‘ตลาดร่มหุบ’ ความย้อนแย้งที่ ‘แม่กลอง’

ตลาดร่มหุบ

‘ตลาดร่มหุบ’ ความย้อนแย้งที่ ‘แม่กลอง’

“ตลาดร่มหุบ” หรือ Romhub Market หรือ Talad Rom Hub ที่พบเห็นอยู่มากมายหลายคลิปใน youtube กลายเป็นแลนด์มาร์กสำคัญในรอบปี 2562 ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งจากอเมริกา ยุโรปและเอเชีย ต่างต้องเดินทางมาเห็นกับตา ถึงความเป็นอะเมซิ่ง ความเป็นตลาดที่น่าหวาดเสียวที่สุดในโลก หรือตลาดเสี่ยงตาย

จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางกันมามีจำนวนมากในแต่ละวัน หากเป็นช่วงเสาร์-อาทิตย์ ราวกับการแสดงรถไฟโชว์ด้วยซ้ำ ด้วยสภาพพื้นที่เป็นชุมชนตลาดซื้อขาย ไม่ได้อำนวยให้เดินทางเข้ามาเพื่อรอถ่ายรถไฟ แต่เมื่อเป็นจุดที่คนทั่วโลกให้ความสนใจ ทั้งยอดคนดูแต่ละคลิป และจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาชมถึงพื้นที่ จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้วว่า จะกันมิให้คนเดินทางเข้ามา

คมสันต์ สุมะนาถ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวว่า เรื่องความปลอดภัยนั้นทางสถานีรถไฟสายแม่กลองจัดเจ้าหน้าที่ 2 คน ร่วมกับตำรวจท่องเที่ยว 3 นาย และอาสาตำรวจท่องเที่ยว ดูแลและบริการนักท่องเที่ยวตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะช่วงรถไฟเข้าและออก ตลาดร่มหุบมีความยาวประมาณ 200 เมตร แต่อาจดูแลนักท่องเที่ยวไม่ทั่วถึง

ส่วนความสะอาดจะรับผิดชอบ 2 ส่วน ส่วนแรกพื้นที่ของการรถไฟฯ ร้านค้าจะเป็นผู้รับผิดชอบ สถานีรถไฟสายแม่กลองได้ทำป้ายทิ้งขยะ 3 ภาษา เตรียมไว้ให้ที่สถานี ส่วนรอบนอกจะไม่ตั้งถังขยะให้เสียบรรยากาศ แต่ให้ร้านค้าเก็บขยะใส่ถุงดำ ส่วนเรื่องรสบัส ให้ไปจอดที่ลานศาลากลางจังหวัดสมุทรสงครามแห่งเดียว จะมีรถชมวิวของ อบจ.สมุทรสงครามมารับไปส่งที่ลานวัดเพชรสมุทรวรวิหาร ส่วนรถตู้และรถยนต์ส่วนบุคคลสามารถจอดได้ที่หน้าศาลากลางจังหวัด, ลานวัดเพชรสมุทรวรวิหารและลานวัดป้อมแก้ว

Advertisement

“ผู้ประกอบการท่องเที่ยวส่วนใหญ่เข้าใจถึงปัญหาจึงยินดีนำรถบัสไปจอดหน้าศาลากลาง มีเพียงส่วนน้อยที่ต้องการเอาใจลูกทัวร์ และบางรายก็ต้องรีบทำเวลาเพื่อไปเที่ยวสถานที่อื่น จึงเตรียมออกเป็นประกาศจังหวัดสมุทรสงคราม กำหนดมาตรการบังคับ หากรถนำนักท่องเที่ยวคันใดฝ่าฝืนต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด และจะส่งเลขทะเบียนไปยังกรมการท่องเที่ยวเพื่อเพิกถอนใบอนุญาตบริษัทนำเที่ยวเจ้าของรถคันก่อเหตุต่อไป”

