นายพิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยว่า ภาพรวมทิศทางราคาทองคำในปี 2562 อยู่ในขาขึ้น แต่ช่วงปลายปี 2562 อาจจะมีแรงทำกำไรในส่วนของกองทุนต่างๆ ออกมามากขึ้น ทำให้ตามพื้นฐานแล้วเป็นไปได้ว่า ราคาทองคำจะปรับตัวลดลงได้บ้าง ซึ่งคาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวไม่ต่ำกว่า 20,500 บาท เพราะที่ผ่านมาจะเห็นว่ามีแรงซื้อเข้ามาในตลาดทองคำอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มเห็นแรงขายเข้ามาในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมานี้เท่านั้น ทำให้ตั้งแต่ต้นปี 2563 จนถึงช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งเป็นช่วงที่ทองคำจะน่าซื้อมากที่สุด และมีปริมาณการซื้อเข้ามามากสุด จากคนไทยเชื้อสายจีน โอกาสที่ราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นมีมาก โดยคาดว่าจะปรับตัวขึ้นมาในกรอบ 21,000-22,000 บาท มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นการทำกำไร จากการซื้อช่วงปลายปี 2562 และขายทำกำไรในต้นปี 2563
นายพิบูลย์ฤทธิ์กล่าวว่า ในส่วนของโอกาสที่ราคาทองคำจะปรับตัวลดลง มาจากปัจจัยสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน สามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงกันได้ในเฟสแรก หรือมีกระแสข่าวออกมาว่ามีแนวโน้มดีขึ้น ก็จะทำให้ราคาทองคำร่วงได้ แต่คงอยู่ในระหว่าง 20,500 บาท แต่หากมีข่าวดีมากขึ้นหรือมีมุมมองที่ดีกว่าเดิม ก็อาจจะปรับลดลงแรงได้อีก แต่ในขณะนี้ก็ถือว่าทองคำอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่อง โดยหากราคาจะกลับหัวแรงๆ ก็ต้องหลุดระดับ 20,000 บาท ลงไปแตะระดับ 19,000 บาท ซึ่งโอกาสที่จะเกิดขึ้นยังมีค่อนข้างน้อย เพราะแนวโน้มทองคำขาขึ้นระยะยาวยังชัดเจนอยู่มาก
“ราคาทองคำอยู่ในขาขึ้นระยะยาว โดยในปี 2563 หากราคาทองคำยังไม่หลุดระดับ 20,500 บาท ก็ถือว่าเป็นขาขึ้นต่อเนื่องยาวๆ โดยนักวิเคราะห์มีการประเมินว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจมีการปรับลดดอกเบี้ยลงอีก 2 ครั้ง หรือนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐ ที่ต้องการให้ดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐติดลบ และมีการกดดันเฟดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากดอกเบี้ยอยู่ในระดับที่ต่ำมากๆ ก็จะเป็นผลดีกับราคาทองคำในระยะยาว รวมถึงการทำสงครามการค้าในหลายๆ ประเทศ ก็มีส่วนช่วยพยุงราคาทองคำด้วย” นายพิบูลย์ฤทธิ์กล่าว
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
