เมื่อวันที่ 1 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพิจิตร ว่า สถานการณ์ภัยแล้งจังหวัดพิจิตรทวีความรุนแรงมากขึ้นระดับน้ำในแม่น้ำน่านที่ไหลผ่าน 3 อำเภอ ประกอบไปด้วย อำเภอเมืองพิจิตร อำเภอตะพานหิน อำเภอบางมูลนาก มีปริมาณลดระดับลงต่อเนื่องจนเห็นหินทราย สาเหตุน้ำในเขื่อนใหญ่ คือ เขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน มีปริมาณเหลือน้อย ไม่สามารถปล่อยน้ำให้กับเกษตรกรชาวนา เพื่อทำนาได้ เนื่องจากต้องกักเก็บน้ำไว้ใช้ในการอุปโภค-บริโภค และรักษาระบบนิเวศ ได้เท่านั้น
ด้านนายภาณุวัฒน์ ยุทธนาระวีศักดิ์ รองนายกเทศบาลตำบลหอไกร อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่พบกับแกนนำเกษตรกรชาวนา ตำบลหอไกร อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร เพื่อทำความเข้าใจ และชี้แจงว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำเหนือเขื่อนมีจำนวนน้อยหลังจากได้รับหนังสือแจ้งเตือนจากชลประทาน ดังนั้น จะระบายน้ำมาเพื่อระบบนิเวศเท่านั้น จึงขอให้ชาวนาขอให้งดการทำนาปรังแล้วหันมาปลูกพืชใช้น้ำน้อย เนื่องจากปีนี้สถานการณ์ภัยแล้งส่อเค้าว่าจะรุนแรงกว่าทุกปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าระดับน้ำในแม่น้ำน่านลดลงต่อเนื่อง
สำหรับแม่น้ำน่านไหลผ่านพื้นที่จังหวัดพิจิตร 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองพิจิตร อำเภอตะพานหิน และอำเภอบางมูลนาก ระยะทาง 97 กิโลเมตร ที่ผ่านมาเป็นแม่น้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากมีเขื่อนขนาดใหญ่ ได้แก่ เขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดนที่จะทยอยส่งน้ำเพื่อหล่อเลี้ยงต้นข้าวในพื้นภาคเหนือตอนล่างก่อนที่จะไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา แต่หลังจากประสบปัญหาภัยแล้งรุนแรงในปีนี้ส่งผลให้แม่น้ำน่านแห้งขอดรุนแรงที่สุดในรอบ 20 ปี