คมสันต์กล่าวอีกว่า ต่อมามีผู้ร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีจังหวัดสมุทรสงครามกำหนดมาตรการกับนักท่องเที่ยว ที่เดินทางมาตลาดร่มหุบกำหนดให้มัคคุเทศก์ ต้องนำรถบัสไปจอดที่ศาลากลางจังหวัดก่อน แล้วจึงเดินทางต่อไปยังตลาดร่มหุบ โดยรถชมวิวที่จังหวัดจัดเตรียมไว้ให้ ทางผู้ร้องเรียนเห็นว่าการกระทำมาตรการดังกล่าว ทำให้ผู้ประกอบการอาชีพมัคคุเทศก์ได้รับความเดือดร้อน ไม่สามารถนำนักท่องเที่ยวไปท่องเที่ยวตามโปรแกรมตามเวลาที่กำหนดได้ จึงขอให้จังหวัดสมุทรสงครามผ่อนปรน หรือทบทวนเพื่อแก้ไขความขัดแย้งดังกล่าว

โดยผู้ตรวจการแผ่นดินจะลงพื้นที่ ในวันที่ 26 ธันวาคม 2562 เวลา 10.00 น. ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ตลาดร่มหุบ และระหว่างเวลา 13.00-16.30 น.จะร่วมประชุมรับฟังข้อเท็จจริง ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดสมุทรสงคราม

Advertisement

เมื่อย้อนกล่าวไปถึงรถไฟสายแม่กลองเป็นบริษัทเอกชน 2 บริษัท คือ “บริษัทรถไฟท่าจีนจำกัด” รับสัมปทานเดินรถจากสถานีคลองสานถึงมหาชัย ระยะทาง 33.1 กม. ตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค.2444 และ “บริษัทแม่กลองทุนจำกัด” รับสัมปทานเดินรถจากสถานีบ้านแหลมถึงสถานีแม่กลองระยะทาง 33.8 กม. ตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย.2448 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้มีพระบรมราชานุมัติเมื่อวันที่ 6 ต.ค.2451 ให้รวมบริษัททั้ง 2 เป็นบริษัทเดียว เรียกชื่อว่า “บริษัทรถไฟแม่กลองทุนจำกัด”

ครั้งสิ้นสุดสัมปทานเมื่อวันที่ 14 ส.ค.2488 รัฐบาลได้รับซื้อกิจการต่อในราคา 2 ล้านบาท เปลี่ยนฐานะเป็น “องค์การรถไฟสายแม่กลอง” สังกัด “กรมรถไฟ” ต่อมา “กรมรถไฟ” ได้เปลี่ยนเป็น “การรถไฟแห่งประเทศไทย” ส่วน “องค์การรถไฟสายแม่กลอง” เปลี่ยนเป็น “สำนักงานรถไฟสายแม่กลอง” ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2495 และเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2503 คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบให้ย้ายสถานีต้นทางจากสถานีคลองสานไปตั้งต้นที่วงเวียนใหญ่ เพื่อให้เทศบาลธนบุรีเช่าใช้พื้นที่ การรถไฟแห่งประเทศไทยจึงสร้างสถานีวงเวียนใหญ่เพื่อเปิดบริการเดินรถ แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 1 ม.ค.2504

ต่อมาได้ยุบ “สำนักงานรถไฟสายแม่กลอง” เป็น “งานเดินรถแขวงสมุทรสาคร” เมื่อวันที่ 15 ม.ค.2540 จนถึงปัจจุบัน รถไฟสถานีแม่กลองมีเพียงขบวนเดียวเท่านั้น ประมาณ 2-3 ตู้ วิ่งไปมาระหว่างแม่กลอง จ.สมุทรสงคราม กับ ท่าฉลอม จ.สมุทรสาคร รถไฟจะวิ่งเข้าออกวันละประมาณ 8 เที่ยว โดยขาออก เวลา 06.30 น.,09.00 น.,11.30 น., 15.30 น. ส่วนขาเข้าเวลา 08.30 น.,11.10 น., 14.30 น.,และ 17.40 น.

