ทรงพระเจริญกึกก้อง ชาวฝรั่งเศสยกย่องขบวนเรือพระราชพิธียิ่งใหญ่ เป็นประเพณีที่หาชมได้ยากยิ่งในโลก (คลิป)

เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ที่บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 8 สวนหลวงพระราม 8 รัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศเชิญคณะทูตานุทูตและกงสุลต่างประเทศประจำประเทศไทย พร้อมคู่สมรส ทั้งที่มีถิ่นพำนักในประเทศไทย และในต่างประเทศ เข้าร่วม จำนวน 160 คน จาก 105 ประเทศ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา รวมทั้งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ มาเฝ้าฯ รับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ และร่วมชมความงดงามของริ้วขบวนเรือพระราชพิธี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สะพานพระราม 8 เจ้าหน้าที่ได้เปิดให้ประชาชนเข้าสู่พื้นที่ตามตัวอักษร เอ-เจ ตั้งแต่เวลา 13.18 น. โดยตัวอักษรหนึ่งมีประชาชนประมาณ 500-600 คน ต่างเข้ามาปักหลักรอรับเสด็จ แม้แดดร้อนก็ไม่ได้ย่อท้อ ใช้ร่มสีเหลืองที่ได้รับแจกกางกันแดด กระทั่งใกล้เวลาเสด็จฯ ประชาชนต่างเข้าสู่พื้นที่เนืองแน่นบริเวณริมน้ำ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลผู้สูงอายุ และผู้มีเด็กเล็กด้วย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้จัดเก้าอี้ และจอแอลอีดีขนาดใหญ่ 2 จอ ให้กับประชาชนได้ดูถ่ายทอด

เมื่อขบวนพยุหยาตราทางชลมารคเคลื่อนผ่าน ประชาชนที่รออยู่ที่ใต้สะพานพระราม 8 หลายพันคน ต่างเปล่งเสียงทรงพระเจริญกึกก้องไม่ขาดสาย และโบกธงพระปรมาภิไธยย่อ ว.ป.ร. และธงชาติไทยปลิวไสว บางคนนำกล้องและโทรศัพท์มือถือถ่ายภาพเก็บภาพความประทับใจ ประชาชนส่วนหนึ่งยังได้ใช้กล้องส่องทางไกลเพื่อมองขบวนเรือให้ชัดเจนด้วย โดยภายหลังจากขบวนเรือทั้งหมดเคลื่อนผ่านแล้ว ประชาชนต่างมาเฝ้าชมจอโทรทัศน์เพื่อดูการถ่ายทอดจนจบ

Advertisement

นายแดเนียล เฌอโบลท์ ชาวฝรั่งเศส กล่าวว่า อยู่เมืองไทยมาประมาณ 30 ปีแล้ว โดยมาสอนภาษาอังกฤษและฝรั่งเศสทางภาคใต้ของไทย ตอนนี้เกษียณแล้ว ในชีวิตเคยได้มาชมขบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารคมาแล้วครั้งหนึ่ง สมัยรัชกาลที่ 9 แต่ก็นานมากแล้ว ครั้งนี้จึงได้มาดู เห็นแล้วรู้สึกว่าน่าสนใจ แปลกดี เป็นสิ่งที่ไม่มีในประเทศอื่นๆ ในโลก ทั้งชุดของฝีพาย หรือการพายเรือ เรือพระราชพิธี มีความอลังการ ยิ่งใหญ่ เป็นประเพณีที่หาชมยาก หากมีโอกาสก็ควรมาชม โดยวันนี้ได้ถ่ายภาพไว้เพื่อจะส่งให้กับเพื่อน ญาติ รวมทั้งคนที่รู้จักที่เคยมาเมืองไทยได้ชม ว่าปีนี้เป็นปีที่พิเศษในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของไทย

