เมื่อวันที่ 19 พ.ย. นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการไม้มีค่าเพื่อประโยชน์ของแผ่นดินว่า ที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์ไม้มีค่า โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นหอประชุมและอาคารพิพิธภัณฑ์ โดยในส่วนของหอประชุม รัฐบาลได้เร่งรัดให้เสร็จก่อนการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคในปี 2565 ซึ่งประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพ โดยขณะนี้กรมศิลปากรได้กำลังออกแบบ เพราะมีการย้ายสถานที่จากย่านเทเวศร์ มาที่ย่านพระราม 9 ซึ่งมีพื้นที่ใหญ่กว่าเดิม จึงต้องออกแบบให้กว้างขวางเหมาะสมกับพื้นที่ เบื้องต้นจะใช้งบประมาณ 3,900 – 4,000 ล้านบาท ซึ่งจะของบประมาณในปี 2564 คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ 100 % ในปี 2567
นายจตุพร กล่าวต่อว่า ทั้งนี้กระทรวงทรัพยากรฯ ได้ส่งมอบไม้ไปแล้วประมาณ 1 หมื่นลูกบาศ์กเมตร (ลบ.ม.) และได้เตรียมไม้สำรองไว้อีก 2 หมื่นลบ.ม. ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไม้สักจากคดีป่าสาละวิน อย่างไรก็ตามกรมศิลปากรต้องการไม้พะยูงเพิ่มเติมเนื่องจากเป็นไม้ที่สวยงาม ซึ่งส่วนใหญ่ไม้พะยูงของกลางกรมศุลกากรได้เก็บรักษาไว้ แต่อยู่ระหว่างการดำเนินคดีจึงต้องรอให้คดีสิ้นสุดก่อน โดยกรมศิลปากรต้องประสานกับศุลกากรเพื่อให้ทราบขนาดไม้พะยูงที่มีอยู่ เนื่องจากการออกแบบกับขนาดไม้ต้องออกแบบควบคู่กันไป
