ลุ้น”สนธิรัตน์”เคาะลดราคาน้ำมันของขวัญปีใหม่

“สนธิรัตน์” เตรียมเข้าร่วมหารือกับคณะทำงานฯเพื่อปรับโครงสร้างราคาหน้าโรงกลั่น 13 ธ.ค.นี้หลังหารือร่วมกับโรงกลั่นได้ข้อมูลเบื้องต้น ภาคประชาชนหวังนำไปสู่การลดราคาขายปลีกได้ 1-1.50 บาทต่อลิตรอย่างต่ำนำร่องเพื่อให้รัฐทันมอบเป็นของขวัญให้กับคนไทย

นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังการประชุมคณะทำงานย่อยภายใต้คณะทำงานเพื่อพลังงานที่เป็นธรรม ซึ่งมีปลัดกระทรวงพลังงานทำหน้าที่เป็นประธาน ว่า การประชุมคณะทำงานย่อยครั้งนี้มุ่งเน้นการหารือการปรับโครงสร้างราคา ณ โรงกลั่นน้ำมันโดยมีตัวแทนจากผู้ประกอบการโรงกลั่นน้ำมันมาให้ข้อมูลเพื่อที่จะเดินหน้าไปสู่โครงสร้างราคาขายปลีกน้ำมันที่เป็นธรรมตามที่ภาคประชาชนเรียกร้อง อย่างไรก็ตามจะมีการประชุมเพื่อพิจารณารายละเอียดโดยเฉพาะค่าพรีเมียมน้ำมันอีกครั้งวันที่ 13 ธันวาคมนี้ซึ่งนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานมีความตั้งใจจะขอเข้ามาร่วมการหารือด้วย

” ก่อนการประชุมรัฐมนตรีพลังงานได้กำชับให้การประชุมที่มีผลลัพธ์ที่ชัดเจน และนี่คือความตั้งใจของท่านที่ต้องการทำงานที่เกิดประโยชน์กับประชาชนมากสุด โดยวันที่ 13 ธ.ค.จะประชุมคณะทำงานอีกครั้งอาจจะได้ข้อสรุปบางเรื่องแต่จะนำไปสู่การลดราคาขายปลีกเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับคนไทยได้หรือไม่ก็ต้องขึ้นอยู่กับที่ประชุม “นายวัชระกล่าว

นายวัชระกล่าวว่า สำหรับโจทย์ของกระทรวงพลังงานมุ่งเน้นการประสานงานทุกมิติทั้งภาคธุรกิจ และประชาชนซึ่งตัวแทนโรงกลั่นเองได้มาให้ข้อมูลเพื่อที่จะเดินหน้าไปสู่ราคาพลังงานที่เป็นธรรม โดยโจทย์ใหญ่ครั้งนี้ได้มีการหารือราคา ณ โรงกลั่นโดยมีการถกเถียงประเด็นว่าราคาหน้าโรงกลั่นควรอิงราคานำเข้าจากสิงคโปร์หรือ Import Parity ว่าเกณฑ์นี้ยังเหมาะสมหรือไม่ และหากไม่เหมาะสมจะอ้างอิงอะไร หรือ จะยกเลิกไปเลย จากนั้นครั้งหน้าจะมาดูค่าพรีเมียมคือ ค่าขนส่ง ค่าประกันภัย เป็นต้น

Advertisement

น.ส. รสนา โตสิตระกูล ผู้แทนภาคประชาชนในคณะทำงานย่อยและคณะทำงานเพื่อพลังงานที่เป็นธรรม กล่าวว่า การหารือครั้งนี้ตัวแทนโรงกลั่นได้มาชี้แจงสูตรราคาหน้าโรงกลั่นที่เป็น Import Parity ที่เป็นราคานำเข้าจากสิงคโปร์ บวก ค่าพรีเมียม เช่น ค่าขนส่ง ค่าประกันภัย ค่าสูญเสียระหว่างทางที่นำเข้ามา แต่เมื่อดูข้อมูลแล้วยังมีค่าอื่นๆอีกเช่น ค่าปรับปรุงคุณภาพน้ำมัน ซึ่งก็ถกเถียงว่าค่าปรับปรุงคุณภาพน้ำมันนี้ควรจะถูกตัดออกไปด้วยเนื่องจากสิงคโปร์เองก็อ้างอิงน้ำมันมาตรฐานยูโร 4 เช่นเดียวกับไทยแล้วโดยเฉพาะน้ำมันเบนซินซึ่งหากตัดออกส่วนนี้จะมีผลต่อราคาลดลงราว 50 สตางค์ต่อลิตร

“คงต้องหารือกันต่อไปว่าสิ่งเหล่านี้จะต้องตัดออกไหมนอกจากค่าปรับปรุงคุณภาพน้ำมันก็ยังมีค่าสำรองน้ำมันเพื่อความมั่นคงอีก และเรื่องค่าบริการอื่นๆ ฝั่งภาคประชาชนก็แสดงความเห็นว่าเราถกเถียงประเด็นเหล่านี้มาหลายเวทีแต่ไม่มีใครเคาะว่าจะจบลงที่ไหน ทางปลัดจึงเสนอว่าถ้าจะเคาะตัวเลขต้องส่งตัวแทนฝั่งประชาชน 3 คน และรัฐ 3 คนมาดูเชิงเทคนิคซึ่งต้องดูเอกสารที่เป็นความลับก็ต้องสัญญาว่าไม่เอาความลับมาเปิดเผยก่อน 13 ธ.ค.นี้จากนั้นเมื่อพอใจร่วมกันก็จะมาตกลงกันวันที่ 13 ธ.ค.เราคาดหวังว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงราคาน้ำมันที่ลดลงเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ได้บ้าง”น.ส.รสนากล่าว

น.ส. รสนา ทั้งนี้ยอมรับว่าอาจต้องใช้เวลาในการหารือรายละเอียดซึ่งเบื้องต้นที่ภาคประชาชนศึกษาไว้หากราคาหน้าโรงกลั่นมาอิงราคาส่งออกได้เพราะปีที่ผ่านมาไทยมีการส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปมูลค่า 3 แสนล้านบาทจะมีผลต่อราคาขายปลีกลดได้ราว 1 บาทต่อลิตร ค่าพรีเมียมต่างๆ อีกราว 50-60 สตางค์ต่อลิตร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image