นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มาตรการร้อยเดียวเที่ยวทั่วไทย และเที่ยววันธรรมดาราคาช็อกโลก ได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1-14 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา โดยจะหมดเขตการใช้ในวันที่ 31 ธันวาคมนี้ 2562 ซึ่งจากการประเมินกระแสตอบรับของประชาชน พบว่า ได้รับการตอบรับที่ดีมาก ในทั้ง 2 มาตรการ โดยเฉพาะมาตรการร้อยเดียวเที่ยวทั่วไทย ที่เปิดให้ลงทะเบียนแล้ว 2 รอบ ในวันที่ 11-12 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เหลือจะเปิดให้ลงทะเบียนอีก 2 รอบ ในวันที่ 11-12 ธันวาคม 2562 ตั้งแต่เวลา 06.00 น. เป็นต้นไปจนกว่าจะครบตามสิทธิ์ที่กำหนดไว้ที่ 10,000 สิทธิ์ต่อวันต่อครั้ง โดยการเปิดให้ลงทะเบียน 2 รอบที่ผ่านมา มีผู้สนใจต่อคิวลงทะเบียนเป็นจำนวนหลายหมื่นราย แต่ลงได้เพียง 10,000 รายเท่านั้น ทำให้เกิดความล่าช้าในขั้นตอนการลงทะเบียนรับสิทธิ์ เนื่องจากมีผู้ให้ความสนใจและเปิดเว็บไซต์รอคิวลงทะเบียนพร้อมกันจำนวนมาก ทำให้การลงทะเบียนในอีก 2 รอบที่เหลือ จะมีการเตรียมความพร้อมของระบบให้มีเสถียรภาพและความรวดเร็วมากกว่าเดิม เพื่อให้เกิดความสะดวกกับผู้มาลงทะเบียนรับสิทธิ์มากที่สุด รวมถึงหากประเมินการใช้สิทธิ์ตามจริงแล้วพบว่ามีการตอบรับที่สูงมาก อาจจะหารือเพื่อขยายจำนวนให้สิทธิ์เพิ่มอีก อย่างไรก็ตาม แนะนำผู้ที่สนใจว่าสามารถลงทะเบียนได้ทั้ง 2 มาตรการ เพราะไม่ใช่มาตรการเดียวกัน แต่เป็นมาตรการกทางการตลาดเช่นเดียวกัน ทำให้หากลงทะเบียนมาตรการร้อยเดียวเที่ยวทั่วไทยไม่ทัน ก็สามารถซื้อสินค้าและบริการในราคาพิเศษผ่านมาตรการเที่ยววันธรรมดาราคาช็อกโลกได้ โดยเชื่อว่าหากทั้ง 2 มาตรการจะสร้างเม็ดเงินสะพัดจริงได้กว่า 400 ล้านบาทอย่างแน่นอน
นางสาวฐาปนีย์กล่าวว่า สำหรับมาตรการเที่ยววันธรรมดาราคาช็อกโลก หากนับตั้งแต่วันที่ 11-14 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา พบว่ามีประชาชนให้ความสนใจในการเข้าชมสินและบริการผ่านเว็บไซต์ www.tourismthailand.org/เที่ยววันธรรมดา หรือ www.เที่ยววันธรรมดาราคาช็อกโลก.com กว่า 3 ล้านยอดวิว มีผู้กรอกข้อมูลลงทะเบียนรับสิทธิ์ 60,000 ราย ในขณะที่ลงทะเบียนสำเร็จและชำระค่าสินค้าและบริการแล้ว 30,000 ราย รวมถึงมีตัวเลขการใช้บริการจริงแล้ว 13,000 ราย โดยตัวเลขการใช้จริงจะมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากยังมีผู้ได้สิทธิ์บางส่วนที่ยังไม่ได้ลงไปใช้สิทธิ์ แต่มีการซื้อบริการต่างๆ ไว้แล้ว เหมือนเป็นการซื้อเพื่อจองสอทธิ์ไว้ก่อน เมื่อมีความพร้อมแล้วจึงจะออกเดินทางใช้สิทธิ์ต่อไป ซึ่งจากนี้ททท.เองจะมีการประชาสัมพันธ์โครงการอย่างต่อเนื่อง ผ่านดาราและศิลปินที่ชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย เบื้องต้นก็มีดาราและศิลปินหลายรายที่มีความต้องการเข้ามาช่วยประชาสัมพันธ์แคมเปญ เพราะมองว่าเป็นมาตรการที่ดี และภาครัฐก็ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ผ่านมาตรการชิมช้อปใช้ ที่สามารถใช้เงินกระเป๋า 2 เพื่อแลกรับเงินคืนได้ด้วย นอกจากนี้ ธนคารกรุงไทย ยังเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการระดับชุมชน สามารถเข้าร่วมโครงการ ผ่านการลงทะเบียนรับชำระผ่านแอพพลิเคชั่นเป๋าตัง เพื่อให้ประชาชนสามารถชำระสินค้าและบริการผ่านกระเป๋าที่ 2 ได้ ซึ่งการร่วมมือกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบการในทุกระดับ ก็จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศได้มากขึ้น ซึ่งนอกจากจะเป็นการเดินทางในพื้นที่จังหวัดกรุงเทพฯ ไปเที่ยวในจังหวัดอื่นๆ จังหวัดใกล้เคียงกันก็สามารถเดินทางท่องเที่ยวระหว่างกันได้แบบไร้ข้อจำกัด เพราะแค่ไม่ใช่พื้นที่พูมิลำเนาของตนเอง ก็สามารถใช้สิทธิ์ใน 2 มาตรการดังกล่าวได้
