ภายหลัง FLASH MOB ณ พื้นที่สกายวอล์ก ปทุมวัน เมื่อค่ำวันที่ 14 ธันวาคม ปรากฏขึ้น ทุกสายตาทอดมองไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยอัตโนมัติ
ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ไม่ว่าจะเป็นประชาชนทั่วไป
คำถามก็คือ จะจัดการอย่างไรกับ FLASH MOB
ไม่เพียงแต่เป็นคำถามเจาะประเด็นว่าจะจัดการอย่างไรกับพรรค อนาคตใหม่ จะจัดการอย่างไรกับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ตัวตั้งตัวตีในการเชิญชวนคนมาร่วม
เพราะหากมี “ท่าที” เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจะสามารถจัดการได้ถูก
เนื่องจาก FLASH MOB ผิดกฎหมายอย่างแน่นอน
คำถามอันต่อเนื่องมาก็คือ จะจัดการอย่างไรในเมื่อบรรทัดฐานที่เคยปฏิบัติในแต่ละระยะเวลามีความแตกต่างกัน
หลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 ก็อย่างหนึ่ง
หลังประกาศและบังคับใช้รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ก็อย่างหนึ่ง ก่อนการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 ก็อย่างหนึ่ง หลังการเลือกตั้ง เมื่อเดือนมีนาคม 2562 ก็อีกอย่างหนึ่ง
ความหมายก็คือ ไม่มีประกาศ คำสั่ง และคำสั่งหัวหน้าคสช.ตาม มาตรา 44 เหลืออยู่อีกแล้ว
วิธีการบริหารจัดการไม่ว่าจะมาจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าจะมาจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ย่อมแตกต่างไปตามแต่ละกาละและแต่ละเทศะในทางการเมือง
คำถามก็คือ จะจัดการกับ FLASH MOB แบบไหน จะจัดการกับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจและพรรคอนาคตใหม่อย่างไร
นอกเหนือจากมองไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มองไปยัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แล้ว ก็ยังมองไปยัง ผบ.ตร. มองไปยังรองผบ.ตร.ดูแลด้านความมั่นคงอีกด้วย
นั่นก็คือเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ขยับ
ผบ.ตร.และรองผบ.ตร.จะสำนองอย่างไร
ผบ.ตร.อาจจะเป็นคนเดิมแต่รองผบ.ตร.ดูแลด้านความมั่นคงมิได้เป็น พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล อีกแล้ว
นี่คือความระทึกในดวงหทัยหลัง FLASH MOB