วันที่ 1 ธันวาคม นายชัยชาญ มูลมาก จ่าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง ริมถนนสละชีพในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ นำอาคารที่ขออนุญาตสร้างเป็นที่พักอาศัย เปิดให้พักรายวันเข้าข่ายผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โรงแรม 2547 และอาจเข้าข่ายหลอกลวงประชาชน จากการใช้ใบอนุญาตของโรงแรมแห่งอื่น มาแสดงที่บริเวณด้านหลังเคาน์เตอร์จองห้องพัก ขณะที่ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมือง มีหนังสือแจ้งยืนยันปกครองจังหวัดว่าอาคารดังกล่าวมีหลักฐานจากการสอบปากคำเจ้าของอาคารแจ้งว่าเปิดให้เช่าพักรายเดือน ทั้งนี้ หากมีปัญหาตามที่ร้องเรียนเพิ่มเติมเจ้าหน้าที่ระดับอำเภอ จะต้องเข้าไปดำเนินการล่อซื้อ หากพบมีการเปิดห้องพักรายวันก็ต้องรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดี
มีรายงานว่า สำหรับโรงแรมดังกล่าว เทศบาลเมืองฯได้ทำหนังสือชี้แจงถึงที่ทำการปกครองจังหวัด ระบุว่าในพื้นที่มีโรงแรม 22 แห่ง 20 แห่งมีใบอนุญาตถูกต้อง มีโรงแรม 1 แห่ง ที่ถนนเลียบชายหาดมีใบอนุญาต แต่ใช้อาคารผิดประเภท แต่หลังได้ทักท้วงถึงปกครองจังหวัดนานกว่า 2 ปี ขณะนี้ยังไม่มีการเพิกถอนใบอนุญาต ส่วนโรงแรมอีก 1 แห่ง ได้แจ้งให้ผู้ประกอบการดำเนินการตามกฎหมาย กรณีผู้ประกอบการได้ยื่นเอกสารขอผ่อนผันคุ้มครองชั่วคราวตามคำสั่ง คสช.ที่ 6/2562 แต่พบว่าการใช้อาคารไม่เข้าข่ายการผ่อนผันตามเงื่อนไขการประกอบกิจการโรงแรม เนื่องจากระบุว่ามีการก่อสร้างเป็นอาคารเป็นที่พักอาศัยรวม และพบว่าบริเวณเดียวกันมีการก่อสร้าง 2 อาคาร มีโฉนด 2 แปลง อาคารด้านหลังขออนุญาตเป็นโรงแรมถูกต้อง แต่ผู้ประกอบการเจ้าของเดียวกันนำใบอนุญาตโรงแรมด้านหลังมาแสดงในอาคารที่พักอาศัยด้านหน้า
นายอุดม ศรีมหาโชตะ กรรมการบริหารสมาคมโรงแรมไทย เจ้าของโรงแรมแห่งหนึ่งที่ อ.หัวหิน กล่าวว่า ขณะนี้ผู้บริหารสมาคมได้ประสานสมาชิกทั่วประเทศ ติดตามแนวทางการปฏิบัติภายหลังจากเข้าพบรองปลัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาที่พักประเภท AirBNB ที่กำลังได้รับความนิยม แต่ไม่มีการจัดระเบียบ โดยขอให้ออกกฎกระทรวงควบคุม นอกจากนั้นกรมการปกครองควรเสนอแก้ไขกฎหมายการจอง การโฆษณาโรงแรม ผ่านโซเชียลมีเดีย เจ้าของเว็บไซต์หรือเพจเฟซบุ๊กควรแจ้งเลขที่ใบอนุญาตของผู้ประกอบกิจการให้ชัดเจน หลังจากพบว่ามีโรงแรมเถื่อนจำนวนมากลักลอบเปิดจองในระบบออนไลน์
ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้จับกุมโรงแรมเถื่อนผิดกฎหมายดำเนินคดี แต่ไม่ได้กล่าวโทษจากการนำอาคารที่พักอาศัยดัดแปลงเป็นโรงแรมให้พักรายวัน ซึ่งเป็นอำนาจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เจ้าหน้าที่สามารถสั่งปิดการใช้อาคารได้ จึงขอให้ฝ่ายปกครองอำเภอหรือจังหวัดที่กำกับดูแล กำชับให้ผู้บริหาร อปท.ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่เพราะผู้บริหารเทศบาล อบต. อาจเข้าข่ายถูกแจ้งข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และขอให้เจ้าหน้าที่แจ้งขั้นตอนการขออนุญาตโรงแรมให้ผู้ประกอบการเข้าใจแนวทางการปฏิบัติ เนื่องจากส่วนใหญ่มีปัญหากรณีเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นแนะนำให้ก่อสร้างอาคารเป็นที่พักอาศัยไปก่อน จากนั้นจะแนะนำให้เจ้าของกิจการโรงแรมขอเปลี่ยนแปลงการใช้อาคารในภายหลัง
