส่วนที่มีการจับกุมผู้กระทำผิดมากขึ้นเพราะมาจากผลของการกำชับและคนเห็นถึงความสำคัญ กระตือรือร้นจนนำไปสู่การปรับทางกายภาพ ซึ่งหลังจากออกมาตรการไปทาง ผอ.ทุกสำนักงานให้ความร่วมมืออย่างดีมากและตระหนักถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ไม่ว่าจะเป็นผู้พิพากษา ข้าราชการ ประชาชน ส่วนเมื่อจับกุมบุคคลกระทำผิดแล้วนั้น จะมีการลงโทษละเมิดอำนาจศาล และหากผิดกฎหมายอาญาอื่นๆ อย่างเช่นเรื่องปืน จะให้พนักงานไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อไป
ส่วนกรณีที่ศาลจันทบุรีผู้ก่อเหตุนำอาวุธเข้าผ่านด่านตอน รปภ.เข้าแถวเคารพธงชาติ ซึ่งผู้ก่อเหตุรู้ระยะเวลาอยู่แล้วจะมีจังหวะลักลอบนำอาวุธเข้าไป หลังจากนี้จะมีการอุดช่องว่างจัดพนักงานดูแลตลอดเวลา
ส่วนเรื่องนางเขมจิรา บัณฑูรนิพิท อายุ 56 ปี อดีตภรรยา ของพล.ต.ต.ธารินทร์ จันทราทิพย์ อดีตรองจเรตำรวจ อายุ 67 ปี ใช้อาวุธปืนกล็อก 22 กราดยิงคู่กรณีระหว่างการเข้าฟังพิจารณาคดี ยังข้องใจว่ามีภาพผู้ก่อเหตุโดนสวมกุญแจมือจึงสงสัยว่ามีการยิงซ้ำหลังถูกจับกุมแล้ว และขอให้ศาลเปิดเผยภาพจากกล้องวงจรปิดในห้องพิจารณา นายสราวุธยืนยันว่า ในห้องพิจารณาดังกล่าวยังไม่มีการติดกล้องซีซีทีวี ส่วนรายละเอียดเรื่องเหตุการณ์จะเป็นอย่างไร ตรงนี้มีการดำเนินคดีอยู่แล้ว ต้องรอผลการสอบสวน แต่ต่อไปหลังจากนี้ก็จะติดตั้งกล้องทุกห้องพิจารณาคดีให้หมดทุกศาล โดยใช้งบประมาณไป 77 ล้านบาท โดยกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งจะบันทึกทั้งภาพและเสียงทุกอย่างระหว่างการพิจารณา ซึ่งวัตถุประสงค์หลักที่ติดตั้งกล้องเพื่อความปลอดภัย หรือมีเหตุข้อโต้แย้ง จะได้มีหลักฐานในการยืนยันได้
