นักธุรกิจโรงไม้ สุราษฎร์ ถูกมิจฉาชีพลวงขอรหัสธนาคาร ถอนเงินกว่า 1 ล้าน (คลิป)

เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) สาขาบ้านตาขุน อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี นางศุภธียา สรรพา หรือเจ๊หงส์ อายุ 55 ปี พร้อมนาย สมสุข สรรพา อายุ 54 ปี 2 สามีภรรยานักธุรกิจเจ้าของกิจการค้าไม้ และค้าเหล็ก อยู่บ้านเลขที่ 30 หมู่ที่ 1 ต.เขาวง อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี ได้ยืนถือป้ายพร้อมข้อความ “ช่วยด้วยฝากเงินกับธนาคาร สาขาบ้านตาขุน เงินหาย ใครรับผิดชอบ” ซึ่งได้มีชาวบ้านและลูกค้าธนาคารเกิดข้อสงสัยและถ่ายรูปโพสต์โซเชียลแชร์กันแพร่หลาย

นางศุภธียา กล่าวว่า ได้เปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ทวีโชค ธกส.สาขาบ้านตาขุน เมื่อเดือน ม.ค.61 เป็นบัญชีเก็บเงินค้าขาย โดยไม่ได้มีการเบิกมาใช้และมียอดเงินล่าสุด 2,033,000 บาท กระทั่งเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.62 เวลา 14.01 น.ได้มีผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ หมายเลข 099-1598260 โทรเข้ามาที่มือถือตนและอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ ธกส.สาขาบ้านตาขุน จะขอตรวจ สอบความถูกต้องของบัญชี แต่ตนเองขอวางสายเนื่องจากติดลูกค้า

Advertisement

หลังจากนั้น 20 นาที กลับมาที่โต๊ะทำงานได้รับแจ้งจากเสมียนซึ่งเป็นหลานสาวว่า มีเจ้าหน้าที่ ธกส.สาขาบ้านตาขุน โทรศัพท์เข้ามาเพื่อให้ยืนยันข้อมูลทางบัญชีซึ่งได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ตนเกิดเอะใจจึงโทรกลับไปที่เบอร์โทรดังกล่าว แต่ไม่มีผู้รับสายจึงเกิดความร้อนใจได้ไปติดต่อที่ธนาคารอยู่ห่างบ้านประมาณ 4 กิโลเมตร แต่ตนไม่เข้าใจ คิดว่าทางธนาคารต้องการให้ตนใช้บริการแอพพลิเคชั่น เอ-โมบาย ของธนาคาร ซึ่งเจ้าหน้าที่แจ้งว่าลูกค้าต้องทำรายการด้วยตนเองเท่านั้น จึงกลับมาที่ร้านพบว่าโทรศัพท์มีแอพพลิเคชั่นนี้อยู่แล้วและปกติก็ใช้แอพพลิเคชั่นธนาคารต่างๆ อยู่จึงตัดสินใจนำสมุดเงินฝากกลับไปปรับบัญชีที่ธนาคารอีกครั้งจนพบว่า เงินถูกเบิกถอนผ่านแอพพลิเคชั่น 14 ครั้ง เป็นเงินกว่า 1 ล้านบาท จึงให้ธนาคารอายัดเงินที่เหลือในบัญชี 1,013,000 บาทและไปแจ้งความร้องที่สภ.บ้านตาขุน

ด้านนายพยุงศักดิ์ โภคภิรมย์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ธกส.จังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า หลังรับแจ้งจากลูกค้าได้ตรวจสอบความเคลื่อนไหวบัญชี พบว่ามีการเบิกเงินสดผ่านตู้เอทีเอ็มโดยไม่ใช้บัตรที่ธนาคาร ธกส.สาขากำแพงเพชร 20,000 บาท และมีการโอนเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ไปยังหมายเลขโทรศัพท์ 0823169256 ของธนาคารไทยพาณิชย์ เจ้าของชื่อ MR.Kyaw Kyaw ซึ่งเป็นโทรศัพท์มือถือระบบดีเทคแบบเติมเงิน ของชาวเมียนมา จำนวน 500,000 บาท และถูกโอนต่อไปยังธนาคารกสิกรไทย มีเจ้าของบัญชีเป็นคนไทย ทั้งนี้ในส่วนแรก ประสานธนาคารปลายทางทำการอายัดเงินดังกล่าวไว้ได้ ส่วนอีก 500,000 บาทถูกโอนเข้าบัญชีธนาคารกรุงเทพ ที่มีเจ้าของบัญชีเป็นคนไทยได้ถูกถอนไปแล้ว ธนาคารจึงได้ส่งเอกสารทางบัญชีให้ตำรวจ สภ.บ้านตาขุน ดำเนินการสอบสวน

Advertisement

นายพยุงศักดิ์ กล่าวว่า ขอยืนยันว่า แอพพลิเคชั่นของธนาคารมีความปลอดภัย แต่ปัญหาที่เกิดขึ้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบ เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดและเกี่ยวข้อง โดยบัญชีดังกล่าวถูกมิจฉาชีพโทรศัพท์เข้าไปหาลูกค้าขอรหัสความปลอดภัย หรือ OTP ซึ่งเป็นรหัสที่ระบบของธนาคารจะส่งไปยังหมายเลขโทรศัพท์ที่ผูกกับบัญชีของลูกค้าเท่านั้น จึงฝากเตือนไปยังลูกค้าว่า ธนาคารไม่มีนโยบายให้พนักงานโทรติดต่อเพื่อขอข้อมูลส่วนตัว หรือรหัสพาสเวิร์ดใดๆ ซึ่งการดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลทางบัญชี ลูกค้าจะต้องดำเนินการด้วยตนเองที่ธนาคารสาขาที่เปิดบัญชีเท่านั้น และหากสงสัยให้ติดต่อธนาคารทันที ห้ามมอบข้อมูลใดๆให้กับผู้ที่โทรเข้ามา

พ.ต.ท.มะนพ มะโรตระกูล สารวัตร (สอบสวน) สภ.บ้านตาขุน เจ้าของคดี กล่าวว่า ขณะนี้ได้รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฝ่ายสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎรธานี ให้เข้าคลี่คลายคดี เนื่องจากเป็นคดีที่ใช้เทคโนโลยีในการก่ออาชญากรรม เบื้องต้นได้ทำหนังสือประสานไปยังธนาคารที่คนร้ายโอนเข้าบัญชีขอข้อมูลเจ้าของบัญชี และประสานไปยังบริษัทดีแทคเพื่อขอข้อมูลผู้ใช้โทรศัพท์ นอกจากนั้นทางธนาคาร ธกส.ได้ส่งภาพกล้องวงจรปิดคาดว่าคนร้ายเป็นชาย 1 คนสวมหน้ากากอนามัย และหมวกปิดบังใบหน้าไปกดเงินที่ธนาคาร สาขากำแพงเพชร หลังจากนี้จะได้เรียกผู้เสียหายและผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนปากคำต่อไป

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน
 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image