“เอเซียพลัส” หั่นเป้ากำไรบริษัทจดทะเบียนไทย หลังเจอพิษเทรดวอร์อ่วม

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม  หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ได้ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนไทย (บจ.) ในปี 2562 ลงมาอยู่ที่ 9.63 แสนล้านบาท หรือลดลงประมาณ 3.7% จากต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าอยู่ที่ 9.9 แสนล้านบาท เนื่องจากการประกาศผลกำไรของบจ.ในไตรมาส 3 ปี 2562 ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ อยู่ที่  2.12 แสนล้านบาท หรือลดลง 17.4% หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปี2561 เพราะได้รับผลกระทบสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน (เทรดวอร์) ทำให้กลุ่มปิโตรเคมีและอิเลคทรอนิกส์ปรับตัวลดลง แม้ว่าจะมีหุ้นบางกลุ่มที่มีกำไรปรับตัวขึ้น เช่น สื่อสาร โรงพยาบาล ขณะที่กำไรต่อหุ้นหรืออีพีเอสอยู่ที่92.11 บาทต่อหุ้น พีอีอยู่ที่ 17.5 เท่า ส่งผลให้คาดการณ์ว่าเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยจะอยู่ที่ 1,612 จุด จากเดิมที่ประเมินว่าอีพีเอสอยู่ที่ 100.64 บาทต่อหุ้น พีอีอยู่ที่ 16.45 เท่า ดัชนีหุ้นไทยอยู่ที่ 1,655 จุด  ส่วนกำไรบจ.ปี 2563 คาดว่าจะอยู่ที่1 ล้านล้านบาท อีพีเอส 95.7  บาทต่อหุ้น ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ 1,700 จุด แต่หากสงครามทางการค้าคลี่คลายลงได้ ก็อาจจะทำให้ดัชนีปรับขึ้นไปแตะที่ระดับ 1,746 จุดได้

ปัจจัยเสี่ยงที่มีผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทย ยังเป็นเรื่องสงครามทางการค้า  แต่เชื่อว่าการที่รัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องจะช่วยพยุงตลาดได้ โดยล่าสุดได้ออกโครงการบ้านดีมีดาวน์ โดยรัฐสนับสนุนเพื่อลดภาระการผ่อนดาวน์ (Cash Back) จำนวน 50,000 บาทต่อราย ผู้เข้าร่วมมาตรการต้องเป็นผู้ที่มีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อเดือน หรือไม่เกิน 1.2 ล้านบาทต่อปี เป็นผู้ที่อยู่ในระบบฐานภาษีอากรของกรมสรรพากร จำนวน 100,000 ราย ระยะเวลาโครงการ 27 พฤศจิกายน ถึง 31 มีนาคม 2563 ซึ่งคาดว่าจะส่งผลดีต่อหุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่มีราคาต่ำกว่า 5.5 ล้านบาท นอกจากนี้ คาดว่าแรงซื้อกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (แอลทีเอฟา ในช่วงปลายเดือนธันวาคม จะมีเข้ามาอีกประมาณ 30,000 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยพยุงตลาดได้ โดยจากข้อมูล 3 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 66,000 ล้านบาทต่อปี ส่วนภาวะตลาดหุ้นในสัปดาห์ที่เหลือของปี 2562 ต้องเน้นการลงทุนในหุ้นรายตัวที่ให้ผลตอบแทนดี และเป็นกลุ่มที่ได้รับผลดีจากมาตรการภาครัฐ เช่น อสังหาริมทรัพย์  มีเดีย โรงพยาบาล และนิคมอุตสาหกรรมนายเทิดศักดิ์กล่าว

นายภาดล วรรณรัตน์ หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า  ดัชนีตลาดหุ้นไทยสิ้นปี 2562 คาดจะอยู่ที่  1,600 จุด ขึ้นหรือลงไม่มาก โดยอีพีเอสอยู่ที่ 93 บาทต่อหุ้น จากต้นปีที่ประเมินว่าจะอยู่ที่ 1,750 จุด อีพีเอสอยู่ที่  115 บาทต่อหุ้น ส่วนปี 2563 คาดว่าดัชนีอยู่ที่ 1,680-1,700 จุด อีพีเอสอยู่ที่ 100.5 บาทต่อหุ้น โดย ปัจจัยที่ต้องติดตามเป็นเรื่องเทรดวอร์ว่าจะบรรลุข้อตกลงเฟส 1 ในปีนี้ได้หรือไม่ รวมถึงการชุมนุมประท้วงที่ฮ่องกง และการประชุมของกลุ่มองค์กรผู้ผบิตน้ำมัน (โอเปก) และสมาชิกนอกกลุ่มโอเปกในวันที่ 5-6 ธันวาคมนี้ และติดตามการจัดอันดับเครดิตเรทติ้งปลายปี ที่จะมีผลต่อความเชื่อมั่นในการลงทุน สำหรับกลยุทธ์ที่แนะนำในการลงทุนคือ เน้นหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ธนาคาร โรงกลั่น และโรงไฟฟ้า

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image