‘พช.-สภาสตรีฯ’ เอ็มโอยู จ.แพร่ อนุรักษ์ผ้าไทย สร้างรายได้ชุมชน

เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม ที่โรงแรมแม่ยมพาเลส อ.เมืองแพร่ จ.แพร่  นางวันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ พร้อมด้วย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน(พช.) และ นางรชตภร โตดิลกเวชช์ ประธานคณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ นางกานต์เปรมปรีด์ ชิตานนท์ ผู้ว่าราชการ จ.แพร่ ขับเคลื่อนโครงการสืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน กับจ.แพร่ ซึ่งการลงนามบันทึกข้อตกลงความความร่วมมือ ตามโครงการ “สืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน จ.แพร่” ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อสืบสานพระราชปณิธานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยการอนุรักษ์ ส่งเสริมและเผยแพร่ผ้าไทยอันมีอัตลักษณ์และทรงคุณค่า ศิลปะอันล้ำค่าของชาติให้ดำรงอยู่ปรากฏเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย และให้ทั่วโลกได้ชื่นชม อีกทั้งช่วยเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้เกิดกระแสความนิยมการแต่งกายด้วยผ้าไทย โดยเน้นในกลุ่มข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ลูกจ้างหน่วยงานของรัฐให้ใช้ผ้าไทยอย่างต่อเนื่อง นำมาซึ่งทุกคนได้มีส่วนร่วมสืบสาน อนุรักษ์ผ้าท้องถิ่นไทยให้คงอยู่คู่แผ่นดิน และที่สำคัญเพื่อเป็นสนับสนุน ส่งเสริมการสร้างงาน สร้างอาชีพ และเสริมสร้างรายได้ให้กลุ่มสตรีในท้องถิ่น

นางวันดี  กล่าวว่า ภารกิจของสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์กิจกรรมหลักจะเป็นเรื่องของสตรี มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพอาชีพสืบสานโครงการตามพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชนนีพันปีหลวงเมื่อได้ทำโครงการอนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทยดำรงไว้ในแผ่นดิน ทำให้เข้าใจถึงกรรมวิธีการผลิตการใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นเป็นงานทรงคุณค่าและเป็นงานภูมิปัญญาที่สืบทอดสู่รุ่นหลานดังนั้นหาก 35 ล้านคน หันมาใส่ผ้าไทยก็จะสร้างรายได้กลับสู่ชุมชนเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากสู่ความมั่นคงมั่งคั่งยั่งยืน สืบสานภูมิปัญญาในวันนี้จ.แพร่ ได้จัดงาน 1191 ปี คือสิ่งที่สืบทอดจากบรรพบุรุษที่ต้องรักษาไว้อย่างยิ่ง

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า สภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ได้คำนึงถึงพระมหากรุณาธิคุณ ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชนนีพันปีหลวงทรงรื้อฟื้นผ้าไทยมาตั้งแต่ พ.ศ.2514 ทรงให้ชาวบ้านทอผ้าเพื่อไปตัดชุดฉลองพระองค์และพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นค่าผ้าและส่งเสริมพัฒนาฝีมือและจัดประกวดการทอผ้าทำให้พวกเราได้ทราบถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านให้ตระหนักถึงความเป็นตัวตนของคนไทยผ่านการทอผ้าดังเช่น การส่วนใส่ผ้าหม้อห้อมของคนแพร่ ที่เป็นเอกลักษณ์ที่ชัดเจนดังนั้นเราต้องร่วมมือกันในการเชิญชวนภาคีเครือข่ายในจังหวัดร่วมถึงส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชนในการร่วมกันสวมใส่ผ้าไทย หากคนไทย 35   ล้านคนใส่ผ้าไทยเพิ่มขึ้นคนละ 10 เมตร เมตรละ 300 บาท จะสร้างรายได้ 105,000 ล้านบาท ซึ่งรายได้ดังกล่าวนั้นจะกระจายถึงคนในชุมชนและอีกหลายชีวิต จะทำให้เศรษฐกิจของชาติเกิดการหมุนเวียนเกิดความมั่นคงด้านเครื่องนุ่งห่มรวมทั้งแสดงถึงการมีวัฒนธรรมที่ดีงาม จ.แพร่ มีศิลปินแห่งชาติคนสำคัญได้แก่ นางประนอม ทาแปง ที่มีส่วนช่วยทำให้งบประมาณของพช.ได้รับงบประมาณในการพัฒนาโอทอป ในปี 2563 อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย จ.แพร่มีผ้าหม้อห้อม อันเป็นสีเดียวกับพช. คงต้องสั่งซื้อผ้าหม้อห้อมแล้วใส่ตรากรมการพัฒนาชุมชนให้เจ้าหน้าที่ใส่ทำงานสัก 1 วัน โดยจะคัดเลือกร้านที่มีกำลังการผลิตและจะคัดเลือกแบบอีกครั้ง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image