ปิยบุตร เตรียมอภิปรายสรุปปมตั้ง กมธ.ศึกษาคำสั่ง ม.44 ชวน ส.ส.ฝ่าย รบ.สนับสนุน

ปิยบุตร เตรียมอภิปรายสรุปปมตั้ง กมธ.ศึกษาคำสั่ง ม.44 ชวน ส.ส.ฝ่าย รบ.สนับสนุน

เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน ที่พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค อนค. กล่าวถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในสัปดาห์นี้ว่า น่าจะมีการลงมติตั้ง กมธ.วิสามัญเพื่อศึกษาผลกระทบ เกี่ยวกับการใช้อำนาจของ คสช. การออกคำสั่งและการใช้มาตรา 44 ของ คสช. โดยตนจะเป็นผู้อภิปรายสรุปอีกครั้งในฐานะผู้เสนอญัตติ ทั้งนี้ เพิ่งทราบข่าวว่าวิปรัฐบาลยืนยันว่าไม่เห็นด้วยให้มีการตั้ง กมธ. ซึ่งตนเห็นว่า เรื่องการศึกษาผลกระทบจากบรรดาคำสั่ง คสช.นี้ อยากให้มองข้ามเรื่องพรรครัฐบาล พรรคฝ่ายค้าน ให้มองว่าเป็นภารกิจร่วมกันของ ส.ส. เพราะในห้วงยามที่คณะรัฐประหารปกครองประเทศ ออกคำสั่งเป็นกฎหมายได้หมด ตอนนี้มีการเลือกตั้ง มี ส.ส.แล้ว จำเป็นต้องเอาบรรดาการใช้อำนาจเหล่านั้นมาทบทวน

“จริงอยู่ว่าเรามี กมธ.สามัญที่สามารถศึกษาเรื่องนี้ได้ คือชุดที่ตนเป็นประธาน นั่นคือ กมธ.กฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน แต่ถ้าจะให้ กมธ.ชุดนี้ศึกษา เห็นว่าจะจำกัดวงเฉพาะแค่ กมธ. 15 คนเท่านั้น แต่ถ้าตั้ง กมธ.วิสามัญมีความสำคัญคือ 1.นอกจากจะได้คนนอกมาร่วมศึกษาแล้ว ยังได้จัดสรรปันส่วนเปิดโอกาสให้เพื่อน ส.ส.ที่ติดตามประเด็นนี้ได้เข้ามานั่งร่วมกัน 2.แม้ที่ผ่านมามีการยกเลิกประกาศคำสั่ง คสช.แล้วหลายฉบับ แต่มีอีกหลายฉบับที่ยังไม่ยกเลิก และบางฉบับแม้เลิกแล้วแต่เกิดผลกระทบกับพี่น้องประชาชนจำนวนมาก ควรศึกษา ควรเยียวยาความเสียหาย ผลกระทบที่ประชาชนได้รับจากการใช้อำนาจนั้นหรือไม่ อย่างไร ไม่ใช่ว่ายกเลิกแล้วเลิกกันเลย จะทำให้เกิดวัฒนธรรมความไม่รับผิดชอบเกิดขึ้นได้” นายปิยบุตรกล่าว

นายปิยบุตรกล่าวอีกว่า อยากเชิญชวน ส.ส.ซีกรัฐบาลช่วยกันลงมติเรื่องนี้ นี่ไม่ใช่เรื่องฝ่ายค้านหรือรัฐบาล แต่เป็นเรื่องของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมี ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลก็ร่วมกันยื่นญัตติที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หลายท่าน และที่ผ่านมา ส.ส.หลายท่านก็ได้รับผลกระทบจากการใช้อำนาจตามประกาศคำสั่ง การลงมติเรื่องนี้ไม่ใช่ การไปนั่งทวงถาม เช็กบิลตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่เป็นการศึกษาเพื่อเป็นบทเรียนว่า การออกประกาศตามคำสั่งนั้นสร้างความเสียหาย สร้างผลกระทบอย่างไรบ้าง ศึกษาเพื่อเป็นข้อเสนอแนะต่อไป

“แนวนโยบายหนึ่งของพรรคอนาคตใหม่ที่ประกาศชัดเจนมากคือ การเข้าไปจัดการประกาศคำสั่งต่างๆ ของ คสช.ทั้งที่หลงเหลือและยกเลิกไปแล้ว ดังนั้น ส.ส.ที่ลงเลือกตั้งในนามของพรรคอนาคตใหม่ย่อมรู้อยู่แล้วว่ามีเรื่องนี้ ถ้าไม่คิดถึงเรื่องความเป็นพรรค แล้วอ้างประชาชนในพื้นที่อย่างเดียวเลย ถามว่าสุดท้ายแล้วจะมีพรรคการเมืองไว้ทำไม มีพรรคเพียงเพื่อสังกัดลง ส.ส.เท่านั้นเองโดยไม่ได้ยึดโยงอุดมการณ์ของพรรคอะไรเลยเหรอ” นายปิยบุตรกล่าว

Advertisement

นายปิยบุตรกล่าวอีกว่า ยังมีญัตติเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่คาดว่าจะเข้ามาในสัปดาห์นี้ด้วย สมาชิกที่เสนอญัตตินี้มาจากหลายพรรคการเมือง ไม่ว่าจะเป็นเพื่อไทย อนาคตใหม่ ประชาธิปัตย์ ชาติไทย พลังประชารัฐ ซึ่งจะมีผู้เสนอญัตติได้อภิปรายหลายท่านโดยไม่จำกัดเวลา รวมถึงเพื่อนสมาชิกที่สนใจประเด็นนี้ ดังนั้น อยากขอเวลาสภา ไม่อยากให้เร่งว่าต้องรีบอภิปรายให้จบ แล้วมาเร่งตั้ง กมธ. ตนอยากขอว่า อภิปรายไม่จบก็สามารถอภิปรายต่อ สัปดาห์หน้ายังมี เพื่อให้สมาชิกได้อภิปรายเกี่ยวกับการแก้รัฐธรรมนูญอย่างเต็มที่

“ในส่วนของ กมธ. ถ้าเป็นตามสัดส่วนแบบเดิม อนาคตใหม่จะได้โควต้า 6 คน จะมีทั้ง ส.ส.และบุคคลภายนอก หลักการอนาคตใหม่ยืนยัน เราจะไม่ให้ใครที่เคยมีส่วนร่วมในการร่างรัฐธรรมนูญของคณะรัฐประหารเข้ามาอยู่ใน กมธ.ชุดนี้ในสัดส่วนของพรรค เราจะมีทั้งภาคประชาชน นักวิชาการมาร่วม ซึ่ง กมธ.ชุดนี้ ต่อไปจะเป็นส่วนหนึ่งผลักดันประเด็นเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญในระดับสภา ดังนั้น ต้องเอาคนภายนอกที่สนใจประเด็นเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญมาร่วมกันให้มากที่สุด” นายปิยบุตรกล่าว

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image