อากาศที่หนาวจัดในช่วงนี้ ส่งผลให้เกิดเหตุสลดมีผู้เสียชีวิตสังเวยอากาศหนาวในหลายจังหวัด โดยจ.ชัยนาท วัดอุณหภูมิต่ำสุดของ จ.ชัยนาท ที่จุดน้ำค้างวัดได้ 7.8 องศาเซลเซียส โดยมีผู้เสียชีวิตรายแรก ในพื้นที่หมู่ที่ 1 ต.โพงาม อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท เป็นหญิงชราอายุ 92 ปี ทราบชื่อนางลอย หนูเถื่อน นอนอยู่บนที่นอนชั้นล่างของบ้านซึ่งเป็นใต้ถุนโล่ง
นางมาลัย อินวารี อายุ 67 ปี ลูกสาวผู้ตาย กล่าวว่า ช่วง 2-3 วันมานี้ในพื้นที่มีอากาศที่หนาวเย็นลงกะทันหัน ตนเองก็พยายามหาเสื้อกันหนาว ถุงมือ ถุงเท้ามาใส่ให้แม่ และขอให้ขึ้นไปนอนบนบ้านเพราะอากาศหนาวประกอบกับชั้นล่างมีลมพักโกรก จะทำให้ไม่สบายได้ แต่แม่อยากนอนชั้นล่างเพราะไม่สะดวกที่จะเดินขึ้นบันใด จนในวันนี้(7 ธันวาคม 2562 )ช่วง 05.00 น.ตื่นมาเตรียมอาหารเช้า ก็ยังพุดคุยกันอยู่ว่าวันนี้หนาวมากกว่าเมื่อวาน ให้แม่ห่มผ้าเพิ่มอีก 1 ชั้น จากนั้นประมาณ 06.00 น.ตนปลุกแม่กินข้าวก็พบว่าหมดลมหายใจไปแล้ว เบื้องต้นสันนิษฐานว่าจากสภาพอากาศที่หนาวจัด ระบบภายในร่างกายอาจจะทำงานล้มเหลวและเสียชีวิตดังกล่าว
ส่วนที่จ.นครราชสีมา พบคุณตาวัย 60 ที่นอนป่วยหนาวตัวสั่น สิ้นใจคาอ้อมกอดภรรยา เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งชันสูติหาสาเหตุ คาดมีอาการเจ็บป่วยทำให้สภาพร่างกายต้านทานอากาศหนาวไม่ไหว โยเมื่อเวลา 17.00 น.วานนี้ (6 ธันวาคม 2562) ร.ต.อ.พยุงศักดิ์ ยังกลาง รอง สว.(สอบสวน) สภ.พิมาย จ.นครราชสีมา รับแจ้งว่า มีเหตุคนเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุอยู่ในบ้าน แต่มีผู้นำหมู่บ้านวังหิน ม.8 ต.ในเมือง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา นำศพไปไว้ที่วัดบ้านวังหิน ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงรุดไปตรวจสอบที่วัด พบศพนายบุญส่ง เฒ่านอย อายุ 60 ปี บ้านเลขที่ 322 ม.8 บ้านวังหิน ต.ในเมือง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ในสภาพไม่สวมเสื้อผ้า สวมแต่ผ้าอ้อมสำเร็จรูป นอนอยู่บนเตียงภายในศาลาวัด สันนิษฐานว่า เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5 ชั่วโมง
จากการสอบถาม นางอารมณ์ ชะตานี อายุ 62 ปี ภรรยาผู้ตายเล่าว่า นายบุญส่งฯสามีป่วยเป็นโรคมะเร็งลำไส้ มาได้ 3 เดือนแล้ว ส่วนตนตาบอด อยู่บ้านด้วยกัน 2 คน จนเมื่อเวลาประมาณ 12 .30 น.สามีบอกว่า หนาวๆ และนอนตัวสั่น จึงเข้าไปกอดสามีแล้วหอมแก้มเพื่อให้กำลังใจ แต่หลังจากนั้นไม่นาน นายบุญส่งฯ ก็สิ้นใจเสียชีวิตอยู่ในอ้อมกอด ตนจึงพยายามโทรศัพท์แจ้งผู้ใหญ่บ้านบ้านวังหิน ก่อนจะนำศพมาไว้ที่วัดบ้านวังหิน แล้วจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้นำศพไปชันสูติ ที่โรงพยาบาลพิมายเพื่อหาสาเหตุจากการเสียชีวิตที่แท้จริงก่อน จากนั้น จึงจะนำไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาได้