คต.ชู3ภารกิจดันส่งออกมันสำปะหลัง โชว์ผลงานเยือนตุรกีซื้อ-ขายกว่า690ล้าน

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมร่วมกับภาคเอกชน ได้แก่ สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย สมาคมแป้งมันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และสมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย จัดทำแผนการขยายตลาดสินค้ามันสำปะหลังปี 2562/2563 โดยคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการมันสำปะหลัง (นบมส.) ได้มีมติรับทราบแผนงานดังกล่าวไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตามแผนแบ่งภารกิจออกเป็น 3 ด้าน คือ รักษาตลาดเดิม (จีน) ฟื้นฟูตลาดเก่า (อียู) และขยายตลาดใหม่ โดยมุ่งเน้นผลักดันการส่งออกสินค้ามันสำปะหลังคุณภาพดีและมีมูลค่าเพิ่มสูงไปยังตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ อาทิ ตุรกี นิวซีแลนด์ อินเดีย เกาหลีใต้ และฟิลิปปินส์ ผลักดันการส่งออกมันสำปะหลังไปยังตลาดที่หลากหลายมากขึ้น และมีการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังให้มีความหลากหลายมากขึ้น ลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาการส่งออกไปยังตลาดจีน และเพิ่มอำนาจต่อรองทางการค้าให้กับอุตสาหกรรมมันสำปะหลังไทย ท้ายสุดจะส่งผลให้ราคาจำหน่ายมันสำปะหลังที่เกษตรกรจะได้รับ มีเสถียรภาพและสอดคล้องกับสภาวะความต้องการของตลาด

นายกีรติ กล่าวว่า ล่าสุดกรมได้จัดคณะผู้แทนการค้าร่วมกับภาคเอกชนและนักวิชาการด้านอาหารสัตว์ เดินทางเยือนสาธารณรัฐตุรกี เพื่อจัดกิจกรรมขยายตลาดมันสำปะหลังสู่ตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ ซึ่งมีการเจรจาธุรกิจและให้ความรู้เกี่ยวกับคุณประโยชน์ของมันสำปะหลังที่แตกต่างจากธัญพืชทดแทนอื่นๆ เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในสูตรอาหารสัตว์ ตลอดจนแนะนำสินค้ามันอัดเม็ดซึ่งมีคุณภาพสูงกว่ากากมันอัดเม็ดที่ปัจจุบันตุรกีนิยมนำเข้าจากไทยในขณะนี้ รวมถึงการลงนามเอ็มโอยูซื้อขายมันสำปะหลังระหว่างผู้ส่งออกไทยกับผู้นำเข้าตุรกี จำนวน 3 คู่รวม 150,000 ตัน มูลค่ากว่า 690 ล้านบาท

นายกีรติ กล่าวว่า ปัจจุบันอุปทานมันสำปะหลังของทั้งอาเซียนลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคไวรัสใบด่างมันสำปะหลัง (Cassava.Mosaic.Disease: CMD) ขณะที่ตลาดโลกมีแนวโน้มความต้องการมันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบมากขึ้น คาดปี2563 ราคามันสำปะหลังของไทยทั้งระบบอยู่ในระดับดี โดย 9 เดือนแรก2562 ไทยส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังรวม 5.27 ล้านตัน มูลค่า 2,039 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปริมาณและมูลค่าลดลง 17% และ 12% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ที่มีปริมาณการส่งออกรวม 6.36 ล้านตัน มูลค่า 2,317 ล้านเหรียญสหรัฐ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image