เมื่อกล่าวถึง “ตลาดร่มหุบ” เป็นวิถีของท่องเที่ยวมาตั้งแต่ปี 2448 ตั้งแต่เปิดรางรถไฟ ชาวแม่กลองจะนั่งรถไฟไปซื้อสินค้าที่มหาชัย และกลับมานั่งขายที่ริมรางรถไฟ เนื่องจากเป็นจุดสำคัญที่มีประชาชนจำนวนมาก ด้วยความแปลกของตลาดแห่งนี้ที่เหล่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้าจะตั้งแผงริมทางรถไฟ และจะหุบร่มหลบเมื่อรถไฟวิ่งผ่านจนได้รับการขนานนามว่า “อะเมซิ่งไทยแลนด์”

ทิพากร จันทร์แถม ผู้แทนสมาพันธ์มัคคุเทศก์อาชีพการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การท่องเที่ยวตลาดร่มหุบเติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะความแปลกทำให้มีชื่อเสียงโด่งดังในระดับโลก ต่างต้องการมาสัมผัสบรรยากาศเสี่ยงตายตลาดร่มหุบ

ที่ผ่านมามัคคุเทศก์ไม่มีปัญหาในการปฏิบัติหน้าที่ แต่ยอมรับว่ามัคคุเทศก์เป็นตัวสร้างปัญหาให้กับตลาดร่มหุบ เนื่องจากตลาดร่มหุบขายของให้กับคนไทย นักท่องเที่ยวต่างชาติเพียงแค่เข้ามาดูรถไฟเข้าออกผ่ากลางตลาด สภาพก็แคบมาก ขณะที่นักท่องเที่ยวจำนวนมากแออัดทางรถไฟ ลูกค้าคนไทยจึงไม่เข้าไปซื้อ แม่ค้าก็ขายของไม่ได้ ขยะก็เยอะ การจราจรก็ติดขัด

แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่านักท่องเที่ยวต่างชาติระบุกับบริษัทนำเที่ยวว่าจะต้องมาดูตลาดร่มหุบให้ได้ มัคคุเทศก์ไม่ได้กำหนดโปรแกรมนี้แต่ต้องทำตามบริษัททัวร์ ที่ผ่านมาพยายามทำความเข้าใจกับลูกทัวร์ ให้ระมัดระวังในการท่องเที่ยวก่อนจะลงจากรถ แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ จึงขอเสนอลดตารางเวลารถไฟให้จอดนอกสถานี เพื่อลดจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงเวลาดังกล่าวที่จะเข้ามาแออัดเพื่อดูรถไฟ อีกทั้งขอให้หาที่จอดรถบัสให้กับบริษัททัวร์ด้วย

แม้ผู้ค้าส่วนหนึ่งจะมองว่านักท่องเที่ยวเป็นตัวสร้างปัญหา แต่ก็มีส่วนหนึ่งที่ปรับตัวใช้วิกฤตให้เป็นโอกาส เปลี่ยนสินค้าที่เป็นความต้องการของนักท่องเที่ยว เช่น น.ส.ณภพ รัฐมนตร์ อายุ 37 ปี แม่ค้าขายของที่ระลึก บอกว่า เมื่อมีนักท่องเที่ยวเข้ามามาก จึงเห็นโอกาสสร้างรายได้ ตนจึงจัดจำหน่ายของที่ระลึกที่มีอัตลักษณ์ของจังหวัดสมุทรสงคราม โดยเฉพาะรถไฟสายแม่กลอง และใส่ชุดไทยแสดงความเป็นไทย ได้ผลตอบรับเป็นอย่างดีมีลูกค้าชาวต่างชาติซื้อไปเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้นก็ยิ่งสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านมากขึ้น หากในอนาคตมีการประชาสัมพันธ์นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้มากขึ้น หรือขีดเส้นแสดงความปลอดภัยไม่ให้นักท่องเที่ยวล้ำเส้นเข้าไปใกล้รถไฟมากเกินไป ก็จะสามารถสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวความเป็นวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ กับ อะเมซิ่งไทยแลนด์ จะทำอย่างไรให้เกิดความสมดุล เป็นคำถามที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องขบคิดเพื่อหาทางออกที่เหมาะสม เพราะหากเอาใจนักท่องเที่ยวต่างชาติหวังรายได้เข้ากระเป๋า คนในพื้นที่ก็ต้องทนทุกข์อยู่กับปัญหา

แต่หากจะยึดหลักปิดเมืองไม่สนคนภายนอก ก็กระทบนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image