ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ และนายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ได้หารือกันเมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยยืนยันว่าพวกเขาจะหาทางหลีกเลี่ยงการทำสงครามการค้าระหว่างกัน หลังจากสหรัฐขู่จะปรับเพิ่มกำแพงภาษีกับสินค้านำเข้าฝรั่งเศสมูลค่า 2.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 100% เพื่อตอบโต้ที่ฝรั่งเศสจัดเก็บรายได้จากบริษัทไอทีของสหรัฐด้วยการออกกฏหมายภาษีดิจิตอล ที่สหรัฐอ้างว่าเป็นการเลือกปฏิบัติทางการค้าต่อบริษัทของสหรัฐ
รัฐสภาฝรั่งเศสได้ทำให้รัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของทรัมป์โกรธเกรี้ยว หลังจากที่ได้ให้การรับรองกฏหมายเก็บภาษีจากบริษัทดิจิตอลอย่าง กูเกิล แอปเปิล เฟซบุ๊ก และอเมซอน จากรายได้ที่เกิดขึ้นภายในประเทศฝรั่งเศส โดยมีการรับรองกฎหมายไปเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
ทรัมป์กล่าวระหว่างหารือกับมาครงว่า สหรัฐมีการค้ากับฝรั่งเศสมากมาย และข้อขัดแย้งดังกล่าวเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น เขาเชื่อว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถหาทางออกร่วมกันได้ ในระยะเวลาอันใกล้ทุกอย่างน่าจะดูดีขึ้น พร้อมยืนยันว่าเขาไม่ได้รักบริษัทไอทีเหล่านี้ แต่เนื่องจากมันเป็นบริษัทสหรัฐ ดังนั้นสหรัฐควรต้องเป็นผู้เก็บภาษีบริษัทพวกนี้ ไม่ใช่ฝรั่งเศส ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผล
ด้านรัฐมนตรีการคลังของฝรั่งเศสออกมาระบุว่า ได้ประสานงานกับสหภาพยุโรปเพื่อให้แน่ใจว่าหากสหรัฐใช้กำแพงภาษีใหม่กับฝรั่งเศสในวันที่ 14 มกราคมตามที่กำหนดไว้จริง สหภาพยุโรปก็จะมีมาตรการตอบโต้อย่างแข็งกร้าวตามมาเช่นกัน
