เปิดแฮชแท็กดัง #สมคิดพุ่มพวง จากคนชอบขโมยตั้งแต่เด็ก สู่ฆาตกรต่อเนื่อง
ใครที่ใช้งานโซดเชียลมีเดีย ต่างต้องเจอกับข่าวการตามล่า ‘สมคิด พุ่มพวง’ กันบ้าง เพราะเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่ยังคงลอยนวลอยู่ เป็นที่น่าหวาดผวาแก่สังคม ที่กำลังช่วยกันตามหาอยู่ จนเป็นกระแสดังติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับที่ 2 #สมคิดพุ่มพวง เช้าวันนี้ (17 ธันวาคม)
โดยเพจเฟซบุ๊กดังอย่าง Poetry of Bitch ได้สรุปไทม์ไลน์ชีวิตฆาตกร สมคิด พุ่มพวง ความสำคัญ ดังนี้
ปูมหลังของสมคิด
สมคิด พุ่มพวง เกิดและโตที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ตั้งแต่จำความได้เขาไม่เคยเห็นหน้าแม่ พ่อบอกว่าแม่ตายไปแล้ว ต่อมาพ่อพาเขาย้ายไปอยู่บ้านแม่เลี้ยงที่ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เขามีนิสัยลักเล็กขโมยน้อยมาตั้งแต่เล็ก ๆ เมื่อเรียนอยู่ชั้น ป.2 เขาไปขโมยจักรยานของครูจนต้องออกจากโรงเรียน
สมคิดเป็นคนเงียบขรึม พูดน้อย ดื้อรั้น แต่เวลาพูดกับผู้หญิงมักมีคารมคมคายและหว่านล้อมเก่ง เขาเป็นคนไม่ยอมคน จึงมักมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับวัยรุ่นคนอื่น ๆ อยู่เนือง ๆ
เมื่อโตขึ้น สมคิดก็ยังมีนิสัยลักเล็กขโมยน้อยอยู่เหมือนเดิมจนลุงกับป้าระอา ทั้งขโมยเงินป้า ขโมยของเพื่อน แล้วยังขโมยจักรยานยนต์เพื่อนบ้านไปจำนำ โดยทำทีเป็นขอไปนอนค้างด้วย แล้วยืมรถขี่ออกไปซื้อของ ในที่สุดป้ากับลุงเขยก็ทนไม่ไหวจึงไล่สมคิดออกจากบ้าน แล้วจากนั้นก็ไม่มีใครเห็นเขาอีกเลย แม้แต่เมื่อพ่อถูกยิงเสียชีวิต เขาก็ไม่ได้มางานศพ ไม่มีใครรู้ว่าสมคิดไปอยู่ที่ไหน จนกระทั่งได้เห็นข่าวว่าสมคิดเป็นฆาตกรรมต่อเนื่อง
เหยื่อรายแรก มุกดาหาร
30 มกราคม 2548 สมคิดซึ่งตอนนั้นอายุ 41 ปี ได้ไปเปิดห้องพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในมุกดาหาร แล้วติดต่อพนักงานโรงแรมให้หาผู้หญิงมานอนด้วย ผู้หญิงเคราะห์ร้ายคือ นักร้องคาเฟ่วัย 25 ปี หลังจากร่วมหลับนอนกันแล้ว สมคิดจับวารุณีมัดมือไพล่หลังด้วยผ้าเช็ดหน้า ก่อนจับเธอกดน้ำจนเสียชีวิตคาอ่างอาบน้ำ แล้วขโมยสร้อยคอทองคำ โทรศัพท์มือถือ และจักรยานยนต์ของเธอไป
เหยื่อรายที่ 2 ลำปาง
4 มิถุนายน 2548 หมอนวดแผนโบราณ วัย 34 ปี อยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในลำปาง หลังร่วมหลับนอน สมคิดได้ใช้สายรัดที่นอนรัดคอผ่องพรรณจนขาดใจตาย แล้วขโมยแหวนทอง ต่างหูทอง และโทรศัพท์มือถือของเธอไป รวมมูลค่ากว่า 5,000 บาท ผลการชันสูตรศพ พบว่าผ่องพรรณกำลังตั้งครรภ์ 2 เดือน
เหยื่อรายที่ 3 ตรัง
11 มิถุนายน 2548 เพียง 1 อาทิตย์หลังจากฆ่าเหยื่อรายที่ 2 สมคิดก็เดินทางลงใต้ไป จ.ตรัง เขาชวนนักร้องคาเฟ่สาววัย 38 ปี ไปนอนด้วยที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ก่อนใช้สายไฟรัดคอเธอจนตาย แล้วขโมยโทรศัพท์มือถือและเงิน 2,000 บาทของเธอไป
เหยื่อรายที่ 4 อุดรธานี
18 มิถุนายน 2548 อีก 1 อาทิตย์ต่อมา สมคิดก็ไปโผล่ที่อุดรธานี โดยใช้ชื่อปลอมเปิดห้องที่โรงแรม แล้วชวนหมอนวดสาววัย 37 ไปร่วมหลับนอน ก่อนจะบีบคอเธอจนตายและเอาโทรศัพท์มือถือของเธอไป
ผ่านไป 2 วัน พนักงานโรงแรมไปทวงค่าโรงแรม แต่ประตูห้องล็อค จึงงัดเข้าไปและพบศพของพรตะวันนอนเปลือยอยู่ในอ่างอาบน้ำ ส่วนสมคิดหนีไปแล้ว
