นายกฯ เปิดตัว ‘เครือข่ายเพื่อความยั่งยืนแห่งประเทศไทย’ ผนึก 10 องค์กรตลาดหุ้นรับผิดชอบต่อสังคม

ที่โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล ถนนวิทยุ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์อชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในงานแถลงข่าวเปิดตัวเครือข่ายเพื่อความยั่งยืนแห่งประเทศไทยว่า ขณะนี้โครงสร้างประชากรของไทยกำลังเปลี่ยนแปลงเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และในปี 2564 ไทยก้าวเป็นสังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบ ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องเตรียมรับมือ เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในการพัฒนาในอนาคต เอกชนต้องเข้ามาช่วยขับเคลื่อนด้วย เพราะรัฐบาลทำเองไม่ได้ทั้งหมด นอกจากนี้ประชาชนต้องมาขับเคลื่อนในรูปแบบประชารัฐ เพื่อให้เกิดการปรับตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกได้  ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการดำเนินนโยบายต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ถือเป็นเรื่องดีที่เอกชนตื่นตัวในการพัฒนาที่ยั่งยืนและจัดตั้งเครือข่ายเพื่อความยั่งยืนแห่งประเทศไทย ทำให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความร่วมมือในการสร้างความยั่งยืนของประเทศ และพร้อมที่จะเติบโตไปด้วยกันอย่างมั่นคง

นางพิมพรรณ ดิศกุล ณ อยุธยา ผู้อำนวยการเครือข่ายเพื่อความยั่งยืนแห่งประเทศไทย(TRBN) กล่าวว่า จากโครงการเสริมสร้างตลาดทุนธรรมาภิบาลเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ต่อมาเกิดเครือข่าย TRBN เป็นความรร่วมมือ 10 องค์กรประกอบด้วย สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) , สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) สภาธุรกิจตลาดทุนไทย กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) สมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย, สมาคมธุรกิจเพื่อสังคม SB ประเทศไทย และ สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ซึ่งชักชวนบริษัทจดทะเบียนและบริษัทเอกชนทั่วไป รวมถึงภาคส่วนอื่นๆ เพื่อส่งเสริมให้เกิดความตระหนักความรู้ ความเข้าใจที่ตรงกัน และการแลกเปลี่ยนความคิดที่จะนำไปสู่การดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืน นอกจากนี้ยังเชื่อมโยงทรัพยากร องค์ความรู้ เทคโนโลยี สนับสนุนงานวิจัย นวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืน และใช้เครือข่ายดังกล่าวเป็นพื้นที่กลางของความร่วมมือของภาคธุรกิจกับภาคส่วนอื่นๆ เพื่อการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อส่วนรวม

นางพิมพรรณ กล่าวว่า เป้าหมายการดำเนินงานของ TRBN มุ่งไปที่ 3 ประเด็นหลัก คือ ปล่อยก๊าซคาร์บอนต่ำ เน้นเรื่องเศรษฐกิจหมุนเวียน และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป้าหมายที่สอง คือ การเปิดโอกาสอย่างทั่วถึง  เน้นเรื่องการบริหารจัดการห่วงโซ่คุณค่า และสิทธิมนุษยชนและการพัฒนามนุษย์ ส่วนเป้าหมายสุดท้าย เป็นเรื่องการมีธรรมาภิบาล เน้นศีลธรรมความซื่อสัตย์ทางธุรกิจ รวมถึงการลงทุนและการบริโภคอย่างยั่งยืน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image