เครือข่ายชาวสวนมะพร้าวประจวบฯสุดทน! ขึ้นป้ายจวกรัฐบาลแก้ปัญหาไม่ได้

นายพงษ์ศักดิ์ บุตรรักษ์ แกนนำเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนมะพร้าว จ.ประจวบคีรีขันธ์ นำตัวแทนครือข่ายชาวสวนฯกว่า 100 คน ติดตั้งป้ายขนาดใหญ่ 8 จุด บริเวณริมถนนสายท่าหล่อ – หนองระแวง พื้นที่ ต.ธงชัย ต.กำเนิดนพคุณ อ.บางสะพาน โดยมีข้อความที่แสดงถึงสาเหตุความล้มเหลว ในการบริหารจัดการสินค้ามะพร้าวของเกษตรกรทั่วประทศต่อเนื่องนานหลายปี โดยเฉพาะ จ.ประจวบคีรีขันธ์ซึ่งมีพื้นที่ปลูกมากที่สุด ภายหลังเครือข่ายเกษตรกรฯมีข้อเรียกร้องถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอให้เออกมาตรการควบคุมให้ชัดเจน แต่ปัจจุบันยังมีปัญหาจากการลักลอบนำเข้ามะพร้าวเถื่อนที่มีการปนเปื้อนของแมลงศัตรูพืช

นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้มีการระบาดของหนอนหัวดำขยายวงกว้างจากกรณีนายทุนซื้อสวนมะพร้าวไว้ แต่ไม่ได้รับผิดชอบดูแลสวน ทำให้มีผลกระทบกับสวนมะพร้าวแปลงข้างเคียง แม้ว่าเจ้าของสวนจะดูแลรักษาดีอย่างไรก็ยังมีปัญหา โดยเฉพาะสวนมะพร้าวอินทรีย์ในพื้นที่ ต.ธงชัย ที่ผลผลิตมีราคาสูงถึงผลละ26 บาท และมีตลาดส่งออกต่างประเทศรองรับ ทำให้ชาวสวนมะพร้าวอินทรีย์บางรายต้องใช้ยาฉีดป้องกันแมลงโดยการเจาะลำต้นมะพร้าว และจะหมดโอกาสในการขายผลผลิตไปต่างประเทศนาน 3 ปี ขณะที่ยาฉีดจะหมดอายุภายใน 6 เดือนเท่านั้น

“เครือข่ายชาวสวนไม่ได้เรียกร้องของบประมาณเพื่อช่วยเหลือ แต่ขอเรียกร้องให้รัฐมนตรีว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งพิจารณาออกกฎกระทรวงเพื่อบังคับให้เจ้าของสวนที่ปล่อยทิ้งร้างเป็นแหล่งสะสมของแมลงจัดการปัญหาก่อนถึงฤดูแล้งช่วงที่แมลงระบาดอย่างหนัก หากไม่สนใจตามระยะเวลาที่เหมาะสมเจ้าหน้าที่เกษตรอำเภอสามารถเข้าไปดำเนินการตามกฎหมายได้ทันทีเพื่อป้องกันการระบาดเพิ่ม ทั้งการเรียกค่าเสียหายเพื่อชดเชยให้เจ้าของสวนข้างเคียง ขณะที่การใช้งบของกระทรวงเกษตรฯที่ผ่านมามีการใช้งบกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อเจาะลำต้นมะพร้าวฉีดสารเคมี 2 รอบแต่ยังไม่ได้แก้ปัญหาในระยาว” นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว

แกนนำเครือข่าย กล่าวอีกว่า หากมะพร้าวในประเทศในแหล่งปลูกสำคัญที่ อ.บางสะพาน อ.ทับสะแก โดนแมลงระบาดหนักทำให้ผลผลิตเหลือน้อย กลุ่มทุนเจ้าของโรงงานผลิตกะทิก็จะได้รับประโยชน์จากข้ออ้างในการนำเข้ามะพร้าวนอกเพิ่ม จะทำให้มีปัญหาทับซ้อนในการแก้ไขปัญหาจากกลไกด้านราคาที่ชาวสวนประสบวิกฤตนานกว่า 2 ปี ที่ผ่านมาได้ยื่นหนังสือหลายครั้ง ผ่านหลายหน่วยงาน ยื่นผ่าน ส.ส.ในพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม 2562 ยื่นผ่านศูนย์ดำรงธรรมบางสะพานวันที่ 18 ตุลาคม 2562 และเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมายื่นผ่านสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้แก้ไขปัญหาการระบาดของแมลง แต่ยังไม่มีการตอบรับ ไม่มีใครมาพูดคุยหาทางแก้ปัญหา

Advertisement

“เครือข่ายฯไม่ได้ห้ามนำเข้าหรือขอให้ปิดโรงงานกะทิ แต่การนำเข้ามะพร้าวนอกต้องเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายส่วนร่วมในการตัดสินใจ ไม่ควรปิดบังข้อมูล เนื่องจากในปี 2560 – 2561 นำเข้าเฉลี่ยเดือนละ 40 ล้านผล ทำให้มีปัญหากระทบผลผลิตในประเทศอย่างชัดเจน” นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวและว่า ซึ่งล่าสุดรัฐมนตรีว่าการะทรวงพาณิชย์อนุมัติให้นำเข้าตามกรอบการค้าเสรีอาเซียนหรืออาฟต้า 3.2 หมื่นตัน หรือ 26 ล้านผล ภาษี0 % แต่ไม่มีกฎระเบียบที่ชัดเจน ไม่ประกาศให้มะพร้าวเป็นพืชเศรษฐกิจเป็นความมั่นคงทางอาหาร ไม่มีแนวทางทำให้ราคาในประเทศคุ้มกับต้นทุนการผลิต อย่าให้ต่ำกว่าผลละ 15 บาท และหากราคามีความยั่งยืน ยืนยันว่าชาวสวนมีความพร้อมจะพัฒนาคุณภาพผลผลิตโดยไม่ต้องใช้งบของทางราชการเข้ามาส่งเสริม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image