นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เปิดเผยว่า ในปี 2563 กอช.ตั้งเป้าจะเพิ่มยอดสมาชิกให้ถึง 2.5 ล้านราย จากปัจจุบันมีสมาชิกจำนวน 2.3 ล้านราย วงเงินฝากทั้งหมด 6,300 ล้านบาท โดยในปีหน้าจะเน้นขยายฐานในกลุ่มนักเรียน นำร่องในกลุ่มโรงแรียนและวิทยาลัยอาชีวศึกษา ก่อนจะขยายผลทุกโรงเรียนทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ ซึ่งคาดว่าจะทำให้ยอดสมาชิกทะลุ 2.5 ล้านรายแน่นอน
“กลุ่มนักเรียนและนักศึกษา เป็นกลุ่มเป้าหมายที่กอช. อยากจะส่งเสริมในคนกลุ่มนี้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งโจทย์สำคัญคือการให้คนเหล่านี้ตระหนักถึงการออมเงินให้ได้ โดยเฉพาะกลุ่มอาชีวะที่ส่วนมากจะทำงานมีรายได้แล้ว และมีกำลังทรัพย์ในการออมมากกว่านักเรียนทั่วไป ดังนั้นในปี 2563 จะบุกประชาสัมพันธ์ทุกโรงเรียนทั่วไทย ให้เห็นถึงความสำคัญของการออมเงินในกองทุนกอช. ก่อนจะดึงนักเรียนที่มีความสามารถขึ้นมาเป็นปราชญ์การออมของโรงรียน”นางสาวจารุลักษณ์กล่าว
นางสาวจารุลักษณ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังเตรียมจะขยายฐานในกลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่ไม่มีหลักประกัน ที่ปัจจุบันยังขาดความเชื่อมั่น ในกองทุนกอช. หรือยังไม่เข้าใจระบบการออม โดยจะประสานให้ผู้ใหญ่บ้านทั่วประเทศส่งสมาชิกกอช.ที่คาดว่าจะสามารถได้มาพัฒนาเป็นปราชญ์การออม ซึ่งจะทำหน้าที่ในการให้ความรู้ แนะนำการออม และตอบปัญหาข้อสงสัยต่างๆ ในการออมให้กับสมาชิกในชุมชน โดยกอช.ตั้งเป้าว่าจะสามารถสร้างปราชญ์การออม 1 หมู่บ้าน 1 ปราชญ์การออมทั้ง 80,000 หมู่บ้านทั่วประเทศได้ในปีหน้า
“กอช.ไม่ได้อยากได้ยอดการเปิดบัญชีเพียงอย่างเดียว สิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นคือการออมอย่างต่อเนื่องของสมาชิก ซึ่งขั้นต่ำควรออมขั้นต่ำให้ได้ 1,200 ต่อคนต่อปี”นางสาวจารุลักษณ์กล่าว
นางสาวจารุลักษณ์ก่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามในปี 2561 ขณะนั้นมีสมาชิกกอช.แค่ 600,000 ราย ในจำนวนกว่าครึ่ง คือ 300,000 ราย มีการออมไม่ถึงขั้นต่ำต่อที่กอช.กำหนดไว้ที่ 1,200 บาทต่อคนต่อปี ส่วนคนที่ออมเงินถึงเพดานสูงสุดจำนวน 13,200 บาท มีแค่ 10% จากยอดสมาชิกทั้งหมดเท่านั้น ดังนั้นจึงต้องเร่งสร้างความเข้าใจว่าการออมกับกอช.ดีอย่างไร มีข้อแตกต่างกับการฝากเงินกับธนาคารพาณิชย์อย่างไรบ้าง
นางสาวจารุลักษณ์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องการเพิ่มวงเงินสมทบจากภาครัฐให้กับสมาชิกที่ออมเงินกับกอช.นั้น ขณะนี้ได้เสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณาแล้ว คาดว่าจะได้คำตอบในปีหน้า แต่ยืนยันว่าการปรับเพิ่มวงเงินสมทบสมาชิกจะมีแน่นอน ส่วนเรื่องเงินที่สมทบจะต้องขอศึกษากันอีกครั้ง เพราะเรื่องนี้ต้องรอดูงบประมาณปี 2563 ที่รัฐบาลจะให้ด้วยว่ากองทุนกอช. จะได้รับงบประมาณเท่าไหร่