เหยื่อรายที่ 5 บุรีรัมย์
21 มิถุนายน 2548 เพียง 3 วันต่อมา สมคิดก็ไปโผล่ที่บุรีรัมย์ เขาไปใช้บริการนวดแผนโบราณที่โรงแรมแห่งหนึ่ง แล้วได้เจอกับหมอนวดสาววัย 25
สมคิดชวนสมปองไปร่วมหลับนอนที่แมนชั่นแห่งหนึ่ง แล้วฉวยโอกาสตอนเธอหลับบีบคอจนขาดใจตาย ก่อนเอาสร้อยคอทองคำ แหวน กระเป๋า และโทรศัพท์มือถือของเธอไป

และ เหยื่อรายที่ 6 ขอนแก่น
แม่บ้านโรงแรมวัย 51 ปี ใน จ.ขอนแก่น โดยเธอเป็นหม้ายมานานหลายปี ต่อมาได้รู้จักกับผู้ชายคนหนึ่งทางเฟซบุ๊ก เขาบอกว่าชื่อ “แขก” อายุ 55 ปี หลังพูดคุยทำความรู้จักกันได้ไม่นาน ทั้งสองก็ตกลงคบหาดูใจกัน
วันที่ 2 ธันวาคม 2562 นายแขกได้เดินทางมาอยู่กับรัศมีที่ขอนแก่น รัศมีจึงพาไปแนะนำให้ญาติพี่น้องรู้จักในฐานะแฟนใหม่ และบอกว่าจะแต่งงานกันเร็ว ๆ นี้
นายแขกบอกว่าตนเป็นคนนครศรีธรรมราช มีอาชีพเป็นทนายความ เปิดสำนักงานกฎหมายอยู่ที่พัทลุง
วันที่ 5 ธันวาคม รัศมีได้โทรหา “จักรกฤษ” ลูกชายวัย 25 ของเธอ และเล่าให้ลูกฟังว่า มีแฟนใหม่มาอยู่ด้วย รักกันมาก กำลังจะไปออกรถยนต์ด้วยกันเพื่อค้าขายอาหารทะเล
เช้าวันที่ 15 ธันวาคม เพื่อนบ้านได้ยินเสียงคนทะเลาะกันดังมาจากบ้านของรัศมี และได้ยินเสียงรัศมีร้องขอความช่วยเหลือ จึงเข้าไปดูที่บ้าน แต่สมคิดปิดประตูไม่ให้เข้า แล้วเปิดม่านหน้าต่างบอกว่าไม่มีอะไร รัศมีต้องการพักผ่อน
เพื่อนบ้านจำเป็นต้องกลับออกมา แต่ก็ยังโทรศัพท์ไปบอกญาติของรัศมีและโทรแจ้งตำรวจ แต่เมื่อญาติ ๆ และตำรวจมาถึงก็ไม่พบทั้งสองคนอยู่ที่บ้าน จึงเดินทางกลับไป
เย็นวันเดียวกัน ญาติและเพื่อนบ้านไม่เห็นรัศมีออกจากบ้าน จึงพาตำรวจเข้าไปดูในบ้านอีกครั้ง และพบศพของรัศมีในสภาพท่อนล่างเปลือย ท่อนบนสวมเสื้อยืด ลำคอถูกพันด้วยเทปใส ข้อเท้าถูกมัดด้วยสายชาร์จแบตตเตอรี่มือถือ
โดยฆาตกรเอาผ้าห่มมาห่อศพของรัศมีไว้ และซ่อนศพไว้ระหว่างที่นอน 3 ฟุต 2 อัน แล้วเอาที่นอน 6 ฟุตวางทับอีกที ส่วนนายแขกหายตัวไปแล้ว รถจักรยานยนต์ของรัศมีก็หายไปด้วย
ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานจนพบว่า นายแขกก็คือนายสมคิด พุ่มพวง นั่นเอง จึงขอศาลออกหมายจับในข้อหาฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
วันที่ 16 ธันวาคม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้ชี้แจงกรณีนายสมคิดว่า ขณะถูกควบคุมตัวในเรือนจำ นายสมคิดเป็นนักโทษที่มีความประพฤติดี เรียบร้อย จนได้เป็นนักโทษชั้นเยี่ยมและได้รับการลดโทษเรื่อยมา
กรมราชทัณฑ์จะทบทวนกระบวนการกลั่นกรองเพื่อลดหย่อนผ่อนโทษ และพร้อมให้เบาะแสข้อมูลกับตำรวจเพื่อจับกุมตัวนายสมคิดมาดำเนินคดีต่อไป
ส่วนที่มาของฉายา “คิด เดอะ ริปเปอร์” นั้น เนื่องจากข่าวสมคิดดังมากเมื่อปี 2548 สื่อได้ให้ฉายาเขาว่า “คิด เดอะริปเปอร์” เพราะพฤติกรรมคล้าย “แจ็ค เดอะ ริปเปอร์” (Jack the Ripper) ฆาตกรต่อเนื่องชาวอังกฤษเมื่อ 131 ปีที่แล้ว ซึ่งสังหารเหยื่อหลายรายอย่างโหดเหี้ยม โดยเหยื่อส่วนใหญ่เป็นหญิงขายบริการ ซึ่งปัจจุบันก็ยังไม่รู้ว่าแจ็ค เดอะ ริปเปอร์คือใคร
ขอบคุณข้อมูลจากเพจ Poetry of Bitch
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
– กองปราบไล่ล่า”สมคิด พุ่มพวง”ฆาตกรต่อเนื่อง ฆ่าหมอนวด5ศพ พ้นคุกฆ่าสาวใหญ่ศพที่6