จี้ขยายเวลาถึงมี.ค.63 นำเข้ามะพร้าวนอก 3.2 หมื่นตัน ’15’ โรงงานกะทิอ้างสั่งซื้อไม่ทันตามกำหนด

เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม นายสายชล ชนะภัย รองประธานสภาเกษตร จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในฐานะคณะอนุกรรมการบริหารจัดการสินค้ามะพร้าว คณะกรรมการพืชน้ำมันและน้ำมันพืช เปิดเผยว่า หลังจากการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารจัดการสินค้ามะพร้าวครั้งล่าสุด มีมติเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการพืชน้ำมันและน้ำมันพืช เห็นชอบการจัดสรรปริมาณนำเข้ามะพร้าวผลในโควตาภายใต้กรอบความตกลงการค้าเสรีอาเซียนหรืออาฟต้า ปี 2562 ภาษีนำเข้า 0 % ให้กับผู้ประกอบการแปรรูปมะพร้าว 15 ราย ปริมาณนำเข้า 3.2 หมื่นตัน หรือ 26 ล้านผล กำหนดให้นำเข้าภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2562 ล่าสุดเจ้าของโรงงานกะทิมีหนังสือถึงสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.)ในฐานะเลขานุการอนุกรรมการบริหารฯ เพื่อขอให้มีการพิจารณามีมติขยายเวลานำเข้ามะพร้าวนอกในตามโควตาเดิมปี 2562 ถึงเดือนมีนาคม 2563

นายสายชล กล่าวว่า ผู้ประกอบการอ้างว่าเนื่องจากระยะเวลาในการอนุมัตินำเข้าของกรมการค้าต่างประเทศมีปัญหาจากเงื่อนไขระยะเวลากระชั้นชิด ผู้ประกอบการไม่สามารถบริหารจัดการเพื่อนำเข้าได้ทั้งหมด ตามที่กำหนดไว้ภายในวันที่ 31 ธันวาคม นี้ ขณะที่การนำเข้าตามกรอบอาฟต้าในปี 2563 ยังไม่มีการอนุมัติแต่อย่างใด และ ล่าสุดราคามะพร้าวผลที่ อ.ทับสะแก เหลือผลผลิตเพียง 40 % ทำให้มีราคาซื้อขายหน้าสวนผลละ 22 บาท ซึ่งเชื่อว่ามีเพียงพอกับความต้องการในการบริโภคภายในประเทศ แต่จะมีปัญหากับการผลิตเพื่อส่งออกของภาคอุตสาหกรรมโรงงานกะทิแปรรูป หลังจากวัตถุดิบในประเทศมีน้อยตามฤดูกาล ส่วนการเคลื่อนไหวของเครือข่ายชาวสวนมะพร้าวระดังจังหวัดถือเป็นการกระตุ้นเตือนให้หน่วยงานภาครัฐทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคเพื่อไม่ให้มีความผิดพลาดจากการกำหนดนโยบายและมีการประกาศกฎกระทรวงเพื่อให้กลไกราคามีเสถียรภาพคุ้มค่ากับต้นทุนการผลิตของเกษตรกร

นายประมวล พงศ์ถาวราเดช สส.เขต 3 จ.ประจวบคีรีขันธ์ พรรคประชาธิปัตย์ อดีตประธานอนุกรรมาธิการแก้ไขปัญหาราคามะพร้าวตกต่ำ กล่าวว่า ที่ผ่านมาทุกภาคส่วนได้เร่งรัดดำเนินการตามข้อเรียกร้อง โดยมีเจ้าหน้าที่ภาครัฐเดินทางไปพบกับแกนนำเครือข่ายฯแล้ว และอนุกรรมาธิการได้เสนอผลรายงานการศึกษาให้สภาผู้แทนราษฎรรับทราบแนวทางที่ชัดเจนแล้ว ทั้งการนำเข้ามะพร้าว และเรื่องอื่นๆที่ไม่ส่งผลกระทบกับชาวสวน 29 จังหวัดในประเทศในระยะยาว ส่วนการปิดป้ายใน อ.บางสะพานเพื่อสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลทำงานล้มเหลวนั้น ขณะนี้ราคามะพร้าวผลในประเทศยังไม่มีผลกระทบจากการนำเข้าตามกรอบอาฟต้าล่าสุด ขณะที่ราคาซื้อขายที่เหมาะสมควรอยู่ที่ผลละ 15 บาท เพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับผู้บริโภคภายในประเทศ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image