จากกรณีมีคนร้ายขโมยรถกระบะ 4 ประตู มาจากพื้นที่ จ.มหาสารคาม ต่อมาช่วงดึกเมื่อวานคนร้ายได้นำรถมาจอดทิ้งไว้ภายในซอยแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองยโสธร แต่ไม่พบตัวคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุ และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อายัดรถคันดังกล่าวนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 17 ธันวาคม น.ส.เมลดา อยู่วิจิตร อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 104 หมู่ 3 ต.คูขาด อ.คง จ.นครราชสีมา เจ้าของรถ ได้เดินทางไปพบกับ ร.ต.อ.สัญชัย จงรักษ์ รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองยโสธร เพื่อนำหลักฐานไปติดต่อขอรับรถกระบะ 4 ประตูสีขาวยี่ห้อโตโยต้า คันทะเบียน กง-4246 มหาสารคาม กลับคืนหลังจากที่เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (16 ธ.ค.) ได้ขับรถกระบะคันดังกล่าวไปจอดในพื้นที่เทศบาลเมืองมหาสารคาม แต่ไม่ได้ดับเครื่องยนต์ ก่อนลงจากรถเดินไปซื้อน้ำเต้าหู้ห่างจากรถประมาณ 15 เมตร แต่พอกลับมาที่รถ กลับไม่พบรถ จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์เอาไว้ที่ สภ.เมืองมหาสารคาม เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยออกติดตามรถกระบะ พร้อมทั้งได้มีการโพสต์ขอความช่วยเหลือในโซเชียลมีเดีย
จนกระทั่งมีการแชร์ออกไปจำนวนมากและมีสมาชิกโซเชียลมีเดียรายหนึ่งแจ้งว่าพบรถกระบะคันดังกล่าวไปจอดทิ้งเอาไว้ในซอยเปลี่ยวแห่งหนึ่งในพื้นที่บ้านศาลาแดง ต.เขื่องคำ อ.เมืองยโสธร จึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองยโสธร ไปตรวจสอบในเวลาประมาณ 22.00 น. ของคืนที่ผ่านมาและได้พบรถกระบะจอดอยู่จริง แต่ไม่พบผู้ขับ จึงได้ตรวจยึดรถกระบะคันดังกล่าวมาเก็บรักษาไว้ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองยโสธร ก่อนจะได้ประสานกับผู้เสียหายให้ไปติดต่อขอรับรถกลับคืนไป
นางสาวเมลดา ผู้เสียหาย ได้ดูภาพผู้ต้องสงสัยที่เป็นคนลักรถกระบะ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเอาให้ดู ก็ยืนยันว่าเป็นเป็นบุคคลคนเดียวกันที่เดินสวนทางกันในระหว่างที่ตนออกจากรถเพื่อไปซื้อน้ำเต้าหู้แล้วรถกระบะของตนก็ถูกลักหายไป ซึ่งบุคคลดังกล่าว ทราบชื่อ นายคิดชัย พรมวงศ์ ชาวอำเภอเมืองยโสธร ที่เคยมีประวัติขอยืมรถยนต์ของคนอื่นไปทำธุระแล้วนำรถไปจำนำต่อจนเคยมีผู้เสียหายในพื้นที่ยโสธรหลายรายเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเรียกตัว นายคิดชัย มาตกลงเจรจากัน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่รับเป็นคดีเนื่องจากผู้เสียหายส่วนใหญ่เป็นคนรู้จักกับผู้ก่อเหตุ จึงยังไม่มีการดำเนินคดีใดๆ กับนายคิดชัย แต่ขณะนี้รถหลายคันที่นายคิดชัย นำไปจำนำไว้ก็ยังไม่ได้รับคืน จึงอาจจะเป็นไปได้ว่า นายคิดชัย ยังคงไปตระเวนก่อเหตุในพื้นที่ใกล้เคียงอีก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุรายนี้ไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