“แพคเกจสินค้าและบริการที่ประชาชนให้ความสนใจในการซื้อมากที่สุด เป็นตั๋วเครื่องบิน ที่พัก ร้านอาหาร สันทนาการ เช่น บัตรสวนสนุก แพคเกจสปา โดยเฉพาะตั๋วเครื่องบิน ที่สายการบินบางกอกแอร์เวย์ ได้ออกแคมเปญก่อนแล้ว ซึ่งต่อไปจะเป็นสายการบินการบินไทยออกแคมเปญต่อเนื่อง โดยจะแบ่งเป็นสัปดาห์ว่าจะจัดแคมเปญลดราคาตั๋วเครื่องบินอย่างไร เช่น สัปดาห์นี้เริ่มต้นที่ 1,300 บาท ส่วนสัปดาห์ต่อไปอาจจะลดราคามากกว่าเดิม ซึ่งต้องติดตามว่าจะจัดโปรโมชั่นในแต่ละสัปดาห์เป็นอย่างไร โดยสิ่งที่ททท.อยากได้ในขณะนี้คือ ผู้ประกอบการในแหล่งท่องเที่ยวชุมชนตามต่างจังหวัด ที่ต้องการเข้าร่วมมาตรการทั้ง 2 มาตรการดังกล่าว โดยมีผู้ประกอบการบางส่วนที่เสนอสินค้าและบริการ รวมถึงราคาจำหน่ายมาให้ททท. เพื่อเข้ามาจำหน่ายสินค้าและบริการผ่านเว็บไซต์ของททท. รวมถึงการนำไปประชาสัมพันธ์ต่อ ซึ่งผู้ประกอบการหลายรายได้บอกว่ามาตรการวันธรรมดาราคาช็อกโลก ได้รับการตอบรับที่ดีมาก แต่ก็ยังต้องประเมินกระแสต่อไปในช่วงสุดท้ายของปีว่า ผลตอบรับในภาพรวมจะเป็นอย่างไรต่อไป เพราะผู้ประกอบการอยากให้เพิ่มการเที่ยววันธรรมดามากกว่าวันที่ 31 ธันวาคม 2562 ซึ่งหมายความว่าภาครัฐได้ทำแคมเปญเริ่มต้นให้แล้ว แต่หากผู้ประกอบการอยากทำแคมเปญต่อ แบบจัดโปรโมชั่นเที่ยววันธรรมดา ให้ราคาพิเศษต่อไป ก็อาจจะทำได้ เพราะเห็นแนวโน้มที่ดีมากจากความพอใจของผู้ประกอบการ”นางสาวฐาปนีย์กล่าว
นางสาวฐาปนีย์กล่าวว่า ทั้ง 2 มาตรการถือเป็นของขวัญปีใหม่ที่ททท.ต้องการมอบให้กับคนไทยทั้งประเทศ รวมถึงรัฐบาลก็มีมาตรการชิมช้อปใช้ของรัฐบาลก็ถือเป็นของขวัญปีใหม่แล้วเหมือนกัน แต่อาจจะมีอะไรพิเศษออกมาเพิ่มเติมอีกก็ได้ ซึ่งก็เป็นส่วนของภาครัฐที่จะพิจารณาต่อไป โดยในส่วนของททท.จะจัดกิจกรรมพิเศษอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่สิ้นปี 2562 จนถึงต้นปี 2563 เพื่อกระตุ้นทั้งไทยเที่ยวไทย และต่างชาติเที่ยวไทย ซึ่งปี 2563 เป็นปีที่เทศกาลตรุษจีนมาเร็วกว่าปกติ ททท.จึงวางแผนที่จะจัดงานเทศกาลให้ยิ่งใหญ่กว่าทุกปี ด้วยการเชิญศิลปินชาวจีนและศิลปะของจีนมาแสดงในประเทศไทย เพราะนอกจากจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนและชาติอื่นๆ ได้มากขึ้นแล้ว ยังถือเป็นการให้ความสำคัญกับคนไทยเชื้อสายจีนที่อยู่ในประเทศไทยด้วย สำหรับความคืบหน้าของการจัดมหกรรมเทศกาลดนตรี อาทิ ทูมอร์โรว์แลนด์ อีดีเอ็ม เบื้องต้นได้เตรียมความพร้อมอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยความที่เทศกาลดนตรีระดับโลกจะต้องพื้นที่ในการจัดงานเป็นพันไร่ จึงต้องร่วมมือกับทั้งเอกชน ผู้ประกอบการ และภาครัฐ รวมถึงประเมินว่าจะนำดนตรีรูปแบบใดมาจัดแสดง เนื่องจากต้องเลือกที่มีพื้นฐานแฟนคลับจากทั่วโลกด้วย เพื่อให้หากจัดขึ้นแล้วจะมีจะสามารถดึงดูดฐานแฟนคลับเหล่านั้นเข้ามามากขึ้นได้ โดยขณะนี้ยังมีข้อจำกัดหลายด้าน และต้องการให้รัฐบาลสนับสนุนในส่วนของงบประมาณให้เต็มที่ด้วย
เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว
