วันที่ 31 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน เรื่อง ถนนเลียบคลองระพีพัฒน์ของชลประทาน อ.หนองแค จ.สระบุรี ว่ามีฝุ่นละอองฟุ้งเต็มไปหมด ขับรถจักรยานยนต์สัญจรไปมาลำบาก ถ้าขับสวนกับรถยนต์เสื้อผ้าเปื้อนฝุ่น และผมเป็นสีขาว ที่ หมู่ 6 ต.กุ่มหัก อ.หนองแค จ.สระบุรี
ตรวจสอบที่เกิดเหตุดังกล่าว พบ ชาวบ้านซึ่งเป็นตัวแทนกว่า 20 คน ยืนรอการร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว และได้พาไปดู ถนนลาดยางที่ทรุดและแยกเป็นร่อง ถนนสายนี้เป็นถนนหลักยาวเป็นสิบๆกิโลเมตร บางช่วงเป็นถนนลาดยาง บางช่วงเป็นถนนลูกรัง ที่ประชาชนและชาวบ้านแถวนี้ ได้ใช้ถนนเส้นนี้สัญจรกันเป็นประจำ ถือว่าเป็นถนนหลักของชาวบ้าน สังเกต เห็นรถขับผ่าน ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ขับผ่านช่วงที่เป็นถนนลูกรัง มีระยะทางยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ได้ขับรถกันอย่างเร็ว กลัวฝุ่น โดยที่ไม่สนใจที่รถจะขับสวน ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ จึงทำให้ชาวบ้านที่ขับรถผ่านช่วงเป็นถนนลูกรัง ทำให้เสื้อผ้าเปื้อนและผมขาวตามๆกัน ขนาดต้นไม้ที่อยู่ข้างทางใบไม้ยังหนาเต็มไปด้วยฝุ่นละออง และถนนที่ชำรุดชาวบ้านยังต้องใช้ล้อยางรถยนต์มาวางไว้ เพื่อให้รถที่สัญจรไป-มาได้มองเห็น
นาง ชวิชุดา อ่อนตา อายุ 53 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 12 ต.กุ่มหัก เล่าให้ฟังว่า ชาวบ้านหลายหมู่ในตำบลกุ่มหัก เดือดร้อนการสัญจรไป-มา กับถนนสายเส้นนี้มานานหลายปีแล้ว เคยร้องเรียนไปหลายครั้งแล้ว ไม่ว่าจะเป็นที่ อบต.กุ่มหัก ก็บอกว่า ไม่ใช่เขตที่รับผิดชอบ เป็นของชลประทาน พอไปหาชลประทาน ก็บอกว่า รับผิดแค่ขอบคลองชลประทานเท่านั้น เขาโยนกันไป-มา จนชาวบ้านไม่รู้ว่าจะไปพึ่งใครดี เพราะหน่วยงานไหนก็ไม่มีใครรับผิดชอบ อยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบถนนเส้นนี้ให้มาซ่อมแซมถนน ให้ชาวบ้านได้ใช้กันอย่างสะดวกสบายหน่อย เพราะว่าเดือดร้อนกันมาก จากฝุ่นละออง พอหน้าฝนก็จะเป็นหลุมเป็นบ่อแฉะ ทำให้รถจักรยานยนต์ที่สัญจรกันไป-มา เกิดอุบัติเหตุลื่นล้ม และพระที่ออกบิณฑบาตลำบาก เพราะถนนแฉะ เด็กนักเรียนและชาวบ้านจะใช้ถนนเส้นนี้เป็นหลัก เวลาขับรถจักรยานยนต์ไปส่งเด็กนักเรียนเสื้อผ้าและผมเปื้อนฝุ่นละอองแดงเต็มไปหมด ชาวบ้านส่วนใหญ่จะใช้รถจักรยานยนต์ไปซื้อของหรือซื้อกับข้าวที่ตลาด และต้องผ่านถนนเส้นนี้เป็นหลักหลายหมู่บ้านกันเป็นประจำ
ส่วนถนนที่ลาดเป็นยางมะตอย ขณะนี้ก็ได้ชำรุดทรุดและมีร่องแตกแยกเป็นร่องยาว ทำให้รถยนต์สัญจรสวนกันไป-มา ไม่ได้ ต้องมีฝั่งใดฝั่งหนึ่งที่ต้องหยุดจอดและให้อีกฝั่งหนึ่งผ่านมาก่อน ชาวบ้านจึงอยากให้สื่อช่วยนำเสนอข่าวให้กับผู้รับผิดชอบมาซ่อมแซมถนนสายนี้ อย่าให้ชาวบ้านรุกฮือรวมตัวกันไปร้องเรียนถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีเลย
