จับวัยรุ่นต้องสงสัยฉุด น.ร.หญิง 13 ปี ขึ้นกระบะจากหน้าบ้าน ก่อนเอาไปปล่อยหน้าวัด

เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ที่ จ.นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสมใจ นิลคูหา อายุ 36 ปี พร้อมด้วย นายอนุสรน์ นิลคูหา สามี อยู่บ้านเลขที่ 728/2 หมู่ 8 บ้านคลองปูน ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เข้าพบ พ.ต.ท.ฉัตรวัชร์ กิตติสาริสิทธิร์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.หมูสี อ.ปากช่อง และ ร.ต.อ.สถิตย์ จันทีนอก รอง สว.สอบสวน ทำหน้าที่ร้อยเวร พร้อมรายงานให้ พ.ต.อ.พิชิต มีแสง ผกก.สภ.หมูสี ทราบ

นางสมใจกล่าวว่า ช่วงเวลาประมาณ 07.10 น. ด.ญ.น้ำ (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี ลูกสาว ซึ่งเรียนอยู่ที่โรงเรียนบ้านท่าช้าง ต.หมูสี ชั้น ม.1 ขณะจะไปโรงเรียนและนั่งรอรถอยู่บริเวณริมถนน บ้านคลองปูน-บ้านคลองดินดำ มีคนร้ายขับรถกระบะยี่ห้อเชฟโรเลต แค็บ ไม่ทราบรุ่นและทะเบียน มาจอด แล้วคนร้ายน่าจะมาไม่น้อยกว่า 2-3 คน ลงมาฉุดลูกสาวขึ้นรถ ลูกสาวร้องเสียงดัง ตนวิ่งออกจากบ้านมาดู พบรถกระบะคันดังกล่าวขับมุ่งหน้าไปทางบ้านคลองดินดำเข้าถนนทางหลวงชนบท เขาใหญ่-วังน้ำเขียว ไม่ทราบว่ามุ่งหน้าไปทางไหน พบเพียงกระเป๋านักเรียนวางอยู่หน้าบ้าน

นางสมใจกล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา ลูกสาวเล่าให้ฟังว่า ช่วงเช้ามีรถกระบะคันเดียวกัน มีชายอายุประมาณ 30 ปี ขับวนไปมาอยู่หลายรอบแล้วมาจอดถามลูกสาวว่าบ้านคลองดินดำไปทางไหน ตนบอกลูกสาวให้ระวังตัว ซึ่งลูกสาวเป็นเด็กนิสัยดี กลับจากโรงเรียนไม่เคยออกไปเที่ยวที่ไหน ส่วนการเล่นไลน์เล่นเฟซบุ๊กก็พบว่าส่วนใหญ่สนใจแต่เรื่องภาพหมา-แมว และไม่เคยมีนักเรียนชาย หรือผู้ชายมาพูดคุยเชิงชู้สาว เพราะยังเด็ก รูปร่างผอม คิดว่าคนร้ายจงใจมาฉุดลูกสาวไป และลูกสาวนำโทรศัพท์ติดตัวไปด้วย แต่เมื่อโทรติดต่อไปโทรศัพท์ถูกกดตัดสาย ไม่ทราบว่าเป็นตายร้ายดี

ด้าน ร.ต.อ.สถิตย์ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนไปตรวจสอบหลักฐานกล้องวงจรปิด จุดสามแยกต่างๆ ถนนเชื่อมต่อกัน ถ้ามีกล้องวงจรปิดคาดว่าต้องพบรถคันดังกล่าววิ่งผ่านมา คาดว่าคนร้ายมีไม่น้อยกว่า 2-3 คน ซึ่งในพื้นที่ไม่เคยเกิดขึ้น จึงเตือนประชาชนที่มีลูกหลานต้องระวังคนแปลกหน้า เพราะเคยมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในท้องที่อื่นมาแล้ว

Advertisement

ต่อมา เมื่อเวลา 10.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ฉัตรวัชร์ได้รับแจ้งจากครูโรงเรียนบ้านท่าช้าง ว่าผู้ก่อเหตุได้นำ ด.ญ.น้ำ มาปล่อยบริเวณหน้าวัดบ้านท่าช้าง ด.ญ.น้ำ ร้องไห้และวิ่งเข้าไปยังโรงเรียนที่อยู่ตรงข้าม แจ้งให้ครูทราบ ครูจึงได้แจ้งให้พ่อแม่ ด.ญ.น้ำ ไปรับตัวมายัง สภ.หมูสี โดยนางสมใจวิ่งเข้าไปกอดลูกสาวด้วยความดีใจ ซึ่ง ด.ญ.น้ำ เอาแต่ร้องไห้ไม่ยอมพูดอะไร โดย ด.ญ.น้ำ อยู่ในชุดกางเกงวอร์มขายาวสีดำ สวมเสื้อสีแดง และสวมเสื้อกันหนาวทับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ศักดิ์ศรี ไกรราช รอง ผกก.สส.ได้รับแจ้งจากนายรนกร ไหวฉลาด อายุ 29 ปี ญาติที่ออกตามหาว่าพบรถกระบะแค็บ ยี่ห้อเชฟโรเลต สีขาว ทะเบียน 2ฒฏ 5721 กรุงเทพมหานคร ขับออกมาจากหมู่บ้านเลือดไทย ไม่ห่างจากจุดเกิดเหตุมาก คาดว่าน่าจะเป็นรถคันก่อเหตุ โดยรถคันดังกล่าววิ่งไปทางหมู่บ้านโป่งตาลอง จึงได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวนติดตาม สามารถควบคุมตัวได้บริเวณหมู่บ้านหนองกรวด ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 7 กิโลเมตร ทราบชื่อเล่นคือ นายเกียรติ หรือนายวุฒิชัย เทียบขุนทด อายุ 18 ปี ยังเป็นเยาวชน ควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.หมูสี ขณะนั้นมีญาติ ด.ญ.น้ำ กว่า 20 คน ยืนรอ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจนำผู้ต้องหาลงจากรถเข้าห้องสอบสวน ญาติๆ ของ ด.ญ.น้ำ จึงกรูเข้าไปจะทำร้าย แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกันออกไป จากการสอบสวน นายเกียรติให้การปฏิเสธ บอกไม่รู้อะไร และลงมือกี่คน ไม่ยอมให้การใดๆ

ด้าน พ.ต.อ.พิชิตกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาและควบคุมตัวเอาไว้ได้แล้ว เนื่องจากผู้ต้องหายังเป็นเยาวชน การสอบสวนจะต้องมีหลายฝ่ายมาร่วมกันสอบสวน แต่เบื้องต้นยังให้การปฏิเสธ และเด็กหญิงผู้เสียหายก็ยังไม่พูดอะไร อยู่ระหว่างขั้นตอนการสอบสวน คงจะต้องส่งตัวเด็กหญิงไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลว่ามีการถูกทำร้ายร่างกายหรือไม่ แต่เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ต้องตั้งข้อหาพรากผู้เยาว์ไว้ก่อน หลังสอบสวนผู้เสียหายแล้วมีประเด็นใดจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมภายหลัง

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image