นายเรวัต ชินบัญชร อายุ 85 ปี กล่าวว่า เคยได้ชมเรือพระราชพิธีเมื่อนานมาแล้ว ครั้งนี้ติดตามข่าวอยู่เสมอ เมื่อรู้ว่าจะมีพิธีก็มาพักที่คอนโดมิเนียมละแวกนี้แล้วค่อยเดินมาชมเรือ เมื่อเห็นขบวนเรือรู้สึกตื่นเต้น มีความสุข นับเป็นครั้งหนึ่งในชีวิต วันนี้มีโอกาสได้ถ่ายภาพเก็บไว้ ตั้งใจจะส่งให้กับผู้อื่นได้ชมด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณสวนสันติชัยปราการ ประชาชน นักท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่ต่างจับจองที่นั่งเพื่อเฝ้าฯรับเสด็จจนแน่นขนัดไปทั้งบริเวณ ขณะที่เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์เคลื่อนผ่าน ประชาชนต่างพร้อมใจเปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ” และโบกธงชาติ ธงสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 อย่างพร้อมเพรียงกัน ขณะเดียวกันประชาชนต่างให้ความสนใจใช้สมาร์ทโฟนบันทึกภาพแห่งประวัติศาสตร์เก็บไว้ด้วยความซาบซึ้งและปีติในหัวใจ ที่ได้ชื่นชมพระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์อย่างใกล้ชิด แม้ว่าริ้วขบวนพยุหยาตราทางชลมารคจะเคลื่อนผ่านไปแล้ว แต่ประชาชนยังคงปักหลักรับชมการถ่ายทอดสดผ่านจอแอลอีดีต่อไป

Advertisement

นางกองสุข มนตรีโพธิ์ อายุ 66 ปี ชาวอำเภอสตึก จ.บุรีรัมย์ เดินทางเพื่อมาร่วมเฝ้าฯรับเสด็จตั้งแต่เวลา 21.00 น.ของเมื่อวานนี้ โดยมาพักที่บ้านเพื่อนสนิทก่อนเดินทางมาเข้าจุดคัดกรองด้วยกันในช่วงเช้าของวันนี้ กล่าวว่า ตั้งใจเดินทางมาเฝ้าฯรับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ด้วยความรัก และเทิดทูนในสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งซึมซับจากรุ่นสู่รุ่นภายในครอบครัว สำหรับการเสด็จฯเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ตนเคยรับชมมาก่อนในรัชสมัยของในหลวงรัชกาลที่ 9 ในการเสด็จฯทอดพระกฐิน แต่ในครั้งนี้เป็นอีกครั้งที่รู้สึกปลาบปลื้มและปีติเป็นอย่างมาก เพราะเป็นการเสด็จฯเลียบพระนครทางชลมารคครั้งแรกในรัชสมัยของในหลวงรัชกาลที่ 10 ทั้งยังได้เฝ้าฯชื่นชมพระบารมีอย่างใกล้ชิดด้วย

“ขบวนเรืองดงามมาก ประทับใจมากๆ เพราะเราก็อายุมากแล้ว ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสแบบนี้อีกหรือไม่ ตั้งใจว่าจะมาร่วมงานพระราชพิธีของพระองค์ทุกครั้ง แต่พออายุมากก็ต้องเตรียมตัวเพิ่มขึ้น พกอาหาร น้ำ และยาติดตัวเอาไว้ แต่งานครั้งนี้ดีมากๆ พระองค์ทรงห่วงใยประชาชน มีอาหาร และร่มพระราชทาน ปีติมากๆ ทั้งวันนี้อากาศดีไม่ร้อนมาก สำหรับคำสอนของพระองค์ที่น้อมนำมาใช้คือการช่วยเหลือเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน ไม่จำเป็นต้องเป็นจิตอาสา หรือรับมาเป็นหน้าที่ เพราะเราสามารถช่วยเหลือกันได้ทุกวัน” นางกองสุข กล่าวด้วยรอยยิ้ม